ภาค7 ฮะ อิอิ . .. ... .... เวรกรรมของชิวิต วาวามีคนมาจีบ โอ..........ชายคนนั้นช่างน่างสงสารยิ่งนัก เขาคนนั้นไม่น่าคิดสั้นเลย >_< แต่ก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาในหมู่เพื่อนๆเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับลงทุนเอาไปแทงหวยด้วยซ้ำ เพราะคราวนี้ไม่เหมือนทุกที ชายคนนี้อึดเกินมนุษย์ครับ ........................................ ที่ว่าอึดเกินมนุษย์ผมไม่ได้กล่าวเวอร์แต่อย่างใดแต่ขอบอกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะคนส่วนใหญ่มาจีบวาวาเพราะเธอสวย เจอวาวาแพลงฤทธิไปทีก็หายหน้าหายตาไปทีละคน เลยไม่เป็นที่แปลกใจเลย ที่วาวาไม่เคยมีแฟนมาตลอดหนึ่งปีเต็มที่เรียนมหาลัย แล้วคนที่มาจีบวาวาแต่ล่ะคน ไม่หล่อแบบนายแบบ ก็รวยสุดๆ ไม่ก็รถสวย หรือเรียนเก่งสอบชิงทุนได้สารพัด เอาเป็นว่าคนที่มาจีบวาวาต้องมีดีไม่อย่างก็สองอย่าง แต่คนนี้สิครับ ไม่มีอะไรเลย ย้ำ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ หน้าตาก็งั้นๆ ท่าทางก็ดูข่อนข้างจืด รวยเหรอผมว่าไม่นะดูธรรมดา ส่วนเรื่องเรียนก็ดูท่าทางไม่ให้เลย น่าจะเรียกเป็นจำพวก คนธรรมดาโลกขี้เกียจจำก็ได้ล่ะมั้งเนี่ย ถ้าจะถามว่าผมรู้ได้ไงว่าคนคนนี้จะจีบนะเหรอครับ ผมเจอเขาที่ร้านกาแฟหน้าซอยมหาลัย พวกผมกำลังนั่งบ้า คุยเฮฮากันอยู่ เขาคนนี้เดินมาเงียบๆ สะกิดผม สวัสดีครับ เขาพูดเรียบๆ แต่เล่นเอาพวกผมเงียบกันเลย ผมหันหน้าไปมองเขางงๆ หันไปมองหน้าเพื่อน แบบจะถามว่าเพื่อนายเปล่า แต่ทุกคนทำหน้าแบบมันเป็นคราย.... ในใจก็นึก คุยกับผมใช่ไหมหว่า ผมไม่รู้ควรทำยังไงเลยสวัสดีตอบไปอะครับ ครับสวัสดี........... ทำหน้าแบบโอ้จรอส์มันแย่มาก คือ.......คือว่า..........เอ่อ..........---_---เขามันแต่อ้ำอึ้งเล่นเอาผมแทบลุกขึ้นเตะตอนนั้นเลยครับ คืออะไรครับ..... ผมรีบรวบรัดตัดตอน รู้สึกอยู่ใกล้ๆคนนี้แล้วอึดอัดมาก นายเป็นแฟนวาวาหรือเปล่า เขาถามผม ผมหันไปหาพรรคพวก มีมินทำหน้าสยดสยอง+ยิ้มมีเลศนัยมาทางผม-_-|||| มีวาวานั่งตะลึง แต่ทำหน้าแบบอยากรู้มากเลยว่าผมจะตอบว่าไง ตอนนี้ทุกคนเพ่งเล็งจุดสนใจมาทางผมกับคนคนนั้น เอ่อ.............. ไม่ใช่หรอกนาย วาวาไม่ได้เป็นอะไรกับเราเลย ผมตอบแบบชัดเจนเลยครับ คือแบบมินนั่งอยู่อะน่ะครับ ผมยังอยากเห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้อยู่ เฮ้อ ขายคนนั้นถอนหายใจโล่งอก ทำความประหลาดใจให้พวกผมยิ่งนัก แล้วนายถามมางี้ มีอะไรหรือเปล่า ไอ้โอ้ตเริ่มถามต่อ หรือว่านายชอบวาวา หะ! เอ่อ.......คือ.......แบบว่า........... เขาคนนั้นอ้ำอึ้งอีก ผมว่าเขาคงไม่กล้าหรอกครับ เพราะไม่ว่าดูยังไงวาวาก็ดูเกินเอื้อมจริงๆ ครับ..........ผมชอบวาวาชายคนนั้นตอบหน้าแดง เล่นเอาไอ้บอยดื่มกาแฟทางจมูกสำลักแทบตาย เห้ย ผมกับไอ้โจตะโกนแทบจะพร้อมกัน ไอ้ทอมนั่งตกเก้าอี้ แต่วาวานี่สิครับ นอกจากจะไม่ตะลึงแล้ว เธอยังยิ้มที่มุมปาก ...................................... ไม่ได้ยิ้มปลื้มนะครับ แต่เป็นยิ้มสยองที่มีเลศนัยแฟงอยู่เต็มเปี่ยมเลยล่ะครับ มานี่สิค่ะ วาวาบอกวางหนังสือที่อ่านลง ตบเบาะเป็นสัญญานให้ชายคนนั้นนั่งข้างๆ พวกผมลุกเปิดทางให้ งงกับผู้ชายคนนี้ แต่ที่งงที่สุดก็คงเป็นวาวา เธอคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย....... นายคนนั้นเดินไปนั่งข้างๆวาวา หันไปยิ้มให้ ยิ้มแบบเอียงคอเล็กๆด้วยนะครับ...... เขาคงคิดว่าเท่หน้าดู แต่พวกผมดูแล้วแบบว่าทุเรศสุดๆเลยครับ ผมไม่ได้ดูถูกใครนะครับ แต่แบบหน้าไม่ให้แต่ใจรักจริงๆ ทำไมถึงชอบเราล่ะ บอกได้ไหม วาวาถามเรียบๆ คนคนนั้นเงียบไปแป็บนึง ยังคงมองตาวาวาอยู่ครับ... ชอบ.............ที่คุณเป็นคุณครับ เขาคนนั้นตอบ ก้าก ลิเกซิบ ไอ้บอยหลุดหัวเราะออกนิดนึง ย้ำนิดนึงจริงๆ เพราะวาวาหันไปส่งสายตาแบบไม่ค่อยเป็นมิตรให้ ไอ้บอยเลยถอยทัพไปเล็กน้อย นั่งเงียบฟังคนคนนั้นพูดต่อ ตั่งแต่เมื่อไหร่เหรอ วาวาถามต่อ ตั้งแต่แรกพบครับ มินอมยิ้มแก้มตุ่ยสะกิดผม ผมเลยเอียงหูไปหา ผู้ชายพันธุ์นี้น่า อนุรักษ์ไว้ดูเล่นเนอะเจม เธอกระซิบผมเบาๆ ผู้ชายอย่างงี้มีเสนห์ตรงไหน(วะ)เนี่ย ถ้าเพื่อนผมเป็นงี้สักคนสองคนคงปวดหัวตายแน่ๆ..... พอเถอะค่ะค่อยคุยกันดีกว่า................วาวาตัดบท ไม่รู้สงสารคนนั้นหรือสงสารตัวเองกันแน่ ไม่อาจรู้ได้ครับ แต่วาวาก็ลุกไปแล้ว พวกผมเลยลุกตาม ผมเดินหยิบบิล จะได้เอาไปแชรกะเพื่อนๆ แต่วาวาเดินมาหยิบบิลจากมือไปซะก่อน ยื่นให้คนคนนั้น........ ช่วยหน่อยได้ไหมค่ะ วาวาพูดเรียบๆ เอาแล้วครับบททดสอบโหด ดูงบประมาณในกระเป๋าของผู้เข้าสมัคร บางคนเจอมุขนี้เข้าไปก็หายไปเลยครับ บางคนก็สู้ต่อ......... แต่ส่วนใหญ่ก็จะไปตกม้าตายตอนหลังๆ วาวาเขาทดสอบจริงๆน่ะครับ เพราะบ้านวาวาเธอรวยออก เธอแค่อยากดูว่าคนที่มาจีบเขาใจกว้างแล้วจริงใจขนาดไหน เธอเคยเปรยๆให้ผมฟังน่ะครับ ว่าถ้าแค่นี้ยังเลี้ยงไม่ได้ต่อไปจะเลี้ยงเธอได้ยังไง ผมว่าก็จริง วาวาเธอใช้เงินยังกะน้ำเลยครับ คนนี้ยังโดนน้อย แค่ค่ากาแฟของคน8คนไม่น่าจะเกิน500 บางคนเจอข้าวไปทั้งมื้อ เหมือนเดินอัปเปอรคัทของไมค์ ไท สันนะครับ ลุกไม่ขึ้นไปเลย....................(แน่นิ่ง) แต่คนคนนี้แจ๋วจริงครับ สุดยอดไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ เขายิ้มแหะ แหะ ให้วาวา “ผมไม่มีตังครับ” เขาพูดออกมาคำเดียวจริงๆ ? วาวาสะอึกไปเลยครับ เกิดมาคงไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้ เหรอค่ะ ไม่เป็นไรวาวาจ่ายเองก็ได้ เธอดึงบิลคืนแล้วเดินไปจ่ายที่เคาเตอร์ ถามจริงๆเถอะค่ะ คิดว่าตัวเองมีอะไรดีมั่งค่ะเนี่ย วาวาถาม เขาก้มหน้าก้มตาไม่ตอบ ถ้าจะมี............ก็คงมี........แต่หัวใจที่รักคุณมั้งครับ สำนวนของเขาทำให้พวกผมแทบคลั่งตาย นี่เขาไปซุกอยู่ที่ไหนมาครับเนี่ย........ บางทีคำพูดบางคำของเขาผมยังอายแทน วาวาคิ้วขมวด เอ่อ...............วาวา ว่าน่ะ เราไปกันไม่ได้หรอก ก็ไปกันให้ได้สิครับ เขาตอบ นายดีเกินไปน่ะ วาวาไม่พยายามให้เหตุผลเพิ่ม(ถ้ามุขซ้ำกับใครขออภัยด้วย) อ้อ วาวาชอบxxxๆเหรอครับ ได้ๆเดี้ยวจัดให้..... เราเป็นพี่น้องกันดีกว่าค่ะ เสียงวาวาเริ่มเปลี่ยนแล้วครับ ผมจำไม่ได้ซะด้วยสิ ว่ามีน้องน่ารักขนาดนี้ตอนไหน คนนั้นไม่ยอมลดละเลยครับ วาวาทำท่าแบบจะกรี้ดซะให้ได้ ก็ไม่ชอบอะเข้าใจไหม จะตื้อทำไมเล่า วาวาตะโกนใส่ แต่นายคนนั้นกลับยิ้ม ไม่เป็นไรครับ................... ก็ไม่เคยคิดว่าวาวาจะชอบผมอยู่แล้ว ผมแค่ขอชอบวาวาไปแบบนี้ก็พอแล้วครับ .......................................... วาวานิ่งไปสองวิ ไม่รู้เพราะซึ้งในสำนวน หรืออึ้งในความด้านกันแน่ วาวาฉุนขาดเดินออกนอกร้านไปเลย ทิ้งนายคนนั้นไว้ข้างหลัง.............. ถ้านายคนนี้จีบติด โลกคงแตกแน่ๆผมคิด พวกผมพากันเดินออกนอกร้าน ทิ้งนายคนนั้นนั่งนิ่งอยู่คนเดียว............ ........................................... ใจนึงก็สงสาร ผมว่าเขาดูจริงใจดีออก ไม่เหมือนหนุ่มๆคนอื่นที่มาจีบวาวา บางคนหล่อ รวย เท่ แต่ดูทีเดียวก็รู้แล้วว่าร้าย เสือผู้หญิง บางคนปากอย่างใจอย่าง ผมว่าซื่อๆแบบนี้ก็ดูมีเสนห์ไปอีกแบบนึง แต่รู้สึกจะไม่ถูกใจวาวาซักเท่าไหร่ .......................................... ในห้องเรียน วาวานั่งหงุดหงิดบ่นอะไรก็ไม่รู้ นั่งพลิกหนังสือไปมา เล่นเอาผมไม่มีสมาธิเรียนทั้งชั่วโมง ดูท่าจะหงุดหงิดกับคนตะกี้มากเลยครับ.... นี่ไม่ต้องคิดถึงนายคนนั้นขนาดนั้นก็ได้น่ะวาวา เวลาเรียนก็ตั้งใจเรียนสิ ไอ้แนทแซวเล่นๆ แต่ดูเหมือนวาวาจะไม่ตลก อะไรน่ะ อย่างฉันนะเหรอจะคิดถึงนายนั้น กวนก็ที่หนึ่ง หน้าตาก็งั้นๆ อะไรก็ใช่ว่าจะดี ไม่มีดีซักอย่าง ทำไมเราต้องไปคิดถึงด้วย วาวาถามไอ้แนท กำหมัด ทำท่าแบบว่าถ้าเหตุผลไม่ดีปากแตกแน่ๆ ไม่รู้สิถามตัวเองล่ะกัน ว่าตอนนี้คิดถึงใครอยู่ โอ้ก............... ไอ้แนทยังพูดไม่จบก็ลงไปกองกับพื้น เจอกล่องดินสอเข้าเต็มจมูก ผมก็รู้ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่บางทีความจริงก็ทำให้คนตายได้ล่ะมั้ง ถ้าผมเป็นไอ้แนท ผมเลือกที่จะหุบปากตัวเองดีกว่า วาวา ลงโทษไอ้แนทแล้วก็มานั่งฟังอาจารย์พูดต่อ ผมก็ใช่ว่าจะเขาข้างนายคนนั้นนะครับ แต่ผมว่าถ้านี่เป็นยุทธวิธิ การจีบสาวแบบใหม่ แบบทำให้เกลียด ทำให้จำ จะได้ไม่ลืมเราล่ะก็ โอ้จรอส์ มัยเยี่ยมมากเลยครับ หมดชั่วโมง วาวาเดินฟึดฟัดลงมาจากห้อง เดินนำ แบบไม่รอใคร สงสัยเธอจะหงุดหงิดมากเลยครับ เดินลงบันไดทีล่ะขั้นทีล่ะขั้น แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอหน้าคนที่ไม่อยากเจอที่สุด นายคนนั้น ยืนรอที่หน้าบันได วาวาอึ้ง ทำเป็นไม่เห็น เดินเมินชายคนนั้นไป แต่คนคนนั้นก็เดินมาขวางหน้าวาวาเอาไว้ เอาแล้วเว้ย ไอ้บอยพูดกระซิบกับผมเบาๆ สังสัยมันคงไม่รู้ว่านรกมีจริงวะ ไอ้บอยหัวเราะ เขาคนนั้นยิ้มแหะ แหะ ให้วาวา หันมาทางพวกผม วาวาส่งสายตาแบบ ทำอะไรกับตานี่สักอย่างสิ แต่พวกผมหลบตาวาวากันใหญ่ ที่หลบไม่ใช่เพราะกลัวนายนั่นหรอกครับ แต่สงสาร แล้วก็ไม่รู้จะไปบอกเขาให้เลิกชอบวาวาได้ยังไง ก็เลยปล่อยปัญหาให้วาวาเครียลเอาเอง โบราณเขาเรียก ไม่หาเหาใส่หัว....