หุหุหุหุ มาเริ่มภาค 11 กานดีก่านะ
.
..
...
....
สรุปเจมจะมาหาออยใช่ไหมค่ะ ? ............... 
ข้อความบรรทัดนึงขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ 
ผมก็เลยตามน้ำครับตามน้ำ เอาก็เอาว่ะ 
ครับ.............. ผมพิมตอบ 
อย่าพึ่งคิดว่าผมมีชู้หรืออ่ะไรน่ะครับ ก็แค่ลองหาเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตดู...... 
ก็วันนี้มันว่างอ่ะครับ เพื่อนชวนมาตรอกข้าวสาร..... 
แต่ไม่รู้ความซวยอะไรมาเยือน แม่เพื่อนกลับตกบันได.... 
ทำให้มันมาไม่ได้ 
ส่วนผมนั่นเหรอครับ ออกมารอตั้งแต่3ทุ่มแล้ว 
จะให้มันออกมาก็คงไม่ได้ แม่ทั้งคนก็เลยต้องยอมๆมันไป............... 
เอาไงดีล่ะ ทีนี้ผมถามตัวเอง 
จะกลับบ้านก็ยังเซ็งครับ จะโทรชวนใครออกมาก็หมดอารมณ์แล้ว 
กำลังเดินไปที่จอดรถตาก็เห็นร้านอินเตอร์เน็ตเข้าพอดี........... 
ยิ้มออก...............รู้แล้วว่าจะทำไร.... 
เข้าร้านเน็ต ตะโกนบอกเจ้เจ้าของร้าน................ 
แต่สมชื่อร้านเน็ตจริงๆครับ เล่นเน็ตได้อย่างเดียว ไม่มีเกมเลย 
ก็เลยนั่งเปิดเว็ปคลิกๆไปเรื่อยๆ................... 
สักพักเจ้าของร้านก็เดินมาชวนคุยครับ ไม่รู้เพราะหน้าที่ หรือกลัวคอมเขาพังก็ไม่รู้ 
ไม่กลัวได้ไงอ่ะครับ ก็ผมเล่นเคาะเมาส์เล่นเป็นจังหวะเพลงเลย หุ หุ 
............................................................... 
สรุปไปๆมาๆเจ้าของร้ายก็แนะนำโปรแกรมพูดคุยผ่านเน็ตรุ่นเดอะให้ผมครับ 
Prich .............คงจะเคยได้ยินกันบ้างใช่ไหมครับ 
หลังจากพยายามเข้าอยู่นาน(มันเข้าไงว่ะ อ้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) 
ก็คลิกมั่วเป็นผลสำเร็จ ด้วยผลบุญที่พยายามคุยๆไปในที่สุดก็มีคนตอบมาจนได้ครับ 
“.....สวัสดีค่ะ.....” 
เชื่อไหมครับ ทักไป10คนมีตอบมาคนเดียว ก็เลยเริ่มคุยกับเธอคนนั้น.........(อุตสาหหลงมาทั้งที) 
เพิ่งรู้ครับเพิ่งรู้ว่าการเล่นคอมมันสนุกงี้เอง.............. 
มีเรื่องหลายๆเรื่องที่เราไม่รู้ 
คุยกับคนที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก................. 
มันทำให้เราสามารถระบายอะไรกับเขาได้ทุกเรื่อง.................. 
ออยเป็นผู้หญิงนิสัยดีคนนึงเลยครับผมยืนยัน...................... 
จากการพูดคุยกับเธอ................บ่งบอกนิสัยได้เลยครับว่าเธอเป็นคนที่แคร์คนอื่นขนาดไหน.... 
ร่าเริง น่ารัก ฉลาดนิดๆ 
แล้วเธอก็ตอบผมเร็วมากๆ 
เหมือนว่าเธอก็คุยกับผมคนเดียวเหมือนกัน.................. 
เราคุยกันหลายๆเรื่องครับ ยกเว้นเรื่องแฟนเพียงอย่างเดียวล่ะมั้งครับ 
จากการพูดคุยกว่า3ชั่วโมง(ทำไปได้) 
ผมก็คิดว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักคนนึง 
กำลังเพลินเลยครับ 
นายเจ้าของร้าน(อีกแล้ว)(สังเกตว่าจะมีคำว่านายนำหน้า) 
มาสะกิดที่หลัง 
ร้านปิดแล้วครับ.................... 
เซงเลยครับเซงเลย ได้แต่จำใจบอกลาน้องออย................. 
คิดว่าคงไม่ได้คุยกันอีก........................ 
จะให้ขอเบอร์ตั้งแต่คุยครั้งแรกคงไม่มีทางใช่ไหมล่ะครับ............. 
แต่ตอนกำลังจะออกโปรแกรมเพียงเสี้ยววินาที.................. 
หน้าจอก็เด้งขึ้น............... 
06-333-3333 เบอร์ออยนะค่ะเจมโทรมาล่ะ 0_o 
นึกขำสาวรุ่นใหม่แจกเบอร์งี้เลยเหรอ แต่ก็ดีครับไม่ยุ่งยากดี............... 
ก้มหน้าก้มตาจดเบอร์ก่อนยื่นเงินให้เจ้าของร้าน............. 
ออกมานอกร้านก็หยิบโทรศัพท์ออกมาลองโทรดู 
ไม่หวังอะไรมากจริงๆครับ คิดไปแล้วว่าเป็นเบอร์ปลอมสัก90เปอรเซน.... 
ดูนาฟิกาเที่ยงคืนกว่าๆแล้ว 
ยังงงเลยว่า ผมมาทำอะไรที่นี่เนี่ย-_-“ 
โทรศัพท์ดังไม่ถึงสองทีก็มีคนรับ......... 
ค่ะ...................... 
เสียงหวาน แต่ดูจะอ้อแอ้เพราะง่วงนอนเต็มทน.............. 
ออย หรือเปล่าครับ ผมถามไปตามสาย ขาก็พาตัวเองเดินไปที่รถ.... 
ค่ะ................... เธอตอบ 
สร้างความแปลกใจให้กับผมอย่างมาก................ 
เอาก็เอาว่ะ ผมคิด คบเพื่อนใหม่ 
คุยกะออยไปเรื่อยๆ เธอเป็นผู้หญิงคุยสนุกร่าเริง............. 
เราพูดกันนาน นานมากจนออยถามผมขึ้น............ 
พรุ่งนี้เจมว่างไหม? 
เอาแล้วไม่ล่ะผม ออยถามทำไมเนี่ย..................... 
ผู้หญิงเดีย้วนี้ไวครับ แบบว่า “มรึ้งไม่จีบกรู กรูจีบมรึงเองก็ได้” 
ก็ว่างครับ อ้ำอึ้งตอบ หวั่นๆกลัวออยเป็นขบวนการฆ่าชิงไตขึ้นมาผมซวยตายเลย.... 
