บิดาและมารดาของจิตร ภูมิศักดิ์ |
|
นายศิริ ภูมิศักดิ์ มีเชื้อสายมาจากทหารเก่าแห่งวังนารายณ์ ลพบุรี ทำงานสรรพสามิต เมื่อได้ย้ายมาทำงานที่ นครนายกจึงได้พบกับ แสงเงิน ฉายาวงศ์ ลูกสาวพ่อค้าร้านโซห่วย และได้แต่งงานกันในปี พ.ศ.2471 โดยมี ขุนวิธารธุระกรรม(ทองสุข สุขทวี) นายอำเภอเมืองนครนายกเป็นเจ้าภาพ นายตรวจสรรพสามิต ต่อมาย้ายไปรับราชการที่ปราจีนบุรี กาญจนบุรี สมุทรปราการและย้ายต่อไปที่พระตะบอง ซึ่งขณะนั้นยังเป็น ราชอาณา จักรของไทย ความรักของนายศิริกับนางแสงเงินก็มาร้าวรานลงที่พระตะบอง ซึ่งภิรมณ์ ภูมิศักดิ์ ลูกสาวได้บันทึกไว้ว่า " คุณแม่ไม่เคยได้รับรักเดียวใจเดียวจากผู้เป็นที่รัก ปีแล้วปีเล่าที่ต้องทนขมขื่นกับความรู้สึกกลัดหนองเมื่อทั้งรู้ทั้งเห็น ว่าผู้ที่ตนรัก เอาใจไปแบ่งปันให้หญิงอื่น เอาทรัพย์สินที่หาได้ไปบำเรอหญิงอื่น โดยไม่ไยดี ต่อบุคคลในครอบครัว... วันหนึ่ง ลูกๆก็ได้ทราบว่าคุณแม่ตัดสินใจเด็ดขาด แยกทางเดินกับคุณพ่อ ลูกๆทราบอย่างไม่ตกอกตกใจ เพราะความ ทุกข์ของ แม่นั้น เรารู้อยู่เต็มอก "
|
นายศิริเมื่อแยกทางกับนางแสงเงินแล้ว ได้ลาออกจากราชการ เดินทางไปอยู่ที่นครราชสีมา แรกๆก็เปิดร้าน ซ่อมจักรยานอยู่ที่วัดแจ้ง (บริเวณลานโพธิ์กลาง ใกล้ๆเทศบาลนครราชสีมา) ทรัพย์สินติดตัวมาหลังจากเลิกกับภรรยา เก่ามีทองคำหนักหนึ่งบาท ปืนสั้นหนึ่งกระบอก และเสื้อผ้าอีกหนึ่งกระเป๋า จากนั้นก็แต่งงานใหม่กับสาวโคราชซึ่ง มีอาชีพค้าขาย
หลังจากแต่งงานใหม่ไม่กี่ปี นายศิริก็เข้าทำงานในบริษัททหารสามัคคี จำกัด ของจอมพลผิณ ชุณหะวัณ ซึ่งตั้งอยู่ที่โคราช ได้ทำหน้าที่เสมียนตรวจบัญชีของบริษัท จนถึงปี พ.ศ.2496 ได้พาครอบครัวไปอยู่ที่อำเภอ พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตามคำร้องขอของมารดา ที่ประสงค์จะให้ลูกชายมาอยู่ใกล้ๆ นายศิริกับภรรยาใหม่เปิดร้านขายจักรยานพร้อมทั้งอะไหล่ และรับซ่อมตระเกียงเจ้าพายุและรับซ่อมจักรยานไปด้วย และได้มีลูกด้วยกันสี่คน
ในบั้นปลายชีวิต นายศิริบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดในนิคมฯ เป็นการบวชแก้บนในระหว่างรักษาโรคเรื้อรังประจำตัว อยู่ห้าปี จึงลาสิกขาบท ต่อมาเขาได้เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อปี พ.ศ.2517 รวมอายุได้ 69 ปี
|
นางแสงเงิน ฉายาวงศ์ เป็นบุตรสาวของเถ้าแก่ร้านโซห่วย ที่นครนายก เมื่อได้แต่งานกับนายศิริ ภูมิศักดิ์ ก็ต้องย้ายที่อยู่ติดตาม สามีไปตามที่ต่างๆ หลังจากได้แยกทางกับนายศิริ ภูมิศักดิ์ เมื่อครั้งอยู่พระตะบองแล้ว ก็ได้ย้ายมาอยูที่ลพบุรี เปิดร้านขายเสื้อผ้า หาเงินส่งลูกสาวและลูกชายเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ.2520 นางแสงเงิน ได้เสียชีวิตลง และงานณาปณกิจ จัดในอีกสองปีต่อมา
|