^^ เมื่อวาวาเห็นว่าไร้หนทางที่จะขอความช่วยเหลือจาก บรรดาเพื่อนๆ ผู้แสนจะเอาตัวรอดของเธอแล้ว เธอก็คงเครียลปัญหานี้ด้วยตัวเองล่ะมั้งครับ มีอะไร........... วาวาพูดห้วนๆคำว่าค่ะที่จะออกจากปากของเธอเสมอ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยให้เห็น..... แต่ชายคนนั้นไม่ยักหวั่น เขาควักสิ่งหนึ่งออกจากกระเป๋ายื่นให้วาวา.... มันเป็น ขนมโตเกียว แผ่นเหลืองหอม ส่งกลิ่นไปทั่ว ผมซื้อมาฝากครับ คิดว่าคุณเรียนมาถ้าจะหิว วาวาทำท่าประหลาดใจมากเลยครับ จีบหญิงด้วยขนมโตเกียว........ ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน รับสิครับ ผมอุตสาหซื้อมาให้..... เขาพยายามยัดมันใส่มือวาวา วาวาทำหน้าลำบากใจมาก.......... แต่เธอก็รับมาจนได้ ขอบคุณครับ ผมมีเรียนต่อขอตัวนะครับ เข้าโบกมือให้วาวาแล้วเดินจากไป อ้อ ลืมไปผมชื่อ.............. นัท นะครับ เขาหันมาตะโกนบอกซ้ำ แล้วเขาก็เดินลับมุมตึกไป มินรีบเดินเข้าไปหาวาวา กระแซะใหญ่ ไปรับของเขามาทำไมไม่ชอบเขาไม่ใช่เหรอ.......มินถาม ก็แค่ขนมโตเกียว วาวาตอบเรียบๆ เพิ่งเคยเจอแบบนี้ จริงๆน่ะนี่ เธอพูดหยิบขนมโตเกียวเข้าปาก ก็อร่อยดีน่ะ........ วาวายื่นขนมส่งให้ทุกคน เอ้าช่วยๆกินกันหน่อยกินหมด........... ประสาทจริงๆเลยตานี่... เธอหัวเราะเบาๆ ถ้าจะขำกับการจีบที่แปลกประหลาดของนายคนนี้มาก แต่ที่แปลกที่สุด หลังจากตอนนั้น วาวา....................ก็ไม่บ่นในชั่วโมงเรียนอีกเลย!!!!!! พรุ่งนี้วันวาเลนไทด์ ไวเหมือนโกหก ปีที่แล้วไม่ได้ฉลองกับมิน แต่ปีนี้สิครับเราได้อยู่กันพร้อมหน้าเลย อยู่แบบเป็นคู่เสียด้วยสิ^^ พรุ่งนี้วันวาเลนไทอีกแล้ว เซงจัง..... วาวาบ่นอุบอิบ ทำไมล่ะวาวา มินถาม ก็พรุ่งนี้น่ะ เจมก็จะไปกับมินสองคนใช่ไหมล่ะ วาวาพูดเหมือนรู้ว่าพวกผมนัดกันไปเที่ยวสองต่อสองแล้ว แล้วไอ้บอย ก็อี้อ้อกะน้องเจน........พร่งนี้ก็ไม่อยู่ใช่ไหมล่ะ.... วาวาหันไปแขวะไอ้บอยที่กำลังคุยโทรศัพท์กับน้องเจนอยุ่ เล่นเอาไอ้บอยถึงกะสะดุ้ง ส่วนนายโอ้ตก็ไปกะกิ้กใช่ปะ (แฟนมัน) วาวาหันไปไอ้โอ้ตยิ้ม พยักหน้าช้าๆ ไม่เป็นไร วาวาหันไปทาง ทอมกะโจ แล้วก็นพ แนท... ไม่ง้อก็ได้พวกคนโสดแถวนี้ว่างอยู่ พวกนายจะอยู่กะเราใช่ไหม วาวาถาม พวกมันมองหน้ากัน เอ่อ คงไม่ได้นะวาวา คือแบบนัดกะเด็กมหาลัยหอการค้าไว้แล้วล่ะ เอ่อ............วาวาจะไปด้วยกันไหม ไอ้แนทพยายามชวน โหดูมัน ไม่ต้องเลย เราไปก็กร่อยใช่ไหม เรารู้นะว่าไปจีบหญิงกันนะ เอ้อ กันให้หมดเลย อยู่บ้านนอนกินขนมก็ได้ วาวา เดินเซงน้อยใจไปนู้นแล้วครับ-_-|||| ไม่เห็นเป็นไรเลย วาวาก็ไปกะนายคนนั้นดิ ไอ้แนทพูด เราว่าเขาก็คงยินดีพาวาวาเที่ยวล่ะมั้ง วาวาหยุดกึกมองไอ้แนท เอาแล้วไหมล่ะ ไอ้แนท............ เจ็บแล้วไม่รู้จักจำ ซวยแล้ว....เดี้ยวไม่ได้ฉลองวาเลนไทด์ปีนี้หรอก แนท........... เห็นไม้หนีไหม วาวายิ้มหยิบไม้ที่ตกใต้ต้นไม้มาแกว่งให้ไอ้แนทดู เสียงดัง ควับ ควับ..... อือ.........ทำไมเหรอ ไอ้แนทยิ้ม ไม้นิดเดียวถึงตี ก็ไม่เจ็บหรอก มันยิ้มเยาะๆที่มุมปาก วาวาค่อยๆเอานิ้วไล่ไปตามไม้ ถ้าแนทไม่หยุดพูดถึงนายคนนั้นน่ะ............ วาวาพูด “เปาะ” เสียงไม้หักออกเป็นท่อนๆ วาวาหักจนไม่มีชิ้นดีเลยครับ(เป็นเสี่ยงๆ) แนทจะเป็นแบบนี้..... เธอยัดเศษกิ่งไม้ใส่ในมือไอ้แนท ผมหันไปดูหน้าไอ้แนท ถึงกะชีด ยิ้มไม่ออกเลยครับ วาวาหน้ากลัวจิ้บเลยให้ตายสิ.....เธอโหดจริง เธอเป็นยากูซ่าเมืองไทยปลอมตัวมาคร้าบบบบ เอ้อ ช่ายสิ เรามันไม่มีแฟนนี่ วาวาหันมาทางพวกผม ขอให้มีความ “สุก”ทุกคนนะ-_-“ กรรม วาวาพาลนี่หว่า ได้แต่ยิ้มแหะ แหะ ยอมไปก่อน เขาว่าไฟกำลังมอดยาเติมเชื้อครับ เดี้ยววาวาก็เลิกบ่นไปเอง แล้วผมทั้งกลุ่มก็แทบช็อค.... เมื่อเห็นนายคนนั้นเดินมาทางพวกผม ในมือถืออะไรบางอย่าง(อีกแล้ว)มาด้วยสิครับ ผมอยากตะโกนบอกเขาเหลือเกิน อย่าเข้ามาตอนนี้....วาวาอารมไม่ดีซะด้วย แต่ผมไม่มีพลังจิตนี้ครับ คงต้องปล่อยมันตามชะตากรรมแล้วล่ะมั้ง (วันนี้อาจมีคนถึงคาดได้) นายคนนั้นเดินมาอมยิ้ม มือซ่อนอะไรไม่รู้ไว้ข้างหลัง..... วาวาหันไป แทบกรี้ดใส่ อะไรอีก เธอพูด เราไปทำกรรมอะไรกับนาย ไว้หรือไงถึงต้องคอยจองล้างจองผลาญเราแบบนี้ มีสมองน่าจะเข้าใจน่ะ ว่าไม่ชอบไม่ชอบ ไม่ชอบ เข้าใจม่ะ...... ทำยังไงก็ไม่ชอบนายขึ้นมาหรอก..........เลิกยุ่งกะฉันซะที วาวาฉุนจัด....... ผมก็แค่อยากจะให้สิ่งนี้กะคุณเท่านั้นเอง นายคนนั้นพูดทำหน้าจ๋อย เขายื่นดอกไม้ให้ช่อหนึ่ง ไม่ได้สวยงามเริดหรู แต่ผมว่าเขาก็พยายามหามาที่สุดแล้ว.... เอาไปสิครับ ผมให้ พรุ่งนี้วันวาเลนไทด์ ผมคงไม่มีโอกาศได้เดินกับคุณหรอก นายคนนั้นย้ำ ยื่นดอกไม้ให้วาวา วาวานิ่ง ทำสายตาเย็นชา ท่าทางเธอโกรธมาก ก็ได้ เรารับก็ได้ วาวารับดอกไม้จากมือของเขาคนนั้น ทีนี้มันก็เป็นของเราแล้วใช่ไหม เราจะทำอะไรก็ได้แล้วใช่ไหม วาวาพูดเล่นเอาพวกผมงงทั้งกลุ่ม วาวาพูดอะไรแล้วมันหมายถึงอะไร................. ใช่ไหม วาวาหันไปถามคนคนนั้น ใช่ครับ...... เขาคนนั้นตอบถ้าจะงงไปไม่น้อยกว่าพวกผม ดี วาวาพูด เดินไปที่ถังขยะ แล้วก็โยนดอกไม้ใส่ถังขยะไปเลย ภาพที่เห็นผมว่าโหดร้ายมาก.......... ถึงจะโกรธ จะเกลียดยังไงวาวาก็ไม่น่าทำแบบนี้ เขาคนนั้นตั้งใจให้เธอแท้ๆ แต่ทำไม.......... วาวาเดินกลับมา ก็ไปสิหมดธุระแล้วนี่จะยืนอยู่ทำไม เธอบอกนายคนนั้น เขาหน้าจ๋อย เดินกุมมือแน่นจากไป พวกผมยืนมองจนลับตา ไม่รู้สภาพจิตใจของเขาจะเป็นยังไง ที่โดนคนที่รัก.......ทำกันรุนแรงแบบนี้ ถ้าผมเป็นเขาผมอาจจะเกลียดวาวาไปเลยก็ได้ล่ะมั้ง วาวานั่งลงที่โต้ะ มองมาทางพวกผม พวกนายอาจคิดว่าเราโหดร้าย.............. แต่เราทำไปเราคิดว่าดีที่สุดแล้วน่ะ วาวาพูด .............................................................. ทำไมล่ะวาวา ทำไมถึงคิดแบบนั้น เขาน่าสงสารออก มินถาม มินจะรักใครเพราะสงสารเหรอ มันจะโหดร้ายกว่าไหม ถ้าเรารับของเขามา ให้ความหวังเขา แล้วเขามารับรู้ความจริง ความจริงที่ว่าเราไม่รักเขาเลย ตอนนั้นเขาจะเจ็บยิ่งกว่าที่เราทำวันนี้อีก...... วาวาพูด ............................................................... ผมฟังๆดูก็มีเหตุผล แต่ความรักของคนมันก็อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้ด้วยสิ เราไม่อยากได้ชื่อว่าหลอกใคร แล้วเราก็ไม่ชอบให้เขามาหลอกเราเหมือนกัน .............................................................. วาวาหยิบหนังสือขึ้นแนบอก เราว่าเรากลับแล้วดีกว่าล่ะมั้ง.......................บ้าย บาย วาวาลาทุกคน เธอมาแล้วก็จากไปดังสายลม พวกผมคบวาวามาเกือบปีแล้ว ไม่มีใครในกลุ่มรู้ว่าเธอคิดยังไง แล้วเป็นคนยังไงกันแน่ บางทีวาวาก็ดีเหมือนดังแม่พระ แต่บางครั้งน่ะครับปีศาจยังว่าโหดน้อยกว่าวาวาซะอีก.... วันต่อมาผมไปฉลองวันวาเลนไทด์กับมิน (2ต่อ2\^0^/)ไปกิไอติม ดูหนัง ควงแขนมิน แล้วก็เดินช้อปปิ้ง ขอบอกครับอกมินที่กระแทกผมนี้นุ้ม........นุ่ม ดีใจจนแทบน้ำตาไหลT_Tเจออย่างงี้ทุกวันให้ตายก็ยอมฮ้าบ..... มินเดินควงแขนกับผมดูของ หันไปมองรอบๆหนุ่มสาวก็มากันเป็นคู่ๆน่ารักที่สุด บางคนแหวกแนวมาก มากะเพื่อนผู้ชายสองคน ไม่รู้ว่า....-_-“หรือเปล่า ช่างเหอะไม่เกี่ยวกะเรา... เดินพาไปเลือกของขวัญ ซื้อดอกไม้ไปให้มินด้วย บรรยากาศดี ไม่แน่คืนนี้อาจ....(คิดเอาเอง)สำเร็จก็ได้ เหอ เหอ ผมหัวเราะมีเลศนัย มินหยิกผม คิดไรเจมคิดไร มินถาม คิดเหมือนอย่างที่มินคิดนั่นแหละ ผมหยอกไปเล่นเอามินหน้าแดง เจม......บ้าๆ มินระดมทุบผม อย่าๆโอ้ย ถ้าโกรธแปลว่าคิดจริงๆนะ อย่าตีดิ...... ผมอาจเป็นโรคจิตก็ได้ครับ แต่ยิ่งโดนหยิกแบบนี้ผมยิ่งมีความสุข^_^ มีความสุขไม่ถึงชั่วโมงโทรศัพท์ผมก็ดังอีกแล้ว.....