ว่างเหรอค่ะ รู้จักเดอะมอบางกะปิไหมค่ะ.........เสียงออยเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที 
อืม................เอ่อ.........ทำไมเหรอครับออย มีไรหรือเปล่า 
ค่ะ เจมไปดูหนังกะออยไหมค่ะ เรื่ององค์บาก........... 
กรรม.....................................เกิดมาไม่เคยเจออะไรรวดเร็วขนาดนี้ 
นี่ยายออยเป็นฝ่ายเล่นเกมรุกเลยใช่ไหมเนี่ย 
หลังจากคิดอยู่นาน..............ห้างใช่ป่ะ 
กลางวันด้วย ผมก็ผู้ชาย..............พวกเพื่อนแถวนั้นก็พอเรียกๆได้ 
ก็เลยตอบออยไปว่าครับๆ.........กี่โมงล่ะ.......... 
10โมงพรุ่งนี้นะหน้าเดอะมอ.............. 
ครับ................นึกในใจ ตอนนี้เกือบตี2 เพิ่งถึงบ้าน อาบน้ำ ทำงาน กว่าจะได้นอน 
เอาเหอะครับเอาเหอะ...................10ก็10ไม่อยากขัดศรัทธาเจ้เขา 
แต่ได้นอนหรือเปล่าไม่แน่ครับ 5ชั่วโมงก็ยังดีTT” 
หลังจากล่ำลากันเรียบร้อย................. 
ทำธุระทุกอย่างจนเสร็จ............ 
ก็โถมตัวลงนอน พรุ่งนี้จะเป็นยังไงพักไว้ก่อนครับ ขอหลับให้หายง่วงก่อนตอนนี้ไม่ไหวแล้ว 
................................................................... 
...................................................... 
10โมง ณ สะพานลอยตรงเดอะมอลบางกะปิ.......... 
ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าจะมาดีหรือเปล่า 
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจมาครับ................ 
10โมงตรงเป้ะ หยิบโทรศัพท์โทรหาออย............. 
มายังครับ............ผมถาม ไม่อยากซักมากเดี้ยวจะเป็นการไปเร่งเขามันไม่ดี 
อ้อ ถึงแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้ถีงป้ายรถเมล์เดอะมอล์พอดีเลย...........ออยตอบมา 
ผมก็เอาแหละครับ ได้โอกาสแอบดูหน้าก่อน............ 
เลยยืนจับที่กั้นสะพานจากด้านบน ตาก็พยายามมองหาออยจากฝูงชน 
ออยใส่เสื้อสีไรครับ วันนี้อยากรู้จังครับ ผมหลอกถาม 
สีชมพูค่ะ เจมล่ะค่ะ.................. 
.......................................... 
............................... 
แต่ผมไม่ได้ตอบครับ ผมมัวแต่ตะลึง............. 
ไม่ตะลึงได้ไงล่ะครับ ก็ผมเห็นออยแล้วน่ะสิ 
ปีศาจ ซาตาน มาร ผีร้าย เลยครับนิยามที่ผมจะให้กับเธอ 
แมร่ง ฮิลโปๆหลุดมาจากโลกไหน........... 
ไม่ฮิลโปป่าวด้วยครับ ยังใส่สายเดี่ยวที่มันล้าสมัยโคตรๆไปแล้ว 
ใส่อะไรไม่เข้ากับหุ่นเลย แถมสายเดี่ยวของเธอยังสีชมพูสวยงามสดใสด้วยครับ 
-“- อนิจจา อนาถ ตัวเอง นี่ผมหลงผิดคิดว่าออยน่ารักได้ไงเนี่ย 
ออย................................ เจมยังไม่เห็นออยเลย ไหนออยเดินมาข้างหน้าสักก้าวได้ไหมครับ 
ผมเช็ค อีกทีกลัวเธอโบ้ยเป็นคนอื่นลองใจผม 
แต่ชัดเลยครับชัดเลย.................... 
“สิ่งมีชิวิตตนนั้นก้าวเท้าออกมาข้างหน้า” 
เป็นที่สะดุดตาผู้คนยิ่งนัก.............................. 
ก้อนกลมๆสีชมพูตรงป้ายรถเมล์ 
โอ้ไม่>_<” กอตซิล่าบุกประเทศไทยแล้ว 
ออย..................พ่อเจมโทรมาอ่ะ เจมคงไปไม่ได้แล้ว......... 
ผมรีบอ้าง เรื่องไรจะยอมไปตายในสถาณะการณ์อันเลวร้ายนั้น............... 
แต่เหมือนออยมีสัญชาติญาณ............. 
เธอหัวควับ ด้วยความเร็วสูงไปรอบๆทันที 
ดีผมกระโดด ถอยหลังออกมาก่อนเธอจะมองเห็นอะไร............ 
หยิบแฮนฟรีออกมาจากกระเป๋า เสียบคุยต่อ 
ถึงออยจะเลวร้ายยังไง ผมก็ไม่อยากให้เขาเสียใจเพราะผม.... 
เรากลับน่ะ ติดธุระจริงๆ.......................ผมบอก 
............................................................. 
ออยเงียบ พร้อมกับเสียงเศร้าๆที่ดังมาตามสาย 
เจม................................ออยก็รู้ดีว่าออยเป็นยังไง 
ออยก็แค่อยากเห็นเจมบ้าง ถ้ามันไม่ลำบากเกินไป ได้ไหมค่ะ แค่เห็นออยจะกลับเลย 
ยืนอึ้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!! 
เขาก็ผู้หญิง เขาก็คนมีจิตใจ เขาไม่ได้เลือกเกิดมาเป็นแบบนี้ซะหน่อย... 
เสียใจขึ้นมาทันที.......................สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำ 
เลยเดินลงมาจากสะพานลอยเดินตรงไปหาออย................. 
เหมือนผมจะตัดสินใจผิดครั้งใหญ่ 
ทันทีที่ออยสบตาผม 
สายตาเปลี่ยนจากซื่อๆ เป็นลุกโพลงทันที 
เหมือนสายตาของ!ป่า 
เจม เจมแน่เหรอ ออยถามเสียงดังจนคนทั้งป้ายรถเมล์หันมามอง................ 
ใช่ครับ ผมตอบยืนเกาหัว เก็บมือถือ 
ภาพด้านนอกตอนนี้อาจยิ้มครับ แต่ด้านในตายด้านไปแล้วT_T 
ทำไมมันต้องถามซะดังด้วย ว้า เนี่ย........... 
ก่อนที่ผมจะทันทำอะไร ออยก็บุกเข้าประชิดตัวด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ 
ไปค่ะไปกัน ออยหันมาชวนผม 
เสียงดังเหมือนเดิม ท่าทางของเธอเหมือนจะถูกใจผมมาก-“- 
T”T ง่าไหนบอกเจอแล้วจะกลับไง............................ 
