ข่าวจุลสาร

ระวัติสมาคมภัตตาคารไทย สมาคมภัตตาคารไทย ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2520 โดยมีคุณปวรวรรณ กุลมงคล ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมภัตตาคารไทยคนปัจจุบัน ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่ 2 (1 วาระ = 2 ปี) สมาคมการค้านี้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 และอยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงานทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด กรุงเทพมหานคร มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "THAI RESTAURANT ASSOCIATION" ตั้งอยู่ที่เลขที่ 1783/91 ซอยลาดพร้าว 35/2 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320  โทร 02 - 938 - 0696  แฟกซ์ 02 - 938 - 0697  อีเมลล์ tra_as@yahoo.com


ประโยชน์ที่ได้รับจากการเป็นสมาชิกสมาคมภัตตาคารไทย

1. ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพในกิจการร้านอาหารและภัตตาคาร จากภาครัฐและเอกชน
2. ได้รับการอบรมด้านอาหารและภัตตาคารฟรีจากสมาคมภัตตาคารไทยและหน่วยงานอื่นๆที่ร่วมมือกัน
3. ได้รับราคาซาปั๊วสำหรับสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่เป็นพันธมิตรกับ สมาคมภัตตาคารไทยขณะนี้ได้แก่ สิงห์ และสินค้าที่ตอบตกลงมาแล้วอาทิน้ำมันพืชมรกต,น้ำมันพืชทิพ
4. ได้พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนข้อมูลจากเพื่อนร่วมอาชีพ เช่นจากการเจอกันตามงานอบรม.งานสังสรรค์ประจำปีที่ สมาคมภัตตาคารจัดขึ้น
5. หากสมาชิกหรือชมรมใดมีปัญหาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ ทางสมาคมจะเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานนั้นๆ อาทิ กระทรวงแรงงาน,กระทรวงการท่องเที่ยวฯ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,กระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
6. หากมีกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆที่สามารถออกบูธขายขายฟรีได้ทางสมาคมจะเป็นผู้ติดต่อหรือบอกข่าวประชาสัมพันธ์แก่สมาชิก

หลักการเป็นสมาชิกของสมาคมภัตตาคารไทย

สมาชิกของสมาคมฯแบ่งออกเป็น 4 ประเภท และมีคุณสมบัติดังนี้คือ
1.สมาชิกสามัญได้แก่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจประเภทเกี่ยวกับธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
2.สมาชิกวิสามัญได้แก่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจในทางการค้าอุตสาหกรรมหรือการเงินอันเกี่ยวเนื่องกับ การประกอบธุรกิจการประกอบอาหารเครื่องดื่มซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
3.สมาชิกตลอดชีพ ได้แก่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจประเภทเกี่ยวกับ ธุรกิจด้านอาหาร
และเครื่องดื่ม ซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
4.สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้อุปการะแก่สมาคม
ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้เข้าเป็นสมาชิกและผู้นั้นตอบรับเชิญ

การโอนเงินค่าสมัครเป็นสมาชิกสมาคมภัตตาคารไทย

โอนเงินชื่อบัญชี " สมาคมภัตตาคารไทย "
บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารเอเชีย สาขาลาดพร้าว 81 อิมพีเรียล
บัญชีเลขที่ 108-2-130566

      สมาชิกสามารถโอนเงินทางบัญชีธนาคารและนำใบสลิบส่วนที่ธนาคารให้ไว้นำมาเป็นหลักฐานและส่งพร้อมหลักฐานการสมัครตามที่กล่าวข้างต้นได้ทางจดหมายลงทะเบียน(เพื่อกันหาย)ส่งมาที่สมาคมภัตตาคารไทยหรือสมาชิกใหม่ท่านใดสะดวกสามารถมาสมัครได้ที่ทำการตามที่อยู่ในแผนที่และชำระเงินได้ซึ่งทางสมาคมฯจะมีใบเสร็จของสมาคมฯให้ไว้เป็นหลักฐานการเป็นสมาชิก

การชำระค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกและค่าบำรุงสมาคมฯ

1. สมาชิกสามัญจะต้องชำระค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปีๆละ 300 บาท (สามร้อยบาทถ้วน)
2. สมาชิกวิสามัญจะต้องชำระค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปีๆละ 500บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน)
สมาชิกตลอดชีพจะต้องชำระค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงครั้งเดียว 500 บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน) (สามัญ)
3. ชมรมจะต้องชำระค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงสมาคมครั้งเดียว1,000บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)
4. สมาชิกกิตติมศักดิ์ไม่ต้องชำระค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุงอย่างใดทั้งสิ้น

คณะกรรมการสมาคมภัตตาคารไทยชุดล่าสุด

นายกสมาคมภัตตาคารไทย

1.นางปวรวรรณ กุลมงคล

 