(กรรม) หันไปมองมินเอาโทรศัพท์ให้มินดูว่าวาวาโทรมาให้รับไหม มินพยักหน้ารับ แน่ใจ? ผมถามเพื่อความชัวร์อีกครั้ง ที่ไม่อยากรับก็เพราะมันเสียอารม แต่ถ้าไม่รับก็จะเสียน้ำใจเพื่อน รับไปเหอะ วาวาเขาคงโทรมาแซวนิดหน่อยแหละไม่รับแล้วเดี้ยววาวาโกรธจะวุ่นวายกว่านี้นะ มินบอกผม... ผมพยักหน้ารับกดรับสาย กรี้ด................................. เสียงวาวากรีดร้องมาตามสาย เล่นเอาผมแทบแก้วหูแตก เป็นอะไรวาวา เจอลิงงับหัวเหรอ ผมถาม เจม มันมาอีกแล้ว วาวาบอกกะผม เอาไงดีเจมเราจะทนไม่ไหวแล้วนะเดี้ยวจะเรียกให้ยามเอาไม้ไปตีหัวให้แตกเลย วาวาพูด อะไรวาวาใจเย็น ใครมา เป็นอะไร ผมถาม ก็นายคนนั้นนะสิมายืนรอเราหน้าบ้านเนี่ย บอกไม่อยู่ก็ไม่เชื่อไม่ยอมไป ฉันจะบ้าตายแล้วเนี่ย.......วาวาโอดโอย ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ อยู่บ้านทำอะไรหรือเปล่าล่ะ ผมงงกะวาวาจริงๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ กลิ้งไปกลิ้งมากินขนม แหะ แหะ ก็ช่ายมะ อยู่บ้านไม่มีอะไรก็ไปเที่ยวกะนายนั้นซะหน่อยดิจะเป็นไร โห อะไรเจม อ้อ พูดงี้ใช่มะ ได้ ได้ วาวาไปก็ได้........ แล้วเจมจะเสียใจ วาวาพูดแค่นั้นแล้ววางโทรศัพท์ไป เวงกรรม-_-“ ผมพูดไรผิดอีกเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ สนใจมินต่อดีกว่า เพลิดเพลินกว่าเยอะ แล้วผมก็ไปเที่ยวกับมินต่อทั้งวันเลยครับ..... จนถึงกลางคืน ผมกับมินไปนั่งที่ม้านั่งที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง..... ผมนั่งคุยกะมิน มองฟ้าเห็นดาวชัดเจน... ผมพยายามคุยเรื่องสนุกๆ แต่ดูมินไม่ค่อยจะพูดอะไรเ เธอฟังแล้วพยักหน้าเท่านั้นเอง.......เธอคิดอะไรอยู่อีกล่ะเนี่ย ผมละเง็งจริงๆ-“- เจม.............. มินเรียกผมช้าๆ โอ้พระเจ้าอะไรจะเร็วขนาดนี้ อะไรครับมิน มีอะไรจะบอกเราเหรอ ผมหันไปพยายามทำตาซึ้งอ้อนเต็มที่ คือว่ามินมีอะไรจะบอกเจมน่ะ มินพูดอายๆที่สำคัญเธอหลบตาผม เราไม่รู้เจมจะคิดเหมือนเราหรือเปล่า มินพูดเปรยๆ เราก็เป็นแฟนมินมาตั้งนานแล้วล่ะน่ะ ไม่รู้สิมินผู้ชายก็หยั่งงี้ทุกคนแหละ ผมตอบ อือ..........มินเข้าใจค่ะ เจมรู้ไหมมินคิดอะไรอยู่ตอนนี้ มินหันมามองผม อะไรล่ะ เราไม่รู้หรอก แต่ถ้าอยากบอกก็จะฟังน่ะ บอกเราได้ไหม ผมถาม มินก็คิดเหมือนเจม มินตอนนี้นะ.......... มินหยุดพูดอยู่แค่นั้น โอ้อยากอะไรมินบอกเจมได้ไหม (รู้เห็นเป็นใจกะเราทีเด้) ไม่เอาอะน่าอาย ไปกันเลยดีไหมไปที่ที่มีเราแค่สองคนO_0 มินกับผมเดินจูงมือไปเรื่อยๆ เห็นโรงแรมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ตลอดทางเดินใจผมเต้น ผมควรจะทำดีไหมผมก็ผู้ชายคนนึง ผู้หญิงพูดขนาดนี้แล้ว..... ผมหันไปมองมินเธอก็ยิ้มมาให้ผม น่ารักมากเลยครับ ไม่อยากให้เวลาของสองเราผ่านไปแบบนี้เลย ถ้าผู้ชายไม่โง่ ซื่อบื้อก็คงรู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไร ผมกับมินเดินมาหยุดอยู่หน้าโรงแรม เข้าไปน่ะ ผมพูด มินได้แต่เงียบ อือก็มาถึงแล้วก็ต้องเข้าสิ มินพูดอายๆ แต่จะดีเหรอ ผมถามย้ำ น่าเร็วสิเจม มินจะทนไม่ไหวแล้ว เธอพูดพลางดึงมือผมเข้าโรงแรมไป โอ้ทำไมมินใจร้อนขนาดนี้ โอ้จรอส์มันเยี่ยมมากเลยครับ..... ผมยิ้มแก้มแทบปริ ไม่ผิดหวังเลยที่มาวันนี้ กำลังจะเดินไปจองห้อง เร็วสิเจม มินหิวจนจะทนไม่ไหวแล้วเนี่ย อาหารที่โรงแรมนี้อร่อยมากเลยนะค่ะ มินหันมาบอกผม มือชี้ไปที่ห้องอาหารของโรงแรม จ้า^^คืนนี้อร่อยแน่ เอ้ย เฮ้ย.............มินชวนมากินข้าวเหรอ กรรม ผมผิดหวังอย่างรุนแรง มินหันมามองผมแบบงง อ่าว แล้วเจมคิดว่ามินชวนไปไหนเหรอค่ะ............ เธอทำหน้าไร้เดียงสา จะให้ผมพูดก็พูดไม่ออก เวรกรรมยายมิน -_-|||| หิวก็บอกว่าหิวเด้ มาพูดว่าอยากๆ เดี้ยวพ่อจับกด(อันนี้คิดในใจครับเดี้ยวโดน) ผมกับมินเดินเข้าห้องอาหาร ผมหน้าบึ้งๆ จะไม่ให้บึ้งได้ไงผิดหวังครั้งใหญ่แบบนี้ เจมเป็นอะไร มินถาม ไม่สบายหรือเปล่า.......... เปล่าไม่เป็นอะไรหรอก........ ผมตอบๆไปหยิบกระดาษมาเช็ดหน้า .............................................. อาหารมาเสริฟแล้ว แต่ความเงียบก็เข้ามาเกาะกุมที่โต้ะผม ต่างคนเลยต่างกินอย่างช่วยไม่ได้ เรารู้น่ะว่าเจมต้องการอะไร..............แต่เราแกล้งทำเป็นไม่รู้ มินพูดลอยๆหน้าแดงก่ำ เรารู้นะเจมเรารู้แต่.........ฝันไปเถอะ มินพูดพร้อมทำหน้ากวนๆ กรรม ยายมินกวนผมเสียแล้ว-_- โอ๋ๆ ดูสิทำหน้าบึ้งเลย...ล้อเล่นน่ะล้อเล่น....เรารู้เจมสุภาพบุรษพอใช่ไหมค่ะ เธอมองมาที่ สายตาของมินเล่นเอาผมละอายตัวเอง ผมไม่อยากบอกเล้ยว่ามินน่ะ คิดผิด เหอ เหอ เขี้ยวงอก...... หลังจากอาหารค่ำคำสุดท้ายได้ส่งเข้าปากไปแล้ว ผมก็หยิบดอกไม้บนโต้ะอาหารส่งให้มิน.... เอ้า ดอกเนี้ยเราอุตสาหถ่อไปซื้อถึง สวิสเซอรแลนด์มาให้เลยน่ะ โหไม่ค่อยจะโม้เลยเจม งั้นนี่........มินหยิบไม้จิ้มฟันบนโต้ะส่งให้ผม อันเนี้ยเราก็สั้งมาจาก โอ้คแลนด์เพื่อเจมโดยเฉพาะเหมือนกัน -_-|||| กรรม ยายมินล่นย้อยมุข ผมจุกไปเลยน่ะนี่ อะนะ............เราจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเลย แล้วผมก็ยิ้มให้มินเธอยิ้มตอบ ต่างคนต่างเอื้อมมือมาหยิบของขวัญกันและกันแล้วก็ขำ เอ้านี่ของจริง...............ผมส่งกล่องของขวัญกล่องเล็กๆให้มิน อะไรอ่า............ แหวน สร้อย นาฟิกา หือตุ้มหู มินถามผม อยากรู้ก็เปิดดูเองสิ ผมบอก มินทำท่าตื่นเต้น แกะห่อของขวัญออกดู ด้านใน มีผ้ากำมะหนี่สีแดงห่อของสิ่งหนึ่งไว้ ดูมีความลับจังห่อตั้งหลายชั้น มินอมยิ้ม เธอค่อยๆคลี่ห่อผ้าออก เจอการด์สีขาวอยู่ใบนึง มีข้อความสั้นๆเขียนอยู่ :เรารักเธอน่ะ:แค่นี้แหละไม่รู้มินจะเบื่อหรือเปล่า มินอ่านแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม ไม่เบื่อหรอก ต่อให้ตายเราก็ไม่เบื่อ เธอมองตาผมซึ้งๆ ผมยิ้มแหะ แหะ นึกว่าจะไม่ชอบซะอีกคือช่วงนี้เราถังแตกอะน่ะมิน เราเลยบอกตรงๆ ไม่เป็นไรเจมไม่เป็นไร มินพูดเอามือเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมานิดๆ ชดเชยวันหลังได้เราไม่ถือหรอก มินบอกผม (-“-สรุปก็จะเอาช่ายมะเนี่ย) ไหนล่ะของเรา ผมแบมือ อยากได้เหรอ งั้นปิดตาก่อนสิเจม ผมออกจะเชื่อแบมือแล้วปิดตา ............................................. ............................................. อะไรหยุ่นๆอย่างหนึ่งสัมผัสปากผม ผมค่อยลืมตาขึ้น มินถอนปากออกพอดี ............................................. เอาไปแค่นี้ก็พอ เธอบอกผม -_-+อ่ะน่ะไม่ค่อยลงทุนเลยนะมิน ก็เหมือนกันแหละหรือแค่นี้ไม่พอใจมินแลบลิ้นให้ เอ่อ ผมชำเลืองไปทางมิน ถ้าได้อีกซักรอบก็จะพอดีเลย......ผมบอก ลามก มินคว้าแก้วจะปาผมแต่ก็หยุดมือไว้ มินรู้เจมต้องการอะไร แต่รอเราได้ไหม ค่อยๆเป็นค่อยๆไปถ้าเจมดีจริงเราก็... มินพูดแค่นั้น แต่แค่นั้นก็พอแล้วครับสำหรับผม ผมไปส่งมินกลับบ้าน ด้วยหัวใจพองโต ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าผมคิดถึงมินมากแค่ไหนในคืนนี้ แล้วผมก็อยากให้มินคิดแบบผมบ้างซักนิดก็ยังดี...จริงๆน่ะครับสาธุ ในวันเดียวกัน ตั้งแต่เช้า นายนัท นั่งรอวาวาหน้าบ้าน เขานิ่งๆ ทำหน้าซื่อๆ เกาะรั้วรอยังไม่ได้เลย ยามหน้าบ้านวาวาถือไม้กระบอกเตรียมฟาดถ้าย่างเข้าใกล้รั้วแม้แต่0.1มิล เขาไม่กล้าส่งเสียงตะโกนเรียกวาวา ถึงแม้ว่าใจจริงเขาอยากคุยกะเธอใจจะขาด..... จะส่งจดหมาย อย่าว่าแต่วาวาจะอ่านเลยคงลงถังขยะไปซะก่อน เห้อ......................