ผมคิดในใจนะครับ ไม่อยากจะพูดกลัวว่าออยจะเสียใจไปเสียเปล่าๆ 
เอาก็เอาวะT_T 
ฝืนถามออยไปครับ หิวไหมออย? 
หิว หิวสิค่ะ เนี่ย10โมงกว่าแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย 
เหรอ งั้นอยากกินอ่ะไรล่ะ ผมถามนึกในใจ 10โมงผมยังเฉยๆอยู่เลย................... 
อ้อ ช่วงนี้ออยกำลังไดเอ็ท กินพิซซ่าแล้วกันน่ะค่ะ ออยบอกผม 
นี่ขนาดเธอไดเอ็ดนะเนี่ย ถ้าเธอไม่ได้ไดเอ็ท ผมว่าคงกินช้างได้ทั้งเชือกแน่ๆ............. 
ก็ดีครับกินพิซ่า ผมล่ะกลัวออยจะกินผมจะตายแล้วเนี่ย
แม่จ้าหนูกลัว หนูอยากกลับบ้านT_T
เอาก็เอาวะ ลูกผู้ชายไทย จำใจแบกหน้าที่ชาจนเป็นเหน็บเดินไปกับออย 
ไม่รู้เพราะออยสวยเกินไปหรือเปล่าครับ คนมองกันทั้งห้างเลย 
ผมพยายามภาวนาในใจให้เขาคิดว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่มาจับ!ใจจะขาด..... 
แต่แม่เจ้า ดูเหมือนคนทั้งห้างจะไม่คิดหยั่งงั้นครับ 
ออยเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ 
ส่วนผมก็เชิดหน้าครับ เชิดหน้าไม่ให้น้ำตามันไหลT_T 
ตอนเช้าก่อนที่จะออกมา ตุ้กแกที่บ้านมันทักใส่(พ่อจิ้งจก)......ดัง ต้อกแก ต้อกแก 
ผมก็นึกว่าอืมไม่เป็นไรไม่ใช่จิ้งจก.......... 
ผมก็เพิ่งรู้เนี่ยว่าตุ้กแกมันพยายามจะบอกผม 
ว่า ตายแน่แก ตายแน่แก.................. 
และแล้วก็ถึงร้านพิซซ่าครับ ระยะทางไม่ได้ไกลเท่าไหร่ในเวลาปรกติ 
แต่สำหรับผมที่เดินมากับออยแล้ว มันยาวไกลกว่า กรุงเทพ-ชลบุรีอีกนะครับ 
กะว่าหมดเรื่องซะทีแล้วครับ กะไปนั่งหลบมุมในร้านพิซซ่า 
แต่เหมือนเจ้ากรรมนายเวร.......................จองเวงอาฆาต 
เพื่อนผมมันมาทำงานพิเศษครับ 
มันเห็นผมแล้วครับ................... 
ผมก็เห็นมันแล้ว..................... 
แล้วก็อย่างที่คิดๆกันนั่นแหละครับ นายเพื่อนเวรของผมก็เห็นออยเหมือนกัน 
โอ้ไม่............................................................ 
ผมตะโกนลั่นในใจ มันยิ้มให้ผมเหมือนเข้าใจ 
แต่ขาผมนี่สิครับหนักอึ้ง ก้าวไม่ออก พูดก็ไม่ได้ครับ 
เพื่อนผมก้มหน้ายกมือไหว้ สวัสดี ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้มันครับ................ 
พยายามมองมัน สื่อความหมายให้มันเข้าใจว่า อย่าบอกใครนะมรึง 
เพื่อนผมยิ้มให้ครับ รู้ใจสมกับที่คบกันมานาน 
มันสะกิดผมพูดเบาๆข้างๆหู 
พรุ่งนี้ มรึงดังไปทั่วมหาลัยแน่ เตรียมแจ้งเกิดรอบสองได้เลย.....................เอิ้กๆ มันหัวเราะแบบชั่วร้ายมาก 
ถ้าไม่ติดว่าผมจิตแข็งแล้วล่ะก็ 
วิญญาณคงออกจากร่างไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับT”T 
ผมทำบาปอะไรมาเนี่ย ผมถึงต้องมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วย 
เพื่อนผมพาผมไปนั่งที่โต้ะครับ 
แล้วด้วยความรักเพื่อนของมัน มันให้ผมนั่งกลางร้านเลยครับเด่นโคตรๆ............ 
ปากก็อยากขอย้ายที่ครับ แต่สภาพจิตใจตอนนั้นแบบว่าไม่ไหวแล้ว 
นึกถึงอนาคตแล้วแทบปี่................. 
ยิ่งหันไปมองหน้าออยแล้ว อยากเอาส้อมจิ้มคอตาย ซะรู้แล้วรู้รอด 
เจมเป้นไรค่ะไม่ร่าเริงเลย ออยถาม 
ไม่เป็นไรครับ ผมตอบถ้าผมบอกความจริงไปว่า เป็นเพราะมรึงนั่นแหละ จะโหดร้ายไปไหมครับ 
อืมค่ะ ถ้าออยพอจะทำอะไรให้เจมสบายใจได้ก็บอกนะค่ะ ออยจะทำให้ ออยพูดพลางยิ้มแสนสยดสยองมาให้ 
งั้นออยช่วย............. ออกไปจากชิวิตเราทีดิ หรือปล่อยเรากลับบ้านก็ได้ นึกในใจครับนึกในใจ 
ก็อยากจะพูดเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าครับ.................... 
จะรับอะไรดีครับ นายเพื่อนเวรเดินมาจดออเดอร์เสร็จสรรพ 
ยิ้มมาทางผม.....................แบบโคตรๆเยาะเลยครับT_T 
ผมได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม 
เอาเลยเว้ย เอาเลย ไม่หยิบกล้องมาถ่ายเป็นรูปประกอบด้วยเลยล่ะเวงนีj 
เอาอ่ะไรค่ะเจม ออยถามผม 
ผมส่ายหน้า ทำท่าแบบออยสั่งเหอะ จะสั่งอะไรมาก็ไม่เกี่ยวกับผมแล้วครับ 
ผมกินอะไรไม่ลงแล้วT_T 
งั้นออยสั่งเลยนะค่ะ ออยบอกผม 
ผมได้แต่หัวไปอีกทาง ทำมือแบบว่า อยากสั่งอะไรก็สั่งมาเหอะ 
เอาพิซว่า ถาดใหญ่ ฮ็อตวิง โค้กเคอฟิว2 ออเนี่ยนริง ขนมปังกะเทียม เฟนไฟด์ แล้วก็เอาลาซ่อนย่ามาที่นึงค่ะ 
ออยสั่งอาหารด้วยความคล่องแคล่ว.................. 