         ที่ปรึกษาสมาคมภัตตาคารไทย

             1. นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์
             2. นายมนูญ พุฒทอง
             3. นายประสงค์ศักดิ์ อักษรมัต
             4. นายสุพิทย์ หมื่นนิกร
             5. อาจารย์รัชดา ขอประเสริฐ
             6. นายสันติ เศวตวิมล
             7. ผศ.ศรีสมร คงพันธุ์
             8. นายสันติ อิ่มใจจิตต์
             9. นายทวีสิน สถิตย์รัตนชีวิน
            10. อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์
            11. มล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์
            12. นายอุทัย ตรีบุญเมือง
            13. นางยมนา จักรพันธุ์

 

กรรมการสมาคมภัตตาคารไทย        
1. นางนุชนารถ วิรัตน์โยสินทร์              
2. นายสมพงศ์ จิระพรพงศ์                  
3. นายศุภโชค ทรัพย์สุคนธ์                   
4. นางพรทิพย์ ปัญญาสกุลวงศ์              
5. นางสาวกาญจนา ไทยลิ่มทอง              
6. นายยศกร อยู่เกตุ                            
7. นางนิลุบล ทองประสงค์                     
8. นายอนุชา อมรนิมิตร                        
9. นางอารีวรรณ ฐิตญาณพงศ์                 
10. นางอนงค์ สันติวรางกูร                   
11. นายสุภัค หมื่นนิกร                       
12. นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี                 
13. นายมนิตย์ สีฆสัมบันน์                   
14. นายเฉลิมพล ชาญวิเศษ
15. นายบุญเสริม ถาวรกุล
16. นายสุทธินันท์ สุทธิวรกุลชัย
17. นายสนธยา ศรีเวียงธวัช
18. นายวัชรา พรหมเจริญ
19. นายศากุน เอี่ยมศิลา
20. นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์

บทสัมภาษณ์นายกสมาคมภัตตาคารไทย

การเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมภัตตาคารไทย
"ที่เข้ามาตรงนี้ได้เพราะพี่มีเพื่อนทำที่สมาคมภัตตาคารอยู่แล้วซึ่งรู้จักกันในสถาบันเดอะบอสตอนนั้นเขาเป็นนายกสมาคม ชื่อคุณสุพิศ  หมื่นนิกรชวนพี่เข้ามาเป็นกรรมการประชาสัมพันธ์ของสมาคมพอพ้นสมัยคุณสุพิศก็เป็นสมัยของอาจารย์รัชดา หอประเสริฐก็ได้มาเป็นอุปนายกสมาคมมาช่วยทำงานพี่มาอยู่ที่สมาคมเกือบ4ปีจากนั้นได้เข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมภัตตาคารไทย จนกระทั่งปัจจุบัน"