นายนัทถอนหายใจยาว ถ้าเป็นสาวคนอื่นเขาจะนั่งตื้ออยู่หน้าบ้านให้ตายไปข้าง แต่สำหรับวาวาเขาไม่กล้าเสี่ยง กลัวจะตายฟรี >_< เพราะยังไงเธอก็คงไม่ออกมา... จะโทรไปก็ไม่รู้เบอร์กว่าจะได้ที่อยู่วาวามานี่ ก็ไปก้มกราบยืนกราบ แผนกบุคคลของมหาลัยแทบตาย ขุดเรื่องอ้างเป็นร้อยเรื่องกว่าจะได้มา สุดท้ายไร้ซึ่งหนทาง แต่นายนัทไม่ยอมแพ้ อุตสาหหยิบหลวงพ่อขึ้นมาอธิฐาน ถ้าวาวาออกมาหาเขาจะทำบุญ 7วัด ตักบาตรอีก7วัน เลี้ยงเพลพระหนึ่งโหล สาธุๆ สิ้นสุดคำอธิฐานลืมตาขึ้น วาวาก็มายืนอยู่ตรงหน้า เธอแต่งตัวสวยเดินมาหานายนัท แม้ปากเธอจะไม่ยิ้มแค่นี้ก็พอแล้ว.... ทำเอานายนัทถึงกะตะลึง โอ้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิจริงๆ ผมจะทำตามคำแก้ตัวแน่นอน นายนัทคิด เขาลุกขึ้นช้าๆเอื่อยๆ พยายามส่งยิ้มให้ จะพาเราไปไหน วาวาพูดเบือนหน้าไปอีกทางนึง ที่ไหนก็ได้ครับที่คุณอยากจะไป นัทรีบตอบ งั้นไปเอมโพเลี่ยม ละกันจะไปซื้อเสื้อผ้า ไหนล่ะรถ วาวาถาม มองซ้ายขวาหามองหาคันที่น่าจะเป็นของนายคนนี้... นายคนนั้นเกาหัว อ้อ ผมจอดไว้หน้าปากซอยน่ะครับ มีคนขับรถด้วย เบนส์รุ่นใหญ่ครับ นายนัทตอบ สร้างความแปลกใจให้วาวามากขึ้น คนขับรถ นายคนนี้ฐานะดีขนาดนั้นเชียว....... เธอไม่พูดไม่จาได้แต่เดินตามนายคนนี้ไปหน้าซอย เดินไกลเกือบ400เมตร...... 400เมตรที่ไม่มีคำพูดใดๆเลย นายคนนั้นพามายืนที่ป้ายรถเมล์ ไหนล่ะรถ วาวาถาม เดี้ยวก็มาครับ เอ่อถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ.... อะไรล่ะ วาวาเริ่มไม่พอใจ เพราะควันพิษกับแสงแดดที่ร้อนระอุ ทำไมถึงเปลี่ยนใจมากับผมล่ะครับ นายนัทถาม วาวายิ่งฉุน......... ถามทำไมหรือไม่พอใจเรากลับก็ได้น่ะ เปล่าครับเปล่า คุณมาผมก็ดีใจแล้ว อ้ะรถผมมาแล้วครับ นายคนนั้นพูด รถเมล์คันนึงมาหยุดรอที่ป้ายพอดี นายคนนั้นก้าวขึ้นไป ยื่นมือมาให้วาวา..... ขึ้นมาสิครับ......... นายนัทบอก นี่น่ะรถเบนส์นาย รถเมล์ชัดๆ วาวาโวย ก็นี้ไงครับรถเบนส์ มีคนขับพร้อมขึ้นมาก่อนเถอะครับเร็วครับคนมองกันเต็มเลย วาวาหันซ้ายขวา คนเริ่มมองหน้าเห็นถ้าไม่ดีเลยกระโดดขึ้นรถเมล์ไป พอขึ้นมาได้เกิดอาการฉุนจัด นาย นาย คนอย่างนายมัน รู้ไหมเกิดมาฉันยังไม่เคยขึ้นรถเมล์เลย วาวาพูดยกมือขึ้นจะทุบ ก็เคยขึ้นซะซิครับ สนุกดีน่ะครับ จะได้รู้อะไรเพิ่ม นายนัทบอก ดูสิครับ คนมองคุณเต็มเลย น่ารักแต่เสียงดังขนาดนี้ เล่นเอาวาวาต้องลดมือลง เธอฉุนยืนโงนเงนบนรถเมล์ไปมา หาที่ยึดสิครับ นายคนนั้นพาไปเกาะกับเก้าอี้รถเมล์ จับแน่นๆเดี้ยวหล่นลงไปผมไม่มีปัญญาหาลูกสาวมาคืนเขา นายคนนั้นพูดอยาก ถ้าทางที่นายคนนั้นทำเล่นเอาวาวายืนอายม้วนที่เก้าอี้รถเมล์ คนมองวาวาทั้งคัน............ อายก็อายโกรธก็โกรธ วาวาเงียบไปเลย แล้วก็มีคนลุกให้วาวานั่ง วาวายืนงง.......ได้แต่พูดขอบคุณ นั่งสิครับ นายนัทบอก ได้นั่งในรถเมล์ตอนชั่วโมงเร่งรีบถือว่าได้ทำบุญมาเยอะน่ะครับ... วาวาพยักหน้านั่งลงบนเก้าอี้ กอดกระเป๋าถือแน่น ................................................................. ถ้าพ่อแม่รู้ว่านายคนนี้พาขึ้นรถเมล์จะเจอด่ายังไงบ้างน่ะ ................................................................. วาวาถึงกับขำออกมานิดๆ.. กว่าจะถึงเอ็มโพเล่นเอาวาวาหัวกระเซิง วาวากระโดดลงจากรถเมล์ เพลอยิ้มออกมานิดๆ รถเมล์ก็ไม่ได้xxxร้ายอย่างที่คิด วาวาคิดในใจ นายแอบชำเลืองดูวาวา สนุกหรือเปล่าครับนายนัทถาม เล่นเอาวาวาหุบยิ้ม เอามือจัดผม จะสนุกได้ไง คนก็เยอะร้อนก็ร้อน วาวาพูดเดินขึ้นสะพานลอยตรงข้ามเอ็มโพเลี่ยมขึ้นไป เหรอครับ.........วาวาถ้าจะเป็นคนปากไม่ตรงกะใจน่ะครับนี่ นัทแซว นี่ วาวาหันมาทำตาดุเอามือเท้าซะเอวเสียด้วย ยังไง ฉันปากไม่ตรงกะใจตรงไหนบอกมาสิ วาวาโวย ผมก็ไม่รู้น่ะครับ แต่คนบางคนปากบอกไม่ชอบแต่ก็แอบยิ้ม อย่างงี้ที่วาวาบอกไม่ชอบผมก็แปลว่า.... นายนัททำหน้าทะเล้น หยุดเลย หยุดโอ้ย ฝันไปเถอะเชิญยืนฝันไปคนเดียวเลย วาวาเดินตรงเข้าห้างไปแล้ว เดี้ยวสิครับรอผมด้วย.......... นัทพูดพลางวิ่งตาม ไม่พูดแล้วครับ ขอเดินตามอย่างเดียวก็พอแล้ว..... วาวาไม่พูดอะไรได้แต่เดินตามนายคนนี้ไปสองคนเงียบๆ.... ........................................................................ ผมแปลกใจจริงๆน่ะนี่ ทำไมคนสวยอย่างวาวาถึงยังไม่มีแฟน นายนัทถาม วาวาเงยหน้าจากไอติมที่กำลังเดินกินอยู่ ก็ไม่อยากมี มีแล้วได้อะไรไร้สาระออก..... มีแฟนน่ะครับ มีคนดูแล เป็นห่วงเป็นใย นัทขยับตัวเข้าไปใกล้วาวาอีกนิดโดยไม่ให้เธอรู้ตัว ไม่เห็นจำเป็นเลย เราดูแลตัวเองได้ เรามีเพื่อนๆ พ่อแม่คอยห่วงใยแล้ว ไม่เหมือนกันหรอกครับ..... ยังไงล่ะไม่เหมือนยังไง.... ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ความรักของหญิงกับชายต่างกับพ่อแม่น่ะครับ นัทพยายามชี้แจง เหรอ...........เอาไว้เราจะลองเก็บไปคิดดู แต่ยังไงเราก็คงต้องเลือกคนที่ดีที่สุดแหละ วาวาตอบ ผมอาจไม่ใช่คนดีที่สุดน่ะครับ แต่เป็นคนที่รักคุณที่สุดน่ะครับ นัทพูดพยายามมองตาวาวา วาวาหลบตาวูบ.... ว่าไงครับ เป็นผมได้ไหม นัทถามเล่นอึ้งพูดไม่ออก ประสาท วาวาพูดเอาไอติมไปป้ายหน้า.... เอานี้ จะได้สงบสติอารมลงซะมั่ง วาวาเดินนำหน้าไปไกลเลย หน้านายนัทเปื้อนไอติมแต่ไม่ยักโกรธ เขายิ้มเดินตามวาวา..... เล่นเอาวาวางงกับความอดทนของนายคนนี้ วาวาหันกลับหยิบกระดาษทิชชู่ยื่นให้ ไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือๆไงน่ะโดนขนาดนี้ยังยิ้มออกอีก วาวาถาม มีน่ะครับมี แต่บางทีกับคนที่สำคัญมากกกกกกกก นัทมองไปทางวาวา ต่อให้เอามีดมาแทงก็ไม่โกรธหรอก....... อ้วก......เลี่ยนจริงๆกะมุขเสี่ยวๆของนายนัทแต่มันก็ทำให้วาวายิ้มออกอีกครั้งแล้วสิครับเนี่ย... .......................................................................... หลังจากเดินช็อปอยู่สองชั่วโมงก็ได้ของมาเต็มมือ แน่นอนวาวาเดินมือเปล่าส่วนนายนัทเริ่มเดินหลังแอ่นกับจำนวนของที่ต้องถือมากขึ้นทุกที เราซื้อของที่อยากได้ครบแล้วล่ะ นายล่ะจะซื้ออะไรมั่งไหม ไม่ล่ะครับ ของที่นี่แพงจนผมไม่กล้าซื้อซักอย่าง นัทยิ้มแหะ แหะ .................................... เล่นเอาวาวานิ่งเงียบ สรุปมาช่วยถือของแค่นี้เหรอ แค่ได้เจอหน้าคุณ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ.............. เอ่อวาวาครับ...............ผมมีงานต้องไม่ไกลจากนี้น่ะครับไปด้วยกันได้ไหม งานอะไร?วาวาถาม มาเที่ยวกับฉันยังจะมีงานอีก ไปเถอะครับ เดี้ยวก็รู้เอง นายคนนั้นเดินนำ วาวาเห็นไหล่ของนายคนนั้นแข็งตึงเป็นรูปได้ชัด ของในถุงถึงจะไม่หนักมาก แต่ตั้งสองชั่วโมงก็คงหนักไม่น้อยล่ะมั้ง........... เอามานี่ วาวาเดินไปหยิบถุงสองถุงมาจากนายนัท สองถุงนี้แพงเราจะถือเอง วาวาบอก เดินถือถุงนำหน้า แต่นัทก็ยิ้มเพราะรู้ความคิดจริงๆของวาวา ขอบคุณครับ ...... นัทพูดสั้น ขอบคุณทำไมจะบ้าเหรอ ตามมาล่ะกันเดี้ยวหลง.... ยังไงก็ขอบคุณล่ะครับ.... ประสาทจริงๆเลยนายนี้ วาวาหัวเราะ คราวนี้พอนายนัทจะพาวาวาขึ้นรถเมล์อีก วาวาถึงกับร้องเสียงหลง ไม่เอานัทไม่เอา ของก็เยอะคนก็เบียด นั่งแท็กซี่นะวาวาเลี้ยงเอง ครับ.....นัทตอบสั้นๆว่าง่าย วาวาเรียกแท็กซี่หน้าห้าง ให้นายนัทนั่งเบาะหน้าส่วนตัวเองนั่งเบาะหลังกับของ ไป...........ครับ นายนัทบอกแท็กซี่ วันนี้วันอาทิตย์น่ะนัทไม่พักมั่งเหรอเรียนมาตั้ง6วันแล้ว วาวาพูดพลางแอบเปิดถุงหยิบเสื้อตัวใหม่มาชม ถ้าเลือกได้......ผมก็ไม่อยากจะทำหรอกครับ แต่ผมมันลำบาก ทุกวันนี้ได้เรียนมหาลัยดีๆก็ดีแล้วครับ ชิวิตคนมันไม่เหมือนกันนี่ครับ นัทพูดพลางยิ้ม แหะ แหะ ดีผมสอบชิงทุนได้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาศมาเจอวาวาแบบนี้ คำพูดธรรมดาของนายนัท เล่นเอาวาวาหน้าเศร้า วางเสื้อตัวใหม่ลงบนตัก เธอก็ใช่ว่าจะรู้คุณค่าของเงินอะไรมากมาย อยากได้อะไร อยากเรียนอะไรแค่บอกพ่อ แบมือก็ได้แล้ว เธอยังไม่เคยสัมผัสกับคำว่า “ไม่มี”เลยมั้งในชิวิตนี้ เราขอโทษน่ะ........ที่ถามอะไรไม่คิดออกไป วาวาพูด โถ่ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ นายนัทหันมายิ้ม จะจนจะรวยผมว่าไม่สำคัญหรอกครับ ตราบใดที่ผมมีแรง..... ผมยังหาเงินได้ครับ ผมจะไม่ยอมให้ตัวเองกับคนที่รักอดตายหรอก... ผมไม่เคยเสียใจ ผมถือว่าผมมีการศึกษา มีศักดิศรี ผมไม่เคยคิดว่าผมด้อยกว่าใคร ผมภูมิใจในตัวเองครับ...... ............................................................... นายนัทเล่นเอาวาวาอึ้งไปสองวินาที..... อือก็ดีนี่ มีความคิดดี แล้ววาวากับนัทก็เงียบอีกครั้ง เลี้ยวรถเข้ามาบุญครอง.... อ่าวนัท ทำงานที่นี่เหรอ วาวาถาม ครับทำทุกวันจันทร์ พุธ แล้วก็อาทิตย์ครับ ทำอะไรเหรอ วาวาสงสัย ผมทำงานร้านพิซซ่าครับ.......คอยผมหน่อยนะครับ ไม่นานเดี้ยวเลิกผมจะพาไปส่งบ้าน.. รถจอดริมฟุตบาท วาวาจ่ายเงินค่าโดยสาร พากันเดินไปร้านพิซซ่าที่มีชื่อแห่งหนึ่ง วาวาหาที่นั่งเลยน่ะครับ......เดี้ยวผมไปเปลี่ยนชุดก่อน วาวาได้แต่พยักหน้า...... ทำกี่ชั่วโมงเนี่ย...... สามชั่วโมงครับ แค่กะเดียวเองวันนี้คนเยอะครับ นัทหันมายิ้ม ถ้าเบื่อไปเดินเล่นก่อนก็ได้น่ะครับ นัทพูดแล้วเดินจากไป อะไรก็ไม่รู้เนี่ย..........