แต่เล่นทำผมหันมาตกใจแทบไม่ทัน............. 
มองหน้าออย.................อยากจะถามใจจะขาด 
นี่น้องกิน หรือ ยัด เนี่ย.................... 
สั่งมาเยอะขนาดนี้กินหมดเหรอครับ ผมถาม................ 
เดี้ยวรู้ค่ะ ออยพูดยักคิ้วอีกตั่งหาก เธอคงลืมคำพูดของตัวเธอเองไปแล้วมั้งครับ 
ที่ว่าเธอไดเอ็ทน่ะ...................................... 
เพื่อนผมก้มหน้ารับออเดอร์ เดินเอากระดาษที่จดรายการอาหารไปส่งที่เคาเตอร์ 
ด้วยเหตุอันไดไม่ทราบครับ เล่นเอาพ่อครัวถึงกับชะเง้อหน้าออกมามองพวกผม 
-“- 
กว่า15นาทีที่นั่งกดดันตัวเอง 
ก็อาหารยังไม่มานี่ครับเลยไม่มีอะไรทำ............... 
ออยเลยทำท่าน่ารักหวานซึ้ง........................... 
มองผม หน้าเธอเหมือนจะชวนผมซึ้งตอบ 
แต่ฝันไปเถอะครับ ตอนนี้ผมทอดสายตามองถังขยะที่มุมห้องเรียบร้อยแล้วครับ 
เพราะผมคิดว่า ก็คงสบายตากว่ามองออยเป็นไหนๆ.... 
เจมพูดน้อยน่ะค่ะ................ ออยเริ่มชวนผมคุย 
แต่ละคำของเธอแสดงความมั่นใจมากเลยครับ เพราะมันดังเหลือเกิน 
ดังพอที่จะได้ยินจนทั่วทั้งร้าน 
จะไม่ให้ผมพูดน้อยได้ไงล่ะครับ ก็คนมองกันเกือบทั้งร้านพิซซ่า 
บางคนมองแบบว่า ออยใช้น้ำมันพรายยี่ห้อไหน ถึงคลังขนาดพาผมมานั่งด้วยได้แบบนี้................. 
ผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา 
พยายามทำตัวให้เด่นน้อยที่สุด 
แต่ดูเหมือนออยจะไม่ให้ความร่วมมือเลย.................T_Tแหกปากอยู่ได้ 
อาหารมาแล้วครับ พิซซ่าก็น่ากินดี 
แต่ปริมาณที่สั่งมานี่สิครับ คนปรกติเขากินกันได้4-6คนสบายๆ..... 
แต่ก็ทำใจแล้วครับ นึกดูดีๆออยมันไม่ใช่คน 
นี่ค่ะเจม ออยเอามีดตักพิซซ่าชิ้นนึงมาใส่ให้ในจานของผม 
ก็ดีครับ ผมจัดแจงหยิบพริกไทย ชิส พริก ซอสมะเขือเทศ ละเลงลงในพิซซ่า 
แต่เชื่อไหมครับ ช่วงเวลาแค่ผมปรุงพิซซ่าชิ้นเดียว 
หันไปอีกที พิซซ่าหายไปสองชิ้นเรียบร้อยแล้ว 
มันหายไปพร้อมกับซอสที่ติดอยู่ข้างปากของออย 
แม่เจ้า เธอกลืนเลยมั้งครับ ไม่ได้เคี้ยวแล้ว 
ถ้านึกภาพไม่ออกก็นึกถึงตอนช้างมันกินอ้อยอ่ะครับ.................. 
อย่างนั้นเลย...................... 
แล้วออยก็หยิบไก่ขึ้นมาครับ ฮ้อตวิงนั่นแหละ 
เอาเข้าปาก นับ หนึ่ง สอง สาม 
ออยก็ดึงออกมา................. 
0_oเหลือแต่กระดูกเลยครับ 
ไดโว่ เครื่องเลาะเนื้อ เอเลี่ยน หรืออะไรดีที่ผมจะใช้แทนตัวเธอ..................... 
น้ำลายเธอมีคุณสมบัติเป็นกรดรุนแรง 
ถ้าหยดลงโต้ะ โต้ะอาจกร่อนเป็นรูได้ครับ 
.................................................. 
อย่าหาว่าผมเสียมรรยาทเลยครับที่แอบดูออยกิน 
เป็นอะไรที่ระทึกกว่า ดีสคอเวอรี่ ชาแนลเสียอีก....................... 
แล้วก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมมองอยู่ 
ตอนนี้เธอสนใจแต่อาหารที่อยู่ตรงหน้า.................... 
มือขวาจับพิซซ่า มือขวาเฟนไฟด์ ปากก็ดูดโค้ก ส่วนตาหรือครับก็จ้องไปที่ไก่เขม็ง.... 
ผมคงไม่กล้าหยิบอะไรมากินหรอกครับ ผมกลัวออยกัด 
แล้วอีกสาเหตุที่ผมกินไม่ลง ก็ตรงซอกคอเธอนะสิครับ เธอใส่สร้อยทองเส้นเล็กๆตรงนั้น 
แต่ทองไม่เด่นเลยครับ ก็คอเธอเล่นดำจับเป็นก้อน 
ยิ่งผสมกับเหงื่อของเธอที่ออกมาแล้วล่ะก็ ของเก่าผมไม่สำรอกออกมาก็บุญท่วมหัวแล้วครับ................. 
พิซซ่าลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วมาก............ 
จาก8เหลือ6 จาก6เหลือ4 จาก4เหลือสอง จากสองเหลือชิ้นเดียว 
ชิ้นสุดท้ายแล้วออยเงยหน้ามามองผม 
เจมอิ่มหรือยังค่ะเธอถาม 
-_-|||| 
อิ่มแล้วครับ ผมตอบยิ้มๆ ส่วนในใจอยากจะตะโกนใส่หน้ามันเลยครับว่าเพิ่งอิ่มเหรอ...... 
หรือต่อม รับรู้ความเกรงใจเพิ่งกระเตื้องก็ไม่ทราบ.... 
อิ่มแล้วเหรอค่ะ งั้นชิ้นสุดท้ายออยกินน่ะ.....................ออยพูดพร้อมกับมีดที่เสียบพิซว่าเอาเข้าปาก 
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 
ท้องเธอทำมาจากอะไรครับ แบลคโฮลเหรอ... 
กินล้างกินพลาญขนาดนี้ ผมไม่เรียกว่าคนแล้วครับ.................. 
ถ้าผมเป็นพ่อออยนะครับ เห็นหน้าลูกสาวแรกเกิดผมก็เอาขี้เถ้ายัดปากไปเรียบร้อยแล้วครับ 
เมิงตาย เมิงตาย ผมคิดในใจพร้อมกับทำท่าบีบคอ............. 