นโยบายของสมาคมฯคืออะไร
งานของสมาคมภัตตาคารช่วงที่พี่เข้ามาทำนั้นภาครัฐบาลได้ให้นโยบายว่างานร้านอาหารเป็นงานหัวใจของประเทศเพราะว่าเราดูแลความอยู่ดีกินดีของผู้คนที่กินที่ร้านอาหารขอเรา ถ้าเราทำอาหารดีสุขภาพดีไม่มีอะไรที่เป็นพิษในร่างกายกระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องตั้งงบประมาณรักษาโรคมาเป็นหมื่น ๆล้านและไม่ต้องพึ่งยาถ้าอาหารกินแล้วไม่มีพิษมีภัยกับร่างกาย"ในแง่ของนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทย ส่วนใหญ่อยากกินอาหารไทยแท้ อาหารพื้นเมือง ที่จะกินที่โรงแรมเขาก็กินเมื้อเช้ามื้อเย็นสักมื้อ เสร็จแล้วนักท่องเที่ยวจะพยายามไปร้านอาหารหรือภัตตาคาร บางคนชอบหาเองก็แถวข้างโรงแรม หรือบางคนก็นั่งแท็กซี่ไปหรือไม่งั้นบางคนให้ทัวร์จัดให้ฉะนั้นมันเป็นความรับผิดชอบอันหนึ่งที่ว่าร้านอาหารเราสามารถช่วยชาติได้ ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่รัฐบาลพยายามดึงเงินตรานักท่องเที่ยวเข้ามาถ้าเราทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจเรื่องรสชาติอาหาร ตอนนี้เขาวิจัยพบว่า30เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพราะติดใจอาหารไทยถ้าติดใจแล้วอยากอยู่กินภาคโน้นภาคนี้ หรือแม้ว่าเขากินแล้วก็บอกกันต่อๆไปว่าอาหารไทยอร่อยเขาก็เข้ามากินกันสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยชาติได้เป็นหนึ่งภารกิจของสมาคมภัตตาคารไทยนั่นก็คือเราต้องการสร้างร้านอาหารไทยให้เป็นมาตรฐานค่อนข้างจะเดียวกันแต่การที่จะนำพาไปถึงการสร้างร้านอาหารมาตรฐานนั้น หมายถึงคนทำร้านอาหารต้องร่วมใจกันเพราะฉะนั้นภารกิจใหม่ของพี่ในขณะนี้คือร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเค้ามีโครงการCleanfoodgoodtasteโครงการนี้ไปดูแลในต่างจังหวัดทุกจังหวัดกระทรวงสาธารณสุขจะตั้งเป็นชมรมร้านอาหารแต่ละจังหวัด พอตั้งมาแล้วตั้งขึ้นมาเฉย ๆ เขาก็รวมตัวกันแบบหลวม ๆ ไม่มีกิจกรรม สมาคมภัตตาคารก็เลยเดินเข้าไปหาเขา พี่เดินสายไปตามจังหวัดต่าง ๆ ไปบอกเขาว่า เวลานี้นโยบาลรัฐบาลแบบนี้ นโยบายสมาคมแบบนี้นะ พวกคุณชมรมร้านอาหาร ขอให้มาเป็นสมาชิกสมาคมภัตตาคาร หนึ่งชมรมของคุณเราถือว่าครอบคลุมทั้งจังหวัด
พี่เดินสาย 10 กว่าจังหวัดแล้ว พอดีที่ผ่านมาได้มีประชุมร้านอาหารทั่วประเทศ ชมรมร้านอาหารทั่วประเทศ ของกระทรวงสาธารณสุขพี่ก็ไปขอโอกาสเขาไปประชุมร้านอาหาร70ร้าน70จังหวัดแล้วก็คุยแบบนี้ว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องรวมตัวกันทำภารกิจให้กับประเทศทำมาตรฐานร้านอาหารของพวกเราขึ้นมาด้วย ปรากฏว่าทุกคนยินดีสมัครเป็นสมาชิกชมรมภัตตาคารทุกจังหวัดในขณะเดียวกันเราตั้งเครือข่ายว่า แต่ละจังหวัด แต่ละภาคอย่างเช่นภาคเหนือเขาทำสำเร็จแล้วภาคเหนือเลือกเชียงรายเป็นประธานภาคพิษณุโลกเป็นรองประธานภาค อุตรดิตถ์เป็นรองประธานภาคจังหวัดต่างๆเป็นรองประธานภาคของภาคเหนือส่งประธานภาคมาเป็นกรรมการสมาคมภัตตาคาร ภาคตะวันออก7จังหวัดส่ง1คนมาเป็นกรรมการสมาคมภัตตาคารตอนนี้เหลือภาคใต้ตะวันตกภาคกลางที่กำลังทำเพื่อหาตัวแทนภารกิจนี้ใหญ่พอสมควรถ้าเรารวมตัวกันแน่น สมาคมภัตตาคารเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สามารถรองรับสารพัดงานของรัฐบาลได้ ช่วยรัฐบาลหาเงินเพิ่มช่วยรับนักท่องเที่ยว

โครงการที่ทำร่วมกับททท.และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคืออะไร?
กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคือพี่เป็น1ในคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งจะมีประชุมทุกเดือนเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารและการท่องเที่ยว

เป้าหมายสูงสุดของการทำงาน
พี่มีวาระ2ปีพี่ตั้งใจให้สมาคมภัตตาคารรวมกันเป็นปึกแผ่นถ้าเราสามารถทำสมาคมทำชมรมร้านอาหารให้เป็นปึกแผ่นยั่งยืนแล้วนี่ เราถึงจะมีกำลังมาพัฒนาตัวร้าน ตัวธุรกิจของพวกเราได้ เพราะเรายังมีความคาดหวังว่าทุกวันนี้ร้านอาหารนี้ดีนะ สำหรับภาครัฐมองว่าเราไม่เป็น NPL เราไม่เหมือนธุรกิจอื่นเพราะเราใช้เงินสดทำธุรกิจร้านอาหาร.

เว็บมาสเตอร์

นส.รดาธร  ศรีสายหยุด  natedown2002@hotmail.com

ชื่อเดิมเนตรดาว อดีตเคยเป็นเลขานุการสมาคมภัตตาคารไทยในปี 2544-2546

ปัจจุบันเป็นอาจารย์และเป็นกรรมการศูนย์ข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี

หนึ่งในภารกิจของศูนย์ฯ คือติดต่อประสานงานและแลกลิ้งค์เว็บไซต์กับแหล่งท่องเที่ยว

ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร ในภาคตะวันออกและทั่วประเทศ