ชวนฉันมานั่งแห้งทำไมน่ะ วาวาบ่น เอาเถอะ ถือว่ามาเรียนรู้ชิวิตคนเพิ่ม วาวาหยิบเมนูขึ้นมาสั่งน้ำไปหนึ่งแก้ว แค่นี้ก็นั่งยาวได้ไม่มีใครด่าเธอคิด วาวาเหลือบตาดูนายนัทที่ทำงาน เดี้ยววิ่งไปรับออรเดอร์ เก็บจานของคนที่กินเสร็จแล้ว เดี้ยวไปขนของหลังร้าน แยกผัก เก็บของเข้าตู้เย็น..... ทำดีขนาดนั้นยังไม่วายโดนด่า.... แป็บๆนายนัทก็วิ่งมาเช็ดโต้ะต่อ..... นี่เห็นถือถังน้ำไปด้านหลัง คงไปถูพื้นต่อ ค่าจ้างไม่กี่บาท......ต้องเหนื่อยมาขนาดนี้เชียวเหรอ วาวาคิด 3ชั่วโมงของนายนัทกว่าจะได้มาแต่ละบาท ดูมันยากย็นแล้วก็ลำบากเหลือเกิน เมื่อเทียบกับเธอ….. แค่3ชั่วโมงที่เธอช็อปปิ้ง 3000กว่าบาทก็หลุดไปจากกระเป๋าเสียแล้ว.... มานั่งๆนึกดู 3ชั่วโมง100กว่าบาท ถ้าจะหา3000บาทก็ตั้ง90ชั่วโมง หวายๆไม่เอา วาวาส่ายหัว แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้ว... เธอนั่งดูนายนัททำงานฆ่าเวลา ดูจะสนุกกว่าไปเดินซื้อของคนเดียวเสียอีก..... กว่านายนัทจะเลิกงานก็เย็นมากแล้ว นัทเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินมาหาวาวา แล้วยิ้มให้ ไปไหนกันต่อดีครับ นัทถาม ไม่อ่ะเย็นแล้วน่ะนัท เราจะกลับบ้านแล้ว วาวาตอบ..... จริงด้วยสิ เย็นขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ขอโทษน่ะครับ วันนี้ที่ไม่ค่อยได้พาเที่ยวเลย ไม่เป็นไรหรอก นายทำงานอย่างนี้บ่อยๆเลยเหรอ แล้วเอาเวลาที่ไหนเที่ยวเล่นล่ะ วาวาสงสัย เที่ยวเหรอครับ? นัทพูดพาวาวาเดินออกมานอกร้าน... ผมเลิกเที่ยวมานานแล้วครับ อาจจะดูเวอร์ สำหรับวาวาเทศการอาจหมายถึงเวลาเที่ยว แต่สำหรับผม มันคือเวลาที่หาตังได้ดี และเร็วมาก นายจ้างเข้าจะจ้างราคาแพงกว่าปรกติ บางทีถ้าโชคดีก็มีคนให้ทิป เจ้านายก็ให้ของกลับไปกินที่บ้านบ้าง ทุ่นไปหลายมื้อเลยครับ นัทพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปรกติ นายไม่เคยคิดอยากจะไปไหนกับเพื่อนๆมั่งเหรอ วาวาเริ่มสงสารนายนัท เพื่อนเหรอครับ ผมไม่ค่อยมีหรอกครับ วาวา ถ้าจะมีก็พวกเพื่อนๆโรงเรียนเก่า ลำบากเหมือนกัน บางทีก็นัดกันไปทำงานพิเศษที่เดียวกัน บอกตรงๆครับ ผมคบเพื่อนที่มหาลัยไม่ไหว เวลาเขาไปเที่ยว ไปกิน ไปเล่นกัน ผมรู้สึกว่าตัวเองด้อย ผมตามเขาไม่ไหว แค่ค่าข้าวค่าเดินทางผมก็แย่แล้วครับ นัทพูดยิ้มเฝื่อนๆ ไม่หาเพื่อนแต่อยากหาแฟน บ้าจริงๆเลยนายอะ เวลาก็ไม่ค่อยมีไม่ใช่เหรอ วาวาถามมองไปที่นายนัท ครับผมก็รู้ตัว ผมรู้ตั่งแต่แรกแล้วว่าผมไม่เหมาะกับวาวาเลย หน้าก็ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่มีรถขับ ไม่ได้เก่ง เรียนก็แค่พอถูไถ ผมก็บอกตัวเองแล้วน่ะครับ ว่าอย่าเลย จะเจ็บปล่าวๆ ผมแอบมองคุณเงียบๆลุ้นทุกครั้งที่มีคนมาจีบ.... กลัวครับ กลัวว่าวาวาจะไปชอบเขา กลัวว่าวาวาจะไปชอบใครสักคน แต่ผมก็ไม่เคยเห็นใครจีบคุณติดเลย นัทพูดพาวาวานั่งฟุตบาทตรงแม็คโดนัลด์หน้ามาบุญครอง อ่ะนะ......ก็อยู่แล้ว วาวายิ้มภูมิใจ ผู้ชายวุ่นวายจะตาย ชอบคิดวาตัวเองเก่งตัวเองดี คิดว่าตัวเองดีแล้วผู้หญิงต้องรัก พอเราบอกไม่ ก็จะคอยถามว่าตัวเองไม่ดีตรงไหน ไม่พอยังไง ไม่เคยจะเข้าใจเล้ย ว่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ วาวาพูดใส่อารมนิดๆ ก็นั่นแหละครับ ผมจึงบอกตัวเองให้ลองดู เพราะถ้ามันต้องเจ็บ ต้องลุ้นทุกครั้งที่เห็นคนมาใกล้คุณ ผมก็ขอเสี่ยงสักครั้ง ถ้าจะเจ็บก็ให้มันเจ็บไปเลย เผื่อสักวันคุณมีแฟน อย่างน้อยผมก็จะได้บอกตัวเองได้ว่า ....พยายามจนถึงที่สุดแล้วน่ะ แต่ไม่ได้..... จะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจแบบนี้ คำพูดนายนัทเล่นเอาวาวาถึงกะอึ้ง ความคิดเขา เป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กมหาลัยคนอื่นมากเลย ดีกว่าบางพวกที่เรียนๆ เล่นๆ จีบสาว ไปวันๆ เขาต้องรับภาระอย่างนี้มากี่ปีกันน่ะนี่ วาวาตอบอะไรไม่ถูก วาวาครับ นัทเรียก หือว่าไง..... วันนี้อากาศดีน่ะครับวาวา วาวาเงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดแล้ว ก็ดีอ่ะน่ะ ไม่ร้อย ฝนก็ไม่น่าจะตก ใช่ครับอากาศดี เหมาะสำหรับมีความรักน่ะครับ นายนัทเล่นมุข ว้าย นี่เล่นมุขเสี่ยวๆกับฉันอีกแล้วเหรอ วาวาหยิบถุงกระดาษใส่ของขึ้นมาตี ตะกี้ไม่น่าคิดเลยว่านายคนนี้ มีดีกะเขานิดๆ-_-“ ...................................................... นั่งรถแท็กชี่กลับบ้าน(อีกแล้ว) เนื่องจากรถเมล์คอยเย็นประมาณทุ่มถึงสองทุ่มหน้ามาบุญครองคนเยอะมาก แล้วจำนวนของในมือของวาวาก็คงทำให้ กระเป๋ารถเมล์ มองหน้าด่าพ่อไม่มากก็น้อย วาวาส่ายหัวตัวสินใจอีกครั้งที่จะนั่ง รถแท็กซี่กลับบ้าน นัทอาสาตามมาส่ง เขาบอกผู้ชาย ยังไงก็กลับบ้านได้ปลอดภัยแน่นอน วาวาก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนแรกก็จะไม่ให้มาส่งแล้ว.... แต่พอเห็นหน้าคนขับแท็กซี่ ที่เรียกมา ก็แทบบอกนายนัทว่าไปด้วยกันเถอะ เพราะคนขับ เหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากกรมราชทันฐ์ เถื่อนดุร่างใหญ่ ตัวดำ หน้าxxxม เอาง่ายๆคือหมดทางสู้แน่ๆ ถ้าแท็กซี่ตกมันขึ้นมา เธอไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้...... จะบอกเปลี่ยนคันก็ไม่ได้ ก็เรียกมาแล้วคนขับก็มองหน้าเอาว่ะขึ้นก็ขึ้น วาวากะนายนัทนั่งเบาะหลังด้วยกัน ..................................................... ตลอดทางไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากสองคน วาวานิ่งเอนตัวสบายไปกับเบาะ ส่วนนายนัทหน้าออกเครียดๆเหมือนคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ นี่ นี่ คิดอะไรอยู่น่ะ ทำหน้าเครียดมากเลย.... วาวาถาม อ้อ......คิดถึงเธอน่ะ....... นัทหันมาพูดสั้นแต่เล่นเอาวาวาอึ้งเป็นรอบที่สามสิบของวันนี้ โอ้ย................พอได้ม่ะไอ้มุขพวกนี้มันเสี่ยวอะนัท ไม่ชอบเลย วาวาโวยวาย เขยิบห่างออกมาอีกเมตร ผมก็แค่พูดความจริงนี่ครับ ผมคิดถึงวาวาจริงๆน่ะ นัทพยายามมองวาวาทำตาซึ้ง วาวาทำหน้าแบบ –“-|||| ไม่อาวไม่ต้องมาคิดถึงฉัน จะคิดถึงใครก็ไปไป้..... อย่านึกว่าที่ยอมมาเที่ยวด้วย คุยด้วยแล้วจะชอบนายน่ะ ฝันไปเถอะ....วาวาบอก ก็ไม่เป็นไรครับ ก็อย่างที่เคยบอก ขอแค่ให้ผมได้ชอบคุณได้ก็พอแล้ว......นัทไม่ยอมลดละ วาวาแทบทึ้งถุงกระดาษ ทำไมมันดื้อ+ตื้อขนาดนี้กันน่ะ เนี่ย โอ้ต ตามใจ ตามใจ มันสิทธิของนาย..... วาวาพูดหันหน้าเข้าหาหน้าต่างมองไปสองข้างทางถนน ทำไมเธอต้องหงุดหงิดด้วยก็ไม่รู้ มีคนบอกคิดถึงเธอออกบ่อยไป แต่ไม่เคยรู้สึกแปลกๆแบบนี้เลย.... รถเลี้ยวถึงหน้าบ้านวาวา เธอลงรถ จ่ายเงินค่าโดยสารเผื่อไปอีก 100 บอกให้ไปส่งนายคนนี้ด้วย..... ไม่เป็นไรครับนัทบอก ผมหารถกลับเองได้ เอาน่า วาวาคิ้วขมวด นี่มันก็เย็นมากแล้วพรุ่งนี้ก็มีเรียนอีก.....ไม่ต้องหยิ่งเข้าใจป่ะ งั้นขอบคุณครับ นัทส่งยิ้มให้ แต่อยู่แล้วครับที่วาวาไม่ยิ้มตอบ กลับบ้านดีๆล่ะ บาย วาวาพูดแค่นั้นหันหลังเดินเข้าบ้านไป ทิ้งใว้ให้นัทนั่งสงสัย ผู้หญิงอย่างวาวาเป็นคนยังไง แล้วสรุปว่าตอนนี้เข้าแห้ว หรือมีหวังกันนี่ งง จริงๆ-_- ผ่านมากว่าสองอาทิตย์ นัทก็ยังคอยตามจีบวาวาแบบไม่ลดความพยายาม วาวาบอกกรณีของนัทนี่ไม่เรียกว่าจีบแล้ว แต่เป็นกานจองล้างจองพลาญกันมากกว่า เพราะเธอไม่เคยคิดจะชอบนายคนนี้เล้ย ไว้ว่างๆเราจะเข้าวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เผื่อนายคนนี้จะไปจากชิวิตฉันสักที วาวาบอกกับผม-_-“(ขนาดนั้น) มุขเสี่ยวๆของนายนัทไม่เคยจะขาดสาย จะให้ยกตัวอย่างเหรอครับ....ผมพอจะนึกออกอยู่เรื่องสองเรื่อง... มีครั้งนึงนายนัทแอบส่งกระดาษให้วาวาตอนเช้าโดยไม่มีคำพูดใดๆ ส่งให้แล้วก็ไปซะอย่างนั้น ตอนแรกวาวาจะไม่อ่าน แต่ให้ตายสิความอยากรู้ของพวกผม เลยบังคับวาวาให้อ่านข้อความที่นายนัทเขียนให้ฟัง.... วาวาเลยนอ่านแบบเสียไม่ได้ To.วาวา เมื่อวานตอนผมนั่งรถเมล์กลับบ้าน ผมเกือบจะไม่ได้มาเห็นหน้าคุณอีกแล้ว เพราะผมเกือบตายเมื่อวานนี้ อย่าตกใจครับ ผมพูดจริงๆ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมก็ไม่อยากจะปิดบังเอาไว้หรอกครับ เมื่อวานที่ผมเกือบตายก็เพราะ “ผมคิดถึงคุณจนลืมหายใจ” อย่าโทษตัวเองนะครับถ้าผมเป็นอะไรไป ผมยอมความและไม่เอาผิดใดๆทั้งสิ้น แค่นั้นเองครับจริงๆที่ผมอยากจะบอกคุณ p.s วาวาไม่มีมารยาทเลยนะครับ เข้ามาในความฝันของผมทุกคืนเลย..... วันหลังถ้าอยากเจอผมมาก นัดผมมาคุยก็ได้ครับ ยินดี From nutผู้รักวาวาที่ซู้ด คนอื่นพออ่านจบฮากลิ้งครับ ส่วนวาวาฮาไม่ออก ทำหน้าเครียดอีกตั้งหาก เขาดูจริงใจดีน่ะ มินบอกวาวาพยายามเชียร..... เอาไหมล่ะยกให้เลย แลกกะเจมก็ได้.... มินส่ายหัวโดยไม่คิดด้วยซ้ำ ยิ่งทำให้วาวาทำหน้าเซ็งหนัก.... เห็นม่ะ มินก็ไม่เอา ถ้านายนัทมีดีกว่านี้มั่งก็ค่อยคิดดูอีกที... แต่นี่......