พิซว่าชิ้นสุดท้ายร่วงผ่านลำคอของฮิบโปอเมซอนตัวนี้ไปเรียบร้อยแล้วครับ.............. 
.......................................................... 
เอิ้ก............................. ออยเรอดังลั่นทั้งยาวทั้งดังเล่นเอาคนทั้งร้านหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน 
อายแทบมุดลงใต้โต้ะ.......................... 
ถ้าตรงนี้มีหลุมล่ะก็ผมจะไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปเลย 
ออยเอามือปิดปากเอนอาย..................... 
ขอโทษค่ะ ออยบอกผมที่นั่งหน้าชาตายด้านไปเรียบร้อยแล้ว 
ในใจผมจับออยถ่วงทะเลไปแล้วครับ แต่ด้วยมาดพระเอกที่แสนดีเลยได้แต่นั่งยิ้ม 
ครับ.................ไม่เป็นไร...T_T(ตอบไปทีเสียงเหมือนจะร้องไห้) 
ไปกันเถอะ ผมเดินหยิบบิลทำทีจะไปจ่ายค่าอาหาร 
อยู่ให้โง่เหรอครับ แค่นี้ก็เด่นพอที่จะเป็นข่าวภาคค่ำได้แล้ว..... 
ตามประสบการณ์ของผมเวลาจ่ายตัง.............. 
สาวเจ้าทุกคนที่มาด้วยจะเกรงใจครับ 
ต้องทำท่าจะช่วยออกครึ่งหนึ่งเป็นประจำ 
บางคนรวยหน่อยขอเลี้ยงเองด้วยซ้ำ 
แต่ผมก็ไม่เคยให้ใครเลี้ยงน่ะครับ 
ผมก็ออกให้เองทุกที แต่มันก็รู้สึกดีน่ะครับ................... 
ผมจะรู้สึกเหมือนพวกเธอแฟร์ดี นิสัยดีคบได้...... 
แต่กรณีของออยเหรอครับ 
นอกจากกินล้างพลาญแล้ว เธอยังนิ่งครับ 
เธอเดินตามมาเงียบๆไม่พูดไม่จา 
นิ่งไปชั่วขณะ......................................................... 
ทั้งๆที่ผมได้กินพิซซ่าแค่ชิ้นเดียว................ 
กับน้ำแก้วเดียวจริงๆ......................................................... 
488- หลุดไปจากกระเป๋า มันก็ไม่ได้มากมายเท่าความรู้สึกของผมที่เสียไปหรอกครับ 
เหมือนเสียตังไปในเรื่องที่ไม่น่าเสีย..................... 
คนอื่นผมอยากจะเลี้ยงกลับไม่ได้เลี้ยง ส่วนคนที่ผมไม่อยากเลี้ยงกลับซวยต้องมาเสียตังให้มันจนได้ 
เจมๆ..........................ออยเรียกผมครับ 
อืม............ว่าไง ผมหันไปพูดเรียบๆเก็บอารมณ์ที่แท้จริงไว้ข้างใน.. 
ต่ะกี้เท่าไหร่เหรอค่ะเจมค่าพิซซ่า ออยถามผม 
โอ้...............................ผมมองออยผิดไป 
ออยกะแชร์ตั่งแต่ต้นแล้วใช่ไหมครับเนี่ย แค่ไม่อยากหยิบให้ผมในร้านใช่ไหมมันน่าเกลียด 
นี่แหละครับที่เขาว่าอย่าดูคนจากภายนอก...... 
ใจเธอไม่ดำเหมือนตัวเธอหรอกครับ 
488- บาทครับผมรีบตอบไปอารมณ์ดี 
ในใจก็ลุ้นว่าออยจะช่วยค่าอาหารเท่าไรห่ 
อืม แพงเนอะออยตอบ-“- 
แล้วออยก็เดินนำผมไปเลยครับ....................... 
โห โห โห........................................................... 
เพื่ออะไรเนี่ย จะถามผมเพื่ออะไร ตะกี้ผมหลงผิดไปชั่ววูบใช่ไหมที่เผลอคิดว่าออยเป็นคนดี(อาจจะหลายวูบ) 
บทสรุปก็เลยยืนยันได้เลยครับ ว่านอกจากอีนี่จะ 
รูปชั่วแล้ว นิสัยยังชั่วไม่แตกต่างเลยครับ-_-+ 
หาทางชิ่งกลับบ้าน(อยู่ก็โง่ดิ) 
เลยรับเดินไปที่ร้านหนังสือ 
แต่ออยไม่ยอมปล่อยง่ายๆ พาร่างขนาดสองเมกะตันของเธอเกาะตามมาอย่างรวดเร็ว 
ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหมอ่ะ กะหันไปพูดงี้แล้วครับ 
แต่เผอิญพ่อแม่สั่งสอนมาดี ไม่เหมือนกับคนแถวนี้เลยจำใจหันไปพูดดีๆกับใครบางคนอีกครั้ง 
ไปร้านหนังสือน่ะครับ 
ตรงนู้น.............................. 
โห ดูหนังสือหนังสืออ่ะไรค่ะ ออยถามผม 
อ่อก็หนังสือทั่วๆไปอะครับผมอ่านหลายๆประเภท มันได้ความรู้แล้วก็ไอเดียใหม่ๆเยอะดี 
คนเราต้องเปิดกว้าง จะได้มีโลกทัดศใหม่ๆไงครับ ผมตอบ 
ออยมองหน้าผม................................ 
เจมฉลาดจังเลยค่ะ เก่งด้วย ออยชม 
ผมยิ้มตอบครับ ส่วนในใจเหรอครับนึกด่าออยในใจเรียบร้อย 
ใครจะโง่แบบเมิง เอิ้กๆ ผมร้ายเกินไปหรือเปล่าเนี่ย.................. 
เดินนำออยไปร้านหนังสือ มีออยเดินตาม พยายามนึกว่าเราเป็นคณะละครสัต..ว์ พากอลิล่ายักษ์มาเดินเล่น 
พอคิดหยั่งงี้สบายใจขึ้นเยอะเลยครับ 
ไปถึงร้านก็ไปดูที่มุมหนังสือแนะนำ เอามาเปิดดูผ่านๆ 
เริ่มสบายใจมากขึ้น................................. 
แต่ก็มีเสียงนึงทำลายความสงบโดยรอบ 
ออย.............................มาไงเนี่ย.... 
