โทรมหญิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 276 บัญญัติว่า
"ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยขู่เข็ญด้วยประการใด
ๆ โดยใช้กำลัง
ประทุษร้าย
โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตน
เป็นบุคคลอื่น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก
ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน
หรือวัตถุระเบิด
หรือโดย
ร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่
สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
หรือจำคุกตลอดชีวิต"
มาตรา
83 บัญญัติว่า
"ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ผู้ที่ได้ร่วมกระทำ
ความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ
ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น"
มาตรา
86 บัญญัติว่า
"ผู้ใดกระทำด้วยประการใด
ๆ
อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำ
ความผิด
ก่อนหรือขณะกระทำความผิด
แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้
ความสะดวกก็ตาม
ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
ต้องระวางโทษสองในสามส่วน
ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น"
จำเลยทั้งสามกับพวกพาผู้เสียหายไป
แล้วจำเลยที่ 3
กระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายยินยอม
เมื่อจำเลยที่ 3
ออกจากห้องไปแล้วปล่อยให้จำเลยที่
1 และที่ 2 กับพวกอีก 2 คน
ผลัดเปลี่ยน
หมุนเวียนเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย
จำเลยที่ 3
จะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ศาลฎีกาได้
วินิจฉัยเป็นคำพิพากษาศาลฎีกาที่
1489/2543 ว่า
จำเลยทั้งสามกับพวกได้ร่วมกันพาผู้เสียหายไปที่บ้านเกิดเหตุเพื่อกระทำชำเรา
จำเลยที่ 3
กระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายยินยอม
จึงไม่มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา
แต่ เมื่อจำเลยที่ 3
ออกไปจากห้องแล้วปล่อยให้จำเลยที่
1 ที่ 2 และพวกอีก 2 คน
ผลัดเปลี่ยน
หมุนเวียนเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในห้องทีละคนโดยจำเลยที่
3 มิได้ขัดขวาง
หรือห้ามปรามแต่อย่างใด
ถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่
1 ที่ 2 และพวกอีก 2 คน
ก่อนหรือขณะกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะเป็นการ
โทรมหญิง จำเลยที่ 3
จึงมีความผิดเป็นผู้สนับสนุนตาม
ป.อ.ม.86
(คำพิพากษาศาลฎีกาของสำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ปี 2543 เล่ม 3 หน้า 140)
หมายเหตุ
ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยในคำพิพากษาศาลฎีกาที่
1715/2528 ว่า
ก่อนเกิดเหตุจำเลยอยู่ในกลุ่มของพวกที่ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย
และขณะเกิดเหตุ
จำเลยนั่งอยู่กับพวกที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุถือเสื้อให้เพื่อนที่เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราและ
เพื่อดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแจ้งเหตุร้ายแก่ผู้กระทำความผิด
ดังนี้
ถือได้ว่าจำเลยร่วมกระทำ
ความผิดแล้ว
คดีแรก
จำเลยที่ 3
กระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายยินยอมจึงผิดแค่ผู้สนับสนุนระวางโทษ
สองในสามของความผิดฐานโทรมหญิง
ตาม ม.86
คดีที่สอง
จำเลยไม่ได้กระทำชำเราผู้เสียหาย
แค่ถือเสื้อเฝ้าหน้าห้อง
ผิดเป็นตัวการลงโทษเต็ม
ตาม ม.83
Thailegal
19/01/44
|