ไม่หล่อ แถมเสี่ยวอีกอ่ะ... ไม่ได้แกล้งเส่ยวด้วยเสี่ยวโดยธรรมชาติเลย... วาวาพูดร่อนจดหมายไว้ที่ถังขยะริมห้อง พร้อมกับประกาศิตขาด ใครเก็บมันขึ้นมาอีก ตาย -_-“ .............................................................. แล้วก็อีกครั้งนึง.... เมื่อนายนัทมาหาวาวาที่ห้องเรียน อาจารย์กำลังสอนเรื่องสำคัญ แล้วที่สำคัญอาจารย์ท่านนี้ดุ(มาก) ชั่วโมงนั้น ก็นั่งกันหน้าเครียดจะแย่อยู่แล้ว นายนัทเล่นมาหา เล่นเอาอาจารย์หันมามองวาวาตาเขียว... มาไม่มาเปล่า เขาแบกกุหลาบช่อโตมาด้วย เดินดุ่มๆแบบในเรื่อง มายซอสสี่เกอร์ หน้าตาก็พอๆกันกับพระเอก แต่บรรยากาศมันไม่ใช่น่ะสิ..... เอามาวางไว้ให้ แทนที่วาวาจะยิ้มปลื้ม กับกลายเป็นการยิ้มขู่ฆ่าแทน นายคนนั้นสบตากับวาวา ถึงกับถอยหลังไปตั้งหลักสองก้าว จะเอาดอกไม้คืนก็กะไรอยู่เลยเลยทิ้งไว้อย่างนั้น หนีออกนอกห้องไป คิดเหรอครับ ว่าอาจราย์จะยอมให้จบง่ายๆ... กุหลาบยิ่งเด่นตำตาคนทั้งห้อง ทุกคนมองวาวาเป็นสายตาเดียว วาวาเจออาจราย์ดุชุดใหญ่ “ห้องฉันไม่ใช่สวนสาธารณะ ไม่ใช่ว่าใครจะมา ใครจะไปก็ได้ ไม่ใช่ห้องที่ให้พวกเธอจีบกัน แสดงโชว์ว่ามีคนรัก พ่อแม่เธอส่งมาเรียนน่าจะทำให้ท่านภูมิใจ ไม่ใช่มานั่งอ่อยหนุ่มๆแบบนี้ ไม่พอใจเรียนก็ไม่ต้องเรียนก็ได้น่ะ ทำอะไรไม่เกรงใจอาจราย์ คิดเหรอว่าจะได้ค่ะแนนดีๆ เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง....”อาจราย์ด่าเป็นชุดๆ ยังกับท่องไว้ล่วงหน้าแล้ว วาวานั่งนิ่งต้องปล่อยให้ด่า พูดอะไรไม่ออก จะแก้ตัวยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ถ้าใครไม่รู้จักเธอ ก็ต้องคิดว่าเธอน่ะเป็นอย่างที่อาจราย์เขาด่าจริงๆ ออกไปเลยออกไป ชั่วโมงนี้ฉันไม่ให้เธอเข้าเป็นการลงโทษ ไปสำนึกตัวเองซ่ะ ว่าเป็นนักศึกษาต้องทำตัวยังไง จะไปดรอปก็ได้น่ะฉันไม่แคร์หรอก ... อาจราย์ชี้นิ้วสั่งให้วาวาออกไปนอกห้อง ทำหน้าโกรธจัด... วาวาได้แต่ก้มหน้าเก็บของ กำมือแน่น....... ไม่มีใครเห็นสีหน้าเธอว่าเป็นยังไง เธอแบกหนังสือ เดินออกไปช้าๆ ทิ้งไว้แต่หยดน้ำ ใสๆ หยดนึง บนโต้ะแล็คเชอร์เท่านั้น.... วาวาเดินร้องไห้ออกมานอกห้อง... ตรงเข้าห้องน้ำล้างหน้า แค้นในใจจนแทบจะระเบิด เราทำอะไรผิดเนี่ย ทำไมต้องว่าเราขนาดนี้ด้วย วาวาคิดในใจ ล้างเสร็จก็ดินออกมาจากห้องน้ำ ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้...... เราไม่รู้จริงๆว่าจะเป็นแบบนี้ ขอโทษ นัดบอกวาวา วาวาปัดผ้าเช็ดหน้าทิ้ง เดินหนี แต่นัดไม่ตื้อลดละ ยังคงเดินตาม พูดคำขอโทษออกมาจากปากคำแล้วคำเล่า จะให้เราพูดยังไงล่ะ จะให้เราทำยังไงวาวาถึงจะหายโกรธ บอกเรามาสิถ้าเราทำได้จะทำให้ตรงนี้ เดี้ยวนี้เลย เล่นเอาวาวาสะดุดกึก หันมาพูดเสียงสั่น ถ้านายเป็นลูกผู้ชายพอที่จะทำได้อย่างที่พูดล่ะก็ ช่วยทีเถอะ ช่วยหยุดมายุ่งกะฉันเสียที เข้าใจไหม................. วาวาพูดพร้อมหันหลังเดินไป วาวาอย่าขอเรื่องนี้ได้ไหม เรื่องเดียวเราทำไม่ได้หรอก นัดพยายามสาวขาไล่ให้ทันวาวา ไหนบอกถ้าทำได้จะทำไง นี้หรือผู้ชาย วันหลังถ้าทำไม่ได้อย่าพูด......มันทุเรศเข้าใจไหม วาวาพูดโดยไม่หันหลังกลับมามองด้วยซ้ำ นายน่าจะเข้าใจฐานะตัวเอง..... บอกตรงๆที่เราไปเที่ยวกะนายวันนั้น เราไม่เคยสนใจอะไรนายเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะเราใจอ่อน แต่เพราะเจมเขาท้าเราต่างหาก นายน่าจะเจียมซ่ะมั่ง ดูกี่คนกี่คนที่มาจีบเราสิ นายเทียบเขาได้มั่งไหม เรายังไม่สนใจเลย แล้วจะเทียบอะไรกับนาย คนแบบนายมีอะไรดี พอที่จะทำให้เรารักได้หรือเปล่า..... คำพูดวาวาเสียดแทงเข้าไปในใจของนายนัท เป็นคำพูดที่เจ็บลึกมาก ......................................... ................................. ......................... วาวามองนัทที่ก้มหัวสำนึกผิด...หลบหน้าหนี เรามันก็เป็นผู้หญิงอย่างนี่แหละ อย่ามายุ่งกับเราอีกเลย ถ้ามันยากพอที่จะเข้าใจล่ะก็ จำไว้ซ่ะว่าฉันเกลียดนายที่สุด เท่าที่เคยเห็นผู้ชายมาเป็นพันเป็นหมื่นคน แค่นี้ล่ะลาก่อน วาวาพูดสะบัดหน้าเดินหนีไป นัทยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ตามต่อเหมือนทุกครั้ง เขามองตามวาวาช้าๆ สายตาเจ็บปวดเป็นที่สุด คนที่เขารักที่สุด คือ คนที่เกลียดเขามากที่สุด ความรู้สึกตอนนี้มันเกินจะแบกรับเอาไว้จริงๆ ตั่งแต่วันนั้น ดูเหมือนนายนัทจะเข้าใจกับคำว่า ขอให้ไปไกลๆเราสักที เขาไม่เคยผ่านมาในชิวิตของวาวาอีกเลย.... ไม่มาเสนอหน้า ไม่มาคอยแซว คอยเอาของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้ ไม่มีขนมโตเกียวที่คุ้นเคย ไม่มีคนให้ด่าเหมือนเคย...... ผ่านมากว่า15วันแล้วที่ไม่เจอนายนัทแม้เงา วันแรกๆวาวาก็ยังเป็นปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดีใจด้วยซ้ำ มันไปจากชิวิตฉันซะที วาวาถอนหายใจ....บอกพวกผมยิ้มแย้ม ตอนที่รู้ว่าวาวาพูดอะไรกับนายนัทเล่นเอาผมตกใจ เราสามารถเกลียดคนที่รักเรามากขนาดนี้ได้เชียวเหรอ... หลังๆไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าดูวาวาซึมๆไปไม่ค่อยเหมือนเดิม คำถามที่เข้ามาในใจของผม เป็นไปได้ไหมที่วาวาจะเศร้าเพราะนายคนนั้น.... ในชั่วโมงเรียนชั่วโมงเดิม ที่วาวาโดนอาจารย์ดุใส่ เธอนั่งใจลอยเอาปากกาเขี่ยหนังสือไปมา แววตาเธอดูเศร้าๆ อาจารย์ไม่โกรธวาวาแล้ว เธอเดินไปขอโทษ จนอาจารย์ใจอ่อนยอมให้เข้าเรียนตามปรกติ ง่ายกว่าที่คิด บางทีอาจารย์ก็คงรู้ตัวล่ะมั้งว่าด่าแรงเกินไป คนเราพอโมโห ก็กลายเป็นคนไม่มีเหตุผลได้ง่ายๆ วาวาแกว่งปากกาไปมา ตามองอาจารย์สอน แต่ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ผมจ้องมองดูเธอเงียบๆ วาวานิ่ง ไม่ใช่เพราะว่าผมจ้อง แต่เป็นเพราะเธอเห็นอะไรบางอย่าง บางสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้น วาวาก้มลงไปใต้โต้ะ หยิบอะไรบางสิ่งขึ้นมาดู กลีบกุหลาบแห้งๆสีแดงซีด ไม่รู้ว่ามันหลงเหลืออยู่ได้ยังไง อาจเป็นเพราะแม่บ้านกวาดพื้นไม่เรียบร้อย หรืออาจเป็นเพราะชะตากรรมของมัน ที่รอคอยให้เจ้าของมาเจอ วาวาจ้องดูกลีบดอกไม้เพียงกลีบเดียว มันไม่สวยเสียแล้ว แห้ง กรอบ สีก็ไม่สด แต่มันก็ทำให้เธอเปลี่ยนสีหน้า แววตาที่สลดลง แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด เธอเก็บ กลีบดอกไม้ไว้ระหว่างช่องหนังสือ ปิดมัน และเก็บมันไว้อย่างนั้น.......... งี่เง่า.... งี่เง่า งี่เง่า....... วาวาบ่นกับตัวเอง.... โยนกองหนังสือลงบนโต้ะ ไม่รู้วาวากินรังแตนมาจากไหน... ระยะนี้เธอหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล บางทีก็เงียบ เงียบเกินไปจนดูไม่เป็นวาวาเลย เป็นอะไรวาวา ผมถามหลายครั้งแล้ว วาวาก็จะส่ายหน้าแล้วบอกไม่มีอะไรทุกครั้งไป ไม่เป็นอะไรเหรอ แล้วทำไมต้องหงุดหงิดด้วยล่ะ ไม่รู้สิ ใครว่าเราหงุดหงิด เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยวาวาทำเสียงร่าเริง คิดถึงนัทหรือเปล่า ผมถามตรงๆ ผมยืนคุยกับวาวาตรงบันไดขึ้นตึก ตอนนี้มีเพียงผมกับเธอเท่านั้น..... เธอมองผม ส่ายหน้า ไม่อ่ะทำไมเราต้องคิดถึง อย่างเราเนี่ยน่ะ ไม่มีทางหรอก แม้ว่าไม่มีใครวาวาก็ยังไว้ฟอรม์ เธอเปลี่ยนไปน่ะ เธอไม่เคยมีฟอรม์กับผมเลย ไม่รู้สิแต่ผมรู้สึกเหมือนไม่ใช่วาวาคนที่ผมรู้จัก ....................................................... มันทำให้ผมเงียบ คิดอะไรไปเรื่อยๆ วาวาก็พลอยเงียบตามผมไปอีกคน เจมคิดว่าเราคิดถึงนัทเหรอ วาวาถาม อือ......คิดสิ ผมพูดพลางลุกขึ้น บ้าเจมอย่างเรานี่น่ะ....... ผมมองตาวาวา เธอหลบตาผมทันที วาวาอย่าพยายามเลย อย่าฟืนตัวเอง รู้ตัวเองน่ะว่าตัวเองต้องการอะไร.......หรือว่าวาวาทำใจไม่ได้เหรอ ............................ ไม่เจม ไม่..........หยุดพูด พูดอีกเราโกรธจริงๆน่ะ เราบอกแล้วนะว่าไม่ได้ชอบ แล้วก็ไม่มีทางชอบด้วย ไม่ว่าจะทำใจยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ........................... อือเราเชื่อน่ะ ถ้าวาวาจะยืนยันอย่างนั้น.... ไปกินข้าวกันเถอะ เราไม่ชอบเธอที่ซึมๆแบบนี้เลย วาวาเดินตามมายิ้มหวาน เอ้ายิ้มแล้วน่ะ พอใจยัง วาวาถาม อือ ก็ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ ผมตอบ โล่งใจที่วาวาไม่เครียด อย่างน้อยก็คุยเล่นเหมือนก่อนได้ เรายิ้มแล้วมื้อนี้เจมก็เลี้ยงข้าวเราเป็นค่ายิ้มล่ะกัน วาวาส่งท้าย. ง่ะ....