ผมหันดูต้นทางของเสียง.....................เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงหน้าตาธรรมดาไว้ผมทรงเดียวกะออย 
เดินมาทักออยท่าทางสนิทสนม 
ไม่บอกก็รู้ว่าพวกนี้เพื่อนกัน ผมหันไปอ่านหนังสือต่อ ทำทีเป็นไม่รู้จัก 
แต่ไม่วายนายออยมาสะกิด (อย่ามายุ่งกะกรูได้ม้าย>_< 
เจมๆ นี่เพื่อนออยค่ะ ออยเรียกเสียงร่าเริง 
จนผมต้องทำใจหันไปยิ้มให้(นิดนึง) 
สวัสดีครับ พูดแค่นั้นรีบหันมาอ่านหนังสือต่อ คิดว่าจะมีส่วนร่วมในชิวิตมันให้น้อยที่สุด........ 
กรี้ด นังออยเขาเป็นใครอ่ะ เป็นอะไรกับแก............... 
โหไม่น่าเชื่อว่าจะเจอแบบนี้ได้ ไปจับมาจากไหนว่ะ เอาแล้วครับเอาแล้วเพื่อนออยเริ่มออกอาการ 
ผมก็แอบยิ้มปลื้มๆ ไม่ปลื้มได้ไงอ่ะครับมีสาวมากรี้ดแบบนี้...... 
แต่ดูเหมือนความสุขจะมาแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ 
รอยยิ้มของผมหายไปจากใบหน้า จะไม่หายได้ไงล่ะครับ 
ก็ออยมันเล่นตอบไปชัดถ้อยชัดคำแถมได้ยินทั้งร้านเลย 
อ้อ นี่เจมแฟนเรา........................ 
โมโหจัด......................... 
เดินออกนอกร้านเลยครับ 
ผมว่าหน้าของออยไม่หน้าธรรมดาแล้วครับ 
มันถึงขนาดตราช้างเสริมใหญ่เหล็กคัดพิเศษแถมเก็บลายละเอียดหมดจด 
ไม่แน่เธออาจได้คุณภาพความด้าน iso180000 แถมท้ายด้วยนะครับ 
ถึงได้หนาได้ทนขนาดนี้ 
พูดไปได้ไงใช้สมองส่วนไหนคิดครับเนี่ย..................... 
ผมเสียหายไหมไม่เคยคิดเลย 
เข้าใจผู้หญิงลยครับ ว่าเวลาเจอผู้ชายตู่ว่าเป็นแฟนมันเสียความรู้สึกขนาดไหน............ 
กะกลับบ้านแล้วครับอยู่ไปไม่มีอารมณ์ 
แต่ออยก็วิ่งออกมานอกร้าน เท้าที่กระทบพื้นห้างดังตึงๆ 
เจมตะกี้เราล้อเล่น...............................ออยบอกผม 
เราบอกเพื่อนเราให้เข้าใจแล้วล่ะว่าจริงๆเป็นแค่เพื่อน 
เพื่อนเราก็เชื่อแล้วด้วยน่ะ จริงๆ ออยยืนยัน 
ล้อเล่นอะไร ใช้เรื่องล้อเล่นเหรอไง เราไม่ชอบเข้าใจไหม..............ผมว่าออยพร้อมกับประเคนคำด่า 
เท่าที่จะนึกได้ใส่ออยเป็นชุดเลยครับ 
เรากลับล่ะน่ะ ผมพูดปิดท้าย....................หันหน้าจะเดินจากไป 
แต่นังออยน่ะสิครับ.............................. 
ร้องไห้ใหญ่เลย ร้องไม่ร้องเปล่ายังพูดอีกน่ะครับ 
เจมอย่าทิ้งออยไปค่ะ ออยผิดไปแล้ว 
เวงแล้วครับ ก็รู้นี่ครับว่าเดอะมอลบางกะปิคนเยอะขนาดไหน.............. 
คนคงคิดว่าผมเป็นแฟนมันจริงๆแน่................... 
ตอนนั้นทั้งอาย ทั้งทำอะไรไม่ถูก 
เลยเดินเข้าไปบอกให้ออยหยุดร้อง 
บอกแมร่ง ผมไม่โกรธแล้ว 
เท่านั้นแหละครับ เท่านั้นแหละมันหยุดร้องทันทีเลย 
ผมติดกับออยอีกแล้วหรือนี่..................... 
ออยนอกจากจะเป็นฮิปโปแล้วยังเป็นปลาวาฬอีกด้วยครับ มันพ่นน้ำได้.................... 
เจมออยอยากดูหนังออยบอก 
เออไปดูดิบอกเจมทำไม ผมบอก 
ไปดูด้วยกันหน่อยได้ไหมค่ะ......................ออยถาม............ 
กรรม ออยมันตั้งเค้าเตรียมแหกปากรอบสองแล้วครับ................. 
เวงเอ้ยถ้าคนไม่เยอะผมจะถีบมันให้หล่นลงกระไดเลื่อนไปแล้วครับ 
ก็ได้ครับก็ได้ ผมถือว่าออยถือไพ่เหนือกว่ายอมสักครั้งจะเป็นไร..................... 
ก็ได้ออย แต่ไม่ดูหนังผีน่ะ ผมบอก 
ทำไมล่ะค่ะกลัวผีเหรอ ออยถาม 
อืมครับ กลัว (กลัวหันไปเห็นออยแล้วช็อคตาย) ผมตอบพลางเดินกันไปดูหนัง 
ได้เรื่ององค์บาทครับ มันให้อารมตอนนี้มากเลยครับ อยากเตะคนพอดี 
อ่ะเจมนี่ค่าตั๋วหนังค่ะ ออยยื่นแบงคมาให้ผม 
สร้างความแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่ผมไม่ต้องเลี้ยง 
แต่อนิจจา ตั๋วหนังราคา100 ออยให้ผมมา50- 
เพื่ออะไรเนี่ยออย เพื่ออะไรให้หยั่งงี้ไม่ให้ดีกว่า 
เอ...................หรือเดี้ยวนี้มีโปรโมชั่นใหม่ 
ฮิบโปลดครึ่งราคา 
ผมไม่พูดหรอกครับ เดินดุดๆไปซื้อตั๋ว อย่างน้อยได้แยกจากออยสัก1นาที 
ก็โคตรขอโคตรของโคตรที่จะสุขแล้วครับ............. 
แต่เวรกรรม 
พี่คนที่ขายตั๋วหนังคนสวยก็ยังแซวให้ผมช้ำใจเล่นครับ 
น้องๆ ขอโทษน่ะค่ะ นั้นคุณป้าน้องหรือเปล่า เธอถามพลางชี้ไปที่ออย 
อ้อ.....................................ไม่ใช่ครับ อย่าให้เขาเกี่ยวดองกับผมเลยครับruj 
เรียกซะว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ ผมตอบพี่เขา........ 
