สัปดาห์นี้ขอเริ่มด้วยการเล่าถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การพัฒนาผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง” ที่รัฐบาลได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด CEO มาประชุมพร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๖

                ท่านนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตรได้เป็นองค์ประธานบรรยายนำ  หลายคนคงได้มีโอกาสติดตามการถ่ายทอดสด หากพลาดไม่ได้ดู ควรพยายามหาเทปมาดู เพราะสื่อสารอย่างไรคงไม่เหมือนกับได้รับฟังจากท่านนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่เพื่อสร้างแรงจูงใจในการไปติดตามดู ดิฉันขอหยิบยก บางประเด็นที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเน้น มาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นข้อคิดในการทำงาน

                ๑.  เป้าหมายปลายทางของการพัฒนา คือ ความผาสุก  ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ   ระลึกเสมอว่าทำอะไรต้องลดค่าใช้จ่ายของประชาชน  เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และขยายโอกาสให้ประชาชน ส่วนวิธีการอาจปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม แต่ในทุกวิธีต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง  ทำสังคมให้สะอาด ไม่มีอะไรกัดกร่อน  

                ๒.  การบริหารแบบเดิม ๆ ไปไม่รอดแน่ วิธีคิดวิธีทำงานต้องเปลี่ยน ไม่ต้องรอให้คนมากดดันจึงเปลี่ยน  เพราะเปลี่ยนแบบจนมุมจะไม่ได้ผลเท่ากับการเปลี่ยนแปลงเอง ในขณะเดียวกันไม่ต้องรอให้ทุกเรื่องสมบูรณ์จึงจะเปลี่ยนให้ลงมือปฏิบัติ เรียนรู้ ติดตาม แก้ไข ทำตัวเป็น “สีดาลุยไฟ”  (ไม่ใช่พระรามลงสรง  ดิฉันเติมเอง)

                ๓.  การลงมือทำ แม้จะมีข้อบกพร่อง หากเกิดจากความปรารถนาดีจะได้รับการให้อภัย  แต่การนั่งทับปัญหาไม่ทำงาน  การดื้อด้านต่อการเปลี่ยนแปลง การทำงานอย่างไม่สุจริต จะถูกจัดการอย่างเฉียบขาด

                ๔.  ท่านเน้นการทำองค์กรให้มีขนาดเล็กและแม้จะยังต้องมีขนาดใหญ่ก็ต้องมีจิตวิญญาณขององค์กรขนาดเล็ก จุดแพ้ชนะขณะนี้อยู่ที่ความเร็ว อยู่ที่ฐานข้อมูล อยู่ที่การกระจายอำนาจให้คนในระดับปฏิบัติตัดสินใจได้

                ๕.  การมีผู้ว่า CEO หรือ Chief  Executive Officer คือ การเป็นประธานคณะผู้บริหาร ท่านย้ำว่าไม่ใช่ประธานผู้ปฏิบัติ คือ  ลงไปทำงานเอง  จะต้องดูแลพื้นที่ทุกตารางนิ้ว  ต้องทำตัวเป็น Leader of leaders  ไม่ต้องรอรับคำสั่งหรือ ทำแต่งานพิธีกรรม  งานประจำ ร้องขอแต่ ๓ M  คือ Man  Money  Materials แต่ไม่ใช้   M ที่ ๔ คือ  Management  

                ๖.  ผู้บริหารต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง up date  ฐานความรู้ของเรา สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้  ปลดปล่อยพลังสมองของคนในองค์กร ให้โอกาสและรับฟังคนคิดแผลง ๆ บ้าง ต้องกระจายอำนาจ ผลักดัน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่  อะไรที่ผิดยกเลิก  Cell   ที่ตายต้องจัดการแก้ไข

                ๗.  ในการทำงาน จะต้องพิจารณาระบบ  Matrix Reporting System (สำหรับผู้ว่าฯ ให้รายงานกระทรวงมหาดไทย / เรื่องที่เกี่ยวกับเกษตรให้รายงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ / รายงานรองนายกรัฐมนตรี)  คือ รายงานหลายทางเพื่อให้ข้อมูลไปสู่ผู้ที่จะมีส่วนแก้ไข ไม่ต้องมีพิธีรีตรอง อย่ามององค์กรในมิติเดียว  แต่ต้องมองความเชื่อมโยงไปสู่องค์กรอื่น มิติอื่น

                 นอกจากนี้ท่านยังฝากคุณสมบัติที่ผู้บริหารและบุคลากรในองค์กรพึงมี ดังนี้

                 ๑.  ระดับพื้นฐาน Global literacy ได้แก่ ภาษาอังกฤษ Internet Informational culture

                 ๒. ระดับแข่งขันกับต่างประเทศ Technological Literacy ความรู้เรื่องภาษา Computer / ความรู้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เป็นสาระจากหนังสือ Rethinking the Future ซึ่งได้แก่

๑. มีวิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า

๒. สื่อสารได้อย่างดี

๓. น่าเชื่อถือ

๔. กล้าได้ กล้าเสีย อย่ากลัวผิด

๕. กล้าคิดนอกกรอบ

๖. กล้าที่จะทำให้องค์กรกระทัดรัด คล่องตัว

                ในวันต่อมาของการประชุมมีการบรรยายที่น่าสนใจอีกมาก โดยเฉพาะของท่านรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เรื่องผู้ว่า CEO ซึ่งจะช่วยให้เห็นถึงความสำคัญและความเชื่อมโยงกับงานในพื้นที่ของเรา หากไม่มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์จะพยายามหาเทปเผยแพร่ต่อไป

http://www.moe.go.th/tuesday/t19082546.htm