เป็นยิ้มราคาแพงที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอมา-_- เอาวะเลี้ยงก็เลี้ยง... ผมกับวาวาไปนั่งที่ร้านอาหารใกล้ๆมหาลัย บรรยากาศดี มีบริกรเอาเมนูมาให้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจมากก็คือ นายนัทเป็นคนเอาเมนูมาให้นี่สิ นัท ผมกับวาวาพูดออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน... มาทำอะไรเนี่ยนัท ผมทักทาย นัทยิ้มเจื่อนๆให้ผม ดูเหมือนเขาก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นผมกับวาวา ทำงานพิเศษน่ะ หารายได้เพิ่ม เอ้าจะสั่งอะไรกันดีครับ นัทถาม ผมยื่นเมนูให้วาวาก่อน แต่เธอส่ายหน้า ทำไมล่ะไม่กินเหรอวาวา ก็ไม่อยากกิน กินไม่ลง เธอก้มหน้าไม่พูดไม่จาอะไร น้ำล่ะเอาน้ำอะไรไหม เอาอะไรก็ได้เจมสั่งมาเถอะ เรากินได้หมดแหละ.... วาวาพูดตัดบทเล่นเอาผมงง อยู่ๆวาวาเป็นอะไรเนี่ย.... ตะกี้เป็นคนบอกให้เลี้ยง ก็แปลว่าหิว หิวแล้วทำไมไม่กินล่ะ ผมซักไซ้ ช่างเราเหอะเจม อย่าถามเลย วาวาพูดนิ่งๆ ....เล่นเอาผมไม่กล้าถามวาวาอีก นัทยืนคอยผมสั่งอาหาร คั่นกลางระหว่างผมกับวาวาที่นั่งอยู่ วาวาไม่พูดไม่จา ไม่สนใจแม้แต่จะมอง.... นัทก็เหมือนกัน นิ่ง เงียบ ไม่ต่างกับวาวาเลย เขาทำหน้าแบบไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงนี้..... ผมแกล้งสั่งอาหารช้าๆ เพื่อดูอาการของทั้งสองคน วาวามองผมทำหน้าแบบรีบๆสั่งให้มันเสร็จๆไปสิ ผมไม่รู้ว่าเธออึดอัดแค่ไหน แต่ที่แน่ๆสายตาของวาวาดูรู้สึกผิด......ผิดต่อะไรบางสิ่งที่ผมไม่รู้ ผมสั่งอาหารง่ายๆนายนัทก้มหน้ารับเมนูเดินเข้าหลังครัวไป นายนัทหายเข้าครัวไปเลยหลังจากรับเมนูเสร็จ..... ผมไม่เห็นเขาออกมาที่ด้านหน้าร้านอีกเลย เขาถูกใช้งานหลังร้าน หรือเขาพยายามหลบหน้าวาวากันแน่.... อาหารมาเสริฟแล้ว โดยคนอื่น ผมพยายามถามหานัท แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร...... เขาตอบไม่ถามแต่ดูเลี่ยงๆยังไงไม่รู้ ผมกินอาหารเรื่อยๆ แต่กินไม่ค่อยอร่อย วาวาเล่นไม่กินอะไรทำหน้าเครียด ผมคงทำใจให้อาหารที่อยู่ตรงหน้าอร่อยไม่ลง ผมวางช้อนลง เอามือประสานบนโต้ะ วาวา........มีอะไรจะบอกเราหรือเปล่า.... ผมพูดทำให้วาวาสะดุ้ง ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรคนเดียวอยู่ ไม่มีค่ะเจมไม่มี..........เนี่ยช่วงเนี้ยเราว่าเราอ้วนขึ้นน่ะเลยอยากจะไดเอ็ทสักหน่อยไม่มีอะไรหรอก.. เธอยิ้มให้ผม.... แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ยิ้ม แต่เป็นแค่สีหน้าที่ปั้นขึ้นเท่านั้น มันไม่มีชิวิตชีวาเลย ผมมองตรงไปที่วาวา มองไปที่ตา มองให้เธอรู้ว่าผมไม่เชื่อ แล้วผมน่ะรู้น่ะว่าจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..... รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าวาวา สายตาเปลี่ยนเป็นเศร้า ก็ได้เจม เราจะเล่าความจริง ความรู้สึกจริงๆของเราตอนนี้ให้ฟัง.... เราคิดกับนัทแค่เพื่อนจริงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะคบเป็นเพื่อนด้วยซ้ำเราคิดว่าเราไม่แคร์เขานะ ออกจะเกลียดๆด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้สิทำไม ทำไมเราถึงรู้สึกผิดขนาดนี้ก็ไม่รู้ เจม......เราทำเกินไปหรือเปล่าที่ไปว่าเขารุนแรงแบบนั้น... เขาอาจจะแค่หวังดี อยากจะทำเซอรไพรส์เรา เราอาจจะดีใจก็ได้น่ะ ถ้าเขาให้เราในชั่วโมงอื่น ไม่รู้สิเจมเราสับสนมากเลย เราไม่ได้รัก แต่ก็ไม่ได้เกลียด.... วาวาพูดอยู่แค่นั้น ผมนั่งฟังเธอเงียบๆ ถ้า วาวา ยังไม่รู้ว่าตัวเองคิดกับเขายังไง ก็อย่าฝืนเลยวาวา วาวาจะทำยังไงล่ะ ถ้าวาวารู้ตัวว่าชอบเขา จะอยู่กับเขาได้เหรอ จะแบ่งเวลาได้หรือเปล่า แล้วถ้าเกลียด วาวาทำใจได้หรือยังว่าจะไม่ยุ่งไม่คุยกับนายคนนี้อีก ผมถาม .................................................. ......................................... .......................... ปล่อยให้เวลามันแสดงทุกอย่างออกมาเถอะวาวา อย่าไปเร่ง เหมือนมาม่าน่ะ ถ้าไม่ต้ม3นาทีมันก็ไม่อร่อย..... ไม่มีใครเร่งคำตอบจากวาวาน่ะ ทำในสิ่งที่อยากทำ ทำแล้วมีความสุข ยิ้มได้ก็พอแล้วล่ะ ........ค่อยๆหาคำตอบให้กับตัวเอง เจมแต่เรา.........อือ........ไม่มีอะไรแล้ว..... วาวาเหมือนจะบอกอะไรผมแต่ก็ไม่กล้าที่จะบอก งั้นเราไปล่ะนะ ผมหยิบบิลค่าอาหาร วาวามีเรียนต่อใช่ไหม เราไม่มีแล้วล่ะจะกลับบ้านไปนอนเล่นแล้ว เดี้ยวเราเลี้ยงเองตามสัญญา ดูแลตัวเอง แล้วที่สำคัญ ค้นหาคำตอบให้ตัวเองด้วยล่ะ...... ผมลาวาวา เดี้ยวเจม.......ครั้งนี้ไม่ถือว่าเลี้ยงน่ะ.... -“- เรายังไม่ไดสั่งอะไรเลย งี้ก็เหมือนเรามานั่งกินน้ำแก้วเดียวอะดิ ดูวาวาสิครับ ยังมีอารมงกอีก ผมได้แต่ยิ้ม พยักหน้าตกลง(ไปอย่างนั้นแหละ) อือโชคดีน่ะ บาย เธอโบกมือลา ผมเดินออกมานอกร้าน กะกลับบ้านไปนอนเล่นจริงๆ วันนี้มีเรียนแค่วิชาเดียว ตูจะมามหาลัยทำไมเนี่ย....-_-“ เดินออกยังไม่ทันพ้นหน้าร้าน.... ผมก็ถูกนายนัทมายืนดักหน้าเสียแล้ว.... .................................................................................. ผมตกใจที่เห็นนายนัท มันมาดักตีหัวเราเหรอเนี่ย ผมคิดในใจ กำลังจะบอกเห้ยนัทใจเย็น แต่นายนัทเดินเข้ามาประชิดตัวซะก่อน ........................................... ............................ เจม เรามีอะไรจะฝากบอกวาวา.....นัทเดินมาหยุดตรงหน้าผม เล่นเอาผมโล่งอก เห้อรอดตัวไป...^^ อืมมีอะไร เดี้ยวเราไปบอกให้....ผมบอก นัทก้มหน้า..... เจมเราก็รู้ตัวน่ะ รู้ตัวว่าไม่เหมาะกับวาวาเลย แต่นายช่วยเราหน่อยเถอะ บอกวาวาทีว่าเราไม่ได้โกรธเขาเลยน่ะที่เขาไล่เราวันนั้น ไม่เคยเกลียด ยังคงรักเขาอยู่ แต่คำพูดของวาวาก็ทำให้เรารู้ตัว รู้ว่าเราทำให้เขามีความสุขไม่ได้..... เราไม่มีอะไรเลยเจม ไม่มีอะไรจริงๆ เราทำงานไป เรียนไปลำบาก แล้วก็เหนื่อยน่ะ เราไม่อยากจะให้เขามาลำบากกับเรา... ขอบคุณด้วยที่ทำให้เราเจียมตัว ขอบคุณที่พูดแรงๆพูดให้เข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ ........................... ............................................ นัทเงียบไปแป็บนึง เสียงของเขาเปลี่ยนไป ดูสั่นพร่า เขาหันหน้าไปอีกทาง ไม่ยอมให้ผมเห็น แต่ผมก็รู้ว่านัทร้องไห้ ร้องไห้ให้กับคนที่ไม่ได้รักเขา... เรารู้ตั่งแต่แรกแล้วว่าไม่ควรจะเขามา เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องจบแบบนี้ เราก็แค่อยากทำให้เขามีความสุข แต่เรามาคิดดูแล้ว ความสุขที่เราจะหาให้เขาได้ มันไม่ถึงครึ่งที่เขาควรจะได้รับ ไม่สิน้อยกว่าครึ่งด้วยมั้ง..... เจมฝากนี้ให้เขาด้วย นัทยัดสร้อยทองเส้นเล็กๆใส่มือผม เราอยากจะให้เขาใส่ เราพยายามเก็บตังมานานแล้ว แต่เราก็ให้เขาได้แค่นี้ ไม่ต้องบอกก็ได้น่ะว่าเราให้ บอกว่านายให้ก็ได้ เผื่อเขาจะดีใจ จะได้ใส่มัน เผื่อสักวันเราเห็นเขาเดินผ่าน... เราจะได้บอกกับตัวเองได้ว่า เราเคยทำอะไรให้ผู้หญิงคนนึง คนที่เราไม่เคยรักใครเท่าเขาอีกแล้ว.... ผมรับสร้อยมาในมือ มองไปที่นัท นัทดูผอมลงมาก ขอบตาก็ดำ คงทำงานหนักมาก ผมเพิ่งได้เห็นนัทชัดๆก็ตอนนี้เอง ค่าจ้างไม่กี่ร้อยต่อวัน ไหนจะค่ากิน ค่าเรียน ค่าอะไรต่ออะไรอีกสารพัด ผมไม่รู้ว่าสร้อยเส้นนี่ มาจากความพยายามของนัทขนาดไหนกันแน่ แต่มันก็ทำให้ผมซึ้ง ซึ้งที่ว่ามีผู้ชายที่ทำเพื่อผู้หญิงที่รักได้ขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย.. เราคงต้องไปทำงานต่อแล้ว อย่าลืมน่ะ ฟากให้เขาให้ได้.. แล้วไม่ต้องเล่าที่เราคุยเมื่อกี้ให้วาวาฟังน่ะ เราไม่อยากจะทำให้เขาไม่สบายใจ บอกแค่ว่าเราขอโทษ เราจะไม่มาทำให้รำคาญอีกแล้ว ขอบใจนายมากน่ะ นัทพูดเดินเขาหลังร้านไป.... ทิ้งให้ผม ยืนอึ้ง พร้อมกับสร้อยบนมือ..... สร้อยทองเส้นเล็กๆที่หนักอึ้งไปด้วยความรู้สึกจนผมแทบถือไม่ไหว.... ........................................................................... .................................................. ผมไม่กล้าเอาสร้อยให้วาวา เพราะถ้าผมเอาให้เธอ แล้วสักวันเธอรู้ว่านัท ทำเพื่อเธอขนาดนี้ แล้วผมปิดบังล่ะก็ ผมคงจะโดนไม่ใช่น้อย วาวา เริ่มเป็นปรกติ นิสัยของเธอก็งี้ ชินชากับความเจ็บปวด ตัดปัญหาในใจได้ง่าย ถึงแม้บางทีเธอจะดูซึมๆไปบ้างแต่มันก็น้อยลงทุกที ผ่านไปอาทิตย์นึงแล้วมั้ง ที่สร้อยยังคงเก็บอยู่ในลิ้นชักโต้ะผมที่บ้าน เก็บไว้พร้อมความทรงจำกับความพยายามของนัท ที่เขาทำเพื่อวาวา.......... จนผมดูว่าเธอหายดีแล้ว