พี่เขาทำตาแบบสงสารผมมาก 
แฟนน้องเหรอ...........................อืมงั้นก็พยายามเข้าน่ะค่ะ พี่เขาบอกผม 
ครับ ได้แต่ก้มหน้ารับตั๋วมา 
อนิจจาตัวผม แม้แต่คนขายตั๋วหนังยังสมเพสเลยเหรอครับเนี่ยT_T 
เดินออกมาจากที่ซื้อตั๋ว หันซ้ายหันขวา ออยหายไปโอ้เย้ ออยหายไป 
ไม่รู้ใครลากไปกระทืบ หรือโดนยามไล่ออกไปแล้ว 
แต่ก็ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง................. 
แต่อนิจจาที่เขาว่าเวลาความสุขมันแสนสั้นถ้าจะจริง........... 
นังออยกลับมาแล้ว 
เธอเดินมาไม่เดินมาเปล่า เธอหนีบป็อบครอน์สองกล่องใหญ่ติดลำแขนอวบๆของเธอมาด้วย 
เรื่องกินต้องยกให้ออยจริงๆครับ ชั่วโมงที่แล้วเธอยังกินพิซซ่าอยู่เลย 
แต่ตอนนี้เธอสามมารถบรรจุของกินได้ 
ถ้าเธอไม่มี4กระเพราะล่ะก็ น้ำย่อยของออยก็คงมีอัตราการกัดกร่อนสูงมาก 
ประมาณว่าโยนตะปูลงไปแล้วละลายทันที 
ป่ะเจม เข้าโรงหนังกัน.............ออยชวนผม 
ผมก็พยักหน้าหงึกๆ มองน้ำโค้กขนาดใหญ่ที่ออยหนีบมาด้วย 
ผมหล่ะสงสัยจริงๆ ว่าทำไมมันมีหลอดเดียว...................-_-“ 
เดี้ยวเจม ออยพูดพลางม้วนตัว ขอเข้าห้องน้ำก่อนค่ะ 
แล้วเธอก็รีบวิ่งไปห้องน้ำเลยครับ 
ไปทั้งๆที่หนีบป็อบครอน์ ไปด้วย 
ฝากผมนี่มันยากมากเหรอครับ หรือมันกลัวผมแย่งมันกินเนี่ย......................... 
แล้วออยก็หายไปนานมากเลยครับ 
เวงเอ้ย...........................มันจะเข้ากี่นาทีวะ ผมด่าออยในใจ 
ถ้าไม่ใช่เพราะหนังผมอยากดู+เสียดายตั๋วหนังแล้วล่ะก็ 
ผมหนีกลับบ้านไปแล้วครับ 
แล้วนังออยก็ออกมาครับ เกือบ15นาที ไม่ทราบว่าสูบส้วมอยู่หรือเปล่า 
ออยยิ้มแหะๆพากันเดินเข้าโรงไป 
อนิจจาชิวิต....................................... 
อยากตบหน้าตัวเองเพราะความโง่................. 
ทำไมเหรอครับ ก็ผมเลือกที่ซะตรงกลาง 
แล้วเข้าโรงช้า คิดดูเองสิครับคิดดู หนังก็กำลังฮิต 
คนงี้แน่นเอี้ยดเป็นแถบ เหลือที่ตรงกลางไว้แค่สองที่............................. 
แล้วจะเข้าไปยังไงเนี่ยผมถามตัวเอง 
ถ้ามากะผู้หญิงคนอื่นคงไม่มีปัญหาหรอกครับพอที่จะเบียดๆเขาเข้าไปได้ 
แต่นี้มากะออย “สิ่งมีชิวิตที่น่าสยดสยองที่สุดในโลก” 
คนอื่นพากันเดินเรียงแถวออกมาเป็นตับ 
เพื่อให้ออยเพียงคนเดียว ค่อยๆเคลื่อนไปนั่งที่ 
คิดดูสิครับ คิดดูว่าน่าอับอายขนาดไหน.............................. 
แถมออยยังหนีบเสบียงเต็มสองมือ......................... 
ถ้ามองจากด้านหลังโรงหนังล่ะก็ จะเห็นก้อนกลมๆสีดำเคลื่อนผ่านไปเป็นก้อนเลยครับ 
กว่าจะได้นั่ง กว่าจะสงบแถบหมดอารมณ์ดู 
นี่ถ้าพ่อผมมาเห็นเข้า คงตัดผมออกจากกองมรดกไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับ 
ดูหนังวันนี้ได้รสชาติสุดยอด 
จะอะไรซ่ะอีกล่ะครับ 
ออยเคี้ยวป็อบครอน์ดังลั่น แถมยังอุตสาหกระเด็นมาเผื่อแผ่ผม 
แถมดื่มน้ำตามแก้ฝืดคอเป็นระยะๆ 
ผมไม่ขอกินร่วมหลอดกะออยหรอกครับ 
ก็น้ำลายที่ติดหลอดเล่นยืดยาวเป็นทางเลย แถมจับเป็นก้อนซะด้วย 
อ้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
น้ำลายคนเหรอครับจับเป็นก้อนได้....................... 
กินไปผมว่ากลางคืนผมมีปีกแถมบินได้แหงๆ............................ 
แล้วป็อบครอน์ก็หมด................สองกล่องใหญ่ ทำไปได้-“- 
สงบเสียทีผมคิด ตูจะได้ดูหนังแล้วใช่ไหมผมถามตัวเอง 
สงบจริงๆครับสงบจริงๆ 
ได้ไม่ถึงสองนาทีเล้ยครับ 
ออยมันหาอะไรกินไม่ได้แล้วมั้ง มันเลยจะกินผม........................... 
ออยค่อยๆเอามืออันแสนอวบกล้มอ้วนของเธอ มาจับมือผมครับ..............!!!!!!!!!!!!!!!! 
ชักมือออก ดีที่เท้ามันไม่กระตุกตามมือ................... 
หัวไปมองออยถอยห่างทันที 
ทำอะไรน่ะ........................ผมถาม.... 
ออยไม่ตอบ.....................เธอทำหน้าเศร้าๆดูหนังต่อ 
เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที หมดอารมดูหนัง แต่จะลุกออกก็ไม่ได้ 
ต่อไปผมจะไม่เลือกที่นั่งตรงกลางอีกแล้ว........................... 
อดทนดูจนหนังจบ 
พอครับพอกับความอดทนที่มีต่อนัง ฮิบโปอวกาศตัวนี้......................... 
ลุก เดินเบียดฝูงคน พยายามหนีห่างจากออยให้เร็วที่สุด 
แมร่ง อุตสาหใจดีด้วย นี่เหรอที่มันตอบแทนผม 
นี่เหรอสิ่งที่ผมสมควรจะได้รับ........................... 
รู้งี้ผมไม่น่าจะมาเสียตั้งแต่แรก..................... 