เหมือนเธอจะลืมนัทได้สนิท ผมเลยหาโอกาศตอนอยุ่สองคนยื่นสร้อยนั้นให้ เอ้านี้ชอบไหม ผมเอาสร้อยให้เธอดู ทำเอาวาวาตาโต โหเจมสวยอ่ะ ให้เราใช่ไหมอิอิ อือให้ เราอยากให้เธอเก็บไว้น่ะ ใส่บ่อยๆด้วยยิ่งดี วาวาตะลึง เห้ยเจมเราพูดเล่นไม่เอาหรอก สร้อยทองน่ะเจมจะให้เราจริงเหรอ วาวาพูดพลางยื่นสร้อยคืนให้ เอาไปเถอะวาวา มันอัดแน่นด้วยความรู้สึกของผู้ชายคนนึงเลยน่ะ วาวาหยิบสร้อยมาใส่ ว้ารู้งี้ขอตอนถือเส้นใหญ่กว่านี้ดีกว่า –“- อ่ะนะ ...... ผมได้แต่ยิ้มรับ ……………………………………….. วาวาดูมีความสุข สร้อยเส้นใหม่เธอชอบเดินใส่อวดไปมา ไม่ค่อยมีคนสังเกตหรอกครับ แต่ผมเห็น เห็นรอยยิ้มของวาวา และรอยยิ้มของนัท ที่แอบก้มหัวเล็กๆเป็นการขอบคุณผมทุกครั้งที่เดินผ่าน ผมยังไม่บอกความรู้สึกของนัทให้วาวาได้ฟัง ผมก็ไม่รู้ตัวซะด้วยสิว่าทำไม ผมแค่คิดว่าเป็นแบบนี้ เท่านี้ก็ดีแล้ว .................................................................. จนวันนึงวันที่ทุกอย่างสับสนไปหมด มินรู้ครับ รู้ว่าผมซื้อสร้อยให้วาวา ก็อย่างที่บอกความลับมันไม่มีในโลก มินหน้าบึ้งงอน ผมตามง้อก็ไม่คุย เออ ทีเราน่ะไม่เคยเลยอ่ะเจม ไหนบอกไม่สนแล้วไง เป็นคู่กิ้กกันเงียบๆใช่ไหมล่ะ....มินบอกงอแง เปล่ามินฟังเราก่อนสิ ผมพยายามอธิบาย ผมเล่าถึงที่มาจริงๆของทองเส้นนั้นให้มินฟัง ตั้งแต่เริ่มต้น ทุกคำพูดของนัท สิ่งที่เขาทำเพื่อวาวา และสิ่งที่เขาได้ขอร้องผมไว้ มินฟังแล้วมินก็เงียบ เธอพยักหน้าเข้าใจ ได้แต่บ่นอุบอิบว่าทำไมไม่บอกแต่แรก ผมก็โล่งใจครับที่ผมไม่ต้องโกรธกับมินอีก ผมกับมินพากันเดินกลับบ้าน โดยไม่รู้เลยครับว่า มีคนอีกคนได้ยินพวกผมคุยกัน จะใครซะอีกล่ะครับ “วาวา”นั่นเอง ............................................................................... วาวายืนนิ่ง...... ก้มลงมองสร้อยที่คอ เธอกำมันไว้แน่น ใจนึงก็อยากจะกระชากให้มันขาดไปจากคอ ให้มันจบๆไป เสียใจไม่อยากจะเข้าใจอีกแล้ว แต่อะไรไม่รู้สักอย่าง ที่ทำให้เธอทำมันไม่ได้ วาวากำสร้อยแน่น เดินแยกออกมาช้าๆ โดยที่ผมกับมินไม่ได้รู้ตัวเลย วาวาไม่ได้โกรธผม หรือนายนัทที่หลอกเธอ แต่โกรธตัวเอง ที่ยึดตัวเองเป็นหลัก สิ่งหลายๆอย่าง หลายๆครั้ง หลายๆปัญหา ส่วนใหญ่ก็มาจากเธอทั้งนั้น ผู้หญิงเอาแต่ใจคนนึง ที่ไม่เคยเข้าใจอะไร และทำร้ายคนที่ห่วงเธอเสมอ เธอเดินไปเรื่อยๆ เดินหานายนัท อยากพบอยากคุยกะเขา ครั้งนี้จะคุยดีกับเขาสักครั้ง อย่างน้อยก็คงไม่ปากเสียกับเขาแล้วล่ะ วาวาคิดในใจ...พร้อมรอยยิ้มที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้า.... แต่ยิ่งหาก็เหมือนยิ่งยากที่จะเจอ... ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มีนายนัทอยู่ วาวาก็ยังไม่ยอมแพ้ เอาเถอะมีอีกหลายที่ที่นัทน่าจะอยู่นะ วาวาบอกกับตัวเองเดินหา ผ่านที่หลายๆที่ ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับนัทอยู่ คนบ้า โง่ ไม่หล่อ ไม่มีอะไรดีคนนึง ที่เอาใจใส่เธอมากกว่าที่เธอคิด ยิ้มให้เธอเสมอ ถึงจะโดนด่า วาวาไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจนายนัท และไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ หาจนเหนื่อย เย็นแล้วก็ยังไม่เจอ วาวานั่งหอบที่โต้ะม้าหินในมหาลัย วันนี้โดดเรียนไปหลายวิชา แม่ขาหนูขอโทษ แต่ถึงเข้าไปหนูก็เรียนไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ วาวาบ่นพึมพัมบอกตัวเอง เอาตรงๆเธอไม่เคยโดดเรียนเลย เหมือนแปลกแต่จริง วาวาเคยบอกผมว่า หน้าที่มีต้องทำให้สมบูรณ์ จะคุยจะเล่นอะไรค่อยว่ากันอีกที เล่นเอาผมขยันตามเธอไปเลยครับ ^_^เอาจริงๆก็แค่โดดเรียนน้อยลงนั่นแหละ วาวากำลังจะสิ้นหวัง.... ก็เจอนายนัทเดินสวนออกมาจากเซเว่น..... ต่างคนต่างอึ้ง นัทมองวาวาที่คุ้นเคย ตาที่ออกอาการดีใจจนแทบหยุดเต้น แต่เมือ่ย้อนคิดในฐานะของตัวเองแล้วก็ได้แต่ หุบยิ้มแล้วเดินจากไป ..................................... วาวาเห็นนัทแล้ว อยากจะเรียกไว้ใจจะขาด แต่ด้วยมาดผู้หญิง ต้องหยิ่งล่ะมั้ง เลยได้แต่มองๆนัทกลับไป นี่ใจคอนายนัทเขาจะไม่ทักฉันเหมือนเคยแล้วเหรอเนี่ย แล้วยิ่งเง็งหนักเมื่อเห็นนายนัทเดินหันหลังให้ ระยะห่างกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้ว เธอยืนตัวแข็ง จะเรียกหรือไม่เรียกดี ............................................... นัทเดี้ยว วาวาพูดให้นัทได้ยิน ยังไงนายนัทก็เคยพยายามแล้ว มันก็คงจะดีถ้าเธอจะพยายามซ่ะบ้าง เสียงวาวาทำเอานายนัทสะดุดกึก หันมาทำตาโต ทำเหมือนกับไม่เชื่อว่าเธอจะเรียกเขาไว้จริงๆ ...ครับ... นัทตอบสั้นๆยังหวั่นๆ ว่าจะโดนด่าอะไรอีกหรือเปล่า สร้อยอันนี้ของนายเหรอ วาวาถามมือชี้ไปที่สร้อยคอที่ห้อยอยู่ ความแตกแล้วเหรอเนี่ย นัทคิดในใจ จะโกหกต่อไป หรือรับความจริงดี เขาจะทนเห็น วาวาถอดสร้อยคืนเขาได้เหรอ สายสัมพันธ์สุดท้ายระหว่างเขากับเธอ กำลังจะจบใช่ไหม นัทได้แต่ก้มหน้าตอบช้าๆไปอีกครั้ง ครับ ของผมเอง... เป็นการยอมรับที่ยากลำบาก จบแล้ว..ระหว่างเราแค่นี้ใช่ไหม เขาปิดตานิ่ง รอดูเพียงเขาจะโดนด่าอีกแค่ไหนกัน ขอบใจน่ะ ขอบใจที่ให้เราชอบมากเลย....วาวาขอบคุณนัท เล่นเอานัทแทบไม่เชื่อหู เอาจริงสิ วาวาชอบเหรอ นัทถามกระตือรือร้น อือ ชอบสิ แต่ก็ย้ำอีกทีน่ะว่าชอบสร้อยไม่ได้ชอบนาย.... โถ่แค่นั้นก็ดีแล้วล่ะครับ....ก็แค่นี้แหละที่ผมต้องการ เสียงนายนัทเปลี่ยนเป็นเศร้าๆ แต่ขอโทษน่ะ ที่เราหลอกเธอ อย่าโกรธเจมนะที่โกหกเธอ เราขอร้องเขาเองแหละ หากมีสักคนที่วาวาจะเกลียดล่ะก็ ขอเป็นเราน่ะ เพราะมันก็ทำให้เธอไม่ได้ลืมเรา.... ก็เกลียดอยู่แล้ว ไม่ต้องขอร้องหรอก แต่เราก็ขอโทษน่ะ ที่วันนั้นด่าเธอไปอย่างนั้น.... เสียใจมากไหม.... ............................................... .................................... .......................... ถ้าจะบอกว่าไม่เสียใจก็โกหกล่ะครับ...นายนัทตอบ เอาตรงๆตอนนั้นแทบตายร้องไห้ทุกคืน กินข้าวไม่ลงเลยวันเลยล่ะครับ แต่ก็ดีประหยัดตังผมยิ่งจนๆอยู่...นัทหัวเราะกลบเกลื่อน ....................................... เราเคยบอกน่ะนัทว่าเราเกลียดนาย เกลียดนายมากด้วย นายตื้อเกินไปรู้ไหม ผู้หญิงเขาจะรำคาญเอาได้น่ะ.... แต่ช่างเหอะ ก็คงเพระนายตื้อล่ะม้ง วันนี้เราเลยไม่ได้เกลียดนายเหมือนอย่างเคยแล้ววาวาบอก .............................................. จริงดิ วาวาไม่เกลียดเราแล้วใช่ไหม นัทยืดอก มองตาวาวา งั้นก็หมายความว่าเราสองคนเป็น... เป็น... หยุดเลย หยุดเลย พูดดีหน่อยทำได้ใจ ไม่ได้เกลียดน่ะ แล้วก็ไม่ได้ไม่ชอบ แต่นัทเรา เราว่า...น่ะ เราเป็นเพื่อนกันเถอะน่ะ วาวาบอก เล่นเอานัทอึ้ง แต่ไม่ยักซึมเหมือนคนอื่นๆ เขายิ้มเจื่อนๆ เพื่อนมีเยอะแล้วครับ.... งั้นเป็นพี่เป็นน้องกันเถอะน่ะ.... วาวาบอกอีกที เป็นพี่น้อง งั้นก็ต้องให้พี่จูงมือเดินไปไหนต่อไหนได้ใช่ไหมครับ เราไม่ดีพอหรอกนัท.... ถ้าวาวาดีไม่พอ ผมคงขึ้นคานแน่เลยครับ เพราะคงหาใครดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว นายดีเกินไปนัท..... งั้นก็พอดีเลยครับ ผมยอมลดตัวมาคบกับวาวาก็ได้น่ะครับ ผมไม่ได้รังเกียจหรอก นัท................ วาวาเสียงแข็ง-_-+ ครับ ครับ ผมรู้ตัวเองดีครับ เสียงอ่อยๆลง เพื่อนก็พอแล้วครับสำหรับผม แค่วาวายิ้มให้ผมบ้าง แค่นี้ก็พอแล้วครับ..... วาวาน่ารักมากน่ะครับสำหรับผม น่ารักมากแล้วผมก็รักมากด้วย... เล่นเอาวาวาอึ้งเผลอยิ้มออกมา บ้าจริงๆนายนี่ เพิ่งรู้ว่าวาวาก็เขินเป็น วาวาขำ ยิ้มครั้งแรกที่นายนัทได้จากวาวา ไม่ใช่ยิ้มเพราะเห็นใจรือยิ้มเพราะมุขเสี่ยวๆของเขา แต่เป็นยิ้มให้เขาจริงๆ นัทเดินคุยไปกับวาวาเงียบๆในวันนั้น คำว่า"เพื่อน" ผมไม่รู้ว่าจะพอสำหรับนายนัทหรือเปล่า มันอาจเจ็บปวดใจสักวันก็ได้ถ้าวาวาจะมีใคร แต่สำหรับนัทตอนนี้ การที่ได้อยู่ใกล้ๆ ดูแล ได้พยายามเพื่อวาวาแล้ว แค่นี้ก็พอแล้วล่ะมั้งสำหรับเขา ............................................. เพื่อนคนที่เขารักที่สุด ............................................ ได้แค่นี้ก็ยังดีว่ะ นายนัทบอกผมเมื่อมีโอกาสได้อยู่กันสองคน แต่ได้ข่าวว่าวันนี้นายนัทก็ชวน วาวาออกไปเที่ยวอีกแล้ว เที่ยวแบบประหยัดๆ ที่ไม่ต้องมีตัง มีแต่รอยยิ้มให้กัน เท่านี้ก็ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ใคร .........มีเราก็พอแล้ว......... .... ... .. . จบแล้วฮะภาค 7 อิอิ