ฮิปโปร้าย วิ่งมาดักหน้า 
เจม.............................ค่ะขอบคุณน่ะวันนี้ ออยพูด 
ผมยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก 
ยืนตรงไหนไม่ยืน..........................มายืนตรงทางออก 
คนเดินออกมากันเต็มเลย ยิ่งออยมายืนบิดทำท่าเหมือนจะน่ารักตรงนี้แล้ว 
ถ้าไม่ติดมาดพระเอกละคร คงดับคาเท้าไปแล้วล่ะครับ 
แล้วผมก็แสนจะมั่นใจเลยว่าจะไม่มีพระเอกคนไหนยื่นมือมาช่วยเหมือนในหนังแน่นอน 
เจมกลับน่ะ..........................ผมบอกออยช้าๆชัดๆแต่น้ำเสียงยืนยันแน่นอนว่า 
ถึงออยจะแหกปากหรืออะไรผมก็จะกลับแน่นอน........................ 
แต่ดูเหมือนสมองของออยจะน้อยเกินไปหน่อย จนไม่เข้าใจว่าผมกำลังโกรธอยู่ 
เจม.......................แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมค่ะ 
.............................................................. 
......................................................... 
ดูมันถามสิครับ ตอนนี้ผมก็เด่นมากเลย 
ออยก็พูดเสียงดัง เหมือนกลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่าเรามาด้วยกัน 
เป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมากเลยครับ 
มีคนบางคนถึงกับหยุดดูพวกผมเลย 
........................................................... 
คงไม่ล่ะออย 
ออยรู้ตัวไหมว่า นอกจากออยหน้าตาจะหน้ากลัวแล้ว ยังทำตัวหน้าเกลียดด้วย 
คิดว่าตัวเองน่ารักเหรอ ไปทบทวนดูไปว่าที่ทำๆมาน่ะมันถูกหรือเปล่า 
หรือออยโง่จนแยกคำว่า 
สมเพส กับ ชอบ ไม่เป็น 
เราไปน่ะ เรายุ่ง..................................... 
แล้วผมก็เดินมาเลย 
ปล่อยออยยืนช็อคอยู่ตรงนั้น....................................................... 
เหมือนผมใจร้ายเลยใช่ไหมครับ แต่อย่าให้คุยเลยครับ 
มีคนตบมือให้ผมด้วย^_^ 
................................................................ 
กลับถึงบ้านตรงเข้าห้องพระ ไปไหว้พระที่บ้านแล้วหยิบน้ำที่บูชามารดหัว 
ถือว่าล้างซวย อฐิษานขอให้ชาตินี้อย่าเจอะอย่าเจออะไรแบบนี้อีกเลย................... 
ไปเจอออย สี่ชั่วโมงเหนื่อยเหมือนจะขาดใจ 
ขึ้นห้อง โทรหามินดีกว่า เจริญหูเจริญตากว่าเยอะเลยครับ 
มินจ๋า เจมรักมินน้า...................................... 
เสียงโทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมดังตอน5ทุ่ม...... 
เล่นเอาสะดุ้งตื่น นายบ้าที่ไหนโทรมาตอนนี้ว่ะ................. 
เบอร์แปลกไม่เคยเห็น ได้แต่กดรับแบบงงๆ 
ฮัลโหล........................... 
เจม เจมเหรอค่ะ นี่ออยเอง................................. 
เฮ้ย ผมตกใจปล่อยโทรศัพท์ลงบนเตียง.......................... 
แมร่งโทรมาอีกได้ไงเนี่ย ผมนึกว่ามันจะเลิกหลอกเลิกหลอนผมได้แล้ว 
ก็เหตุการณ์วันที่ผมเจอออยมันผ่านมาตั้งเกือบๆอาทิตย์แล้วนี่ครับ 
ออยก็ไม่โทรมาหาผมอีก 
แม้แต่เบอร์ผมยังลบไปแล้วเลย 
............................................... 
กดตัดสาย ปิดเครื่องมันที 
อย่าเจอกันอีกเลยนังฮิปโป 55555555 ว่าแล้วก็นอนต่อ 
แต่ก็ต่อเนื่องทันทีเลยครับ โทรศัพท์บ้านดังลั่น 
เวงเอ้ย...................................ผมลืมไปว่าผมเคยให้โทรศัพท์บ้านไว้ 
แล้วเบอรที่บ้านผมก็พ่วงกันหมด 
คือ ถึงผมดึงสายโทรศัพท์ออก 
โทรศัพท์อีกหลายๆตัวในบ้าน รวมทั้งห้องพ่อก็จะดังไปด้วย 
รับลองผมหูชาพอดี........................................ 
แล้วยิ่งถ้านายออยไปพูดไร้สาระอะไรใส่พ่อผม 
รับรองเลยครับ ไม่จบง่ายๆ หรืออาจจบไปพร้อมๆกับชิวิตใครบางคน(ก็ผมนี่แหละ) 
เออ.........................ว่าไง มีไรก็พูดๆมา ผมบอกเสียงค่อนข้างกระแทกรุนแรง 
ไม่ไหวครับ นุ่มใส่ออยไม่ไหว 
เจมออยขอโทษค่ะ..................................... ออยพูดเสียงเศร้าๆมาตามสาย 
เออ ไม่เป็นไรมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม เราวางล่ะน่ะผมบอก 
ไม่อยากคุยโทรศัพท์กับใครดึกๆ แล้วยิ่งกับอีนี่ ตายเสียยังดีกว่าเลยครับ................... 
แล้วผมก็วางไป 
แต่ออยมันก็ช่างตื้อแสนตื้อ โทรมาก่อกวนอยู่นั่น 
เว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
ไรอีกว่ะ ผมรับสาย ฉุนขาด มีไรอีก พูดมาๆ 
เจมช่วยอะไรเราหน่อยสิ.................................... 
ดูมันสิครับดูมัน ยังมีหน้ามาขอให้ผมช่วย 
ถ้าจะช่วยฆ่าล่ะก็ ได้เลยครับผมไม่ปฎิเสธแน่นอน 
แต่ก็รู้ตัวครับว่าถึงบอกว่าไม่แล้ววางไป 
อีหมีควาย ก็คงจะโทรมาอีก สู้ทำให้มันจบๆไปดีกว่า................... 
เอ้าว่ามาสิจะให้ช่วยอะไร 
เจมช่วยมาเจอเราอีกทีได้ไหม ออยถาม 
หา.................................อะไรน่ะ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่มีทาง จะบ้าเหรอ 
เดี้ยวสิเจม ฟังออยก่อนสิ มันจำเป็นจริงๆน่ะ.............. 
เจมเพื่อนออยที่เจอวันนั้นได้ไหม........................... 
ความจริงแล้วออยไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก 
คนนั้นเป็นคนที่ชอบมาแกล้งออยบ่อยๆ 
เนี่ย คนนั้นเอาไปพูดที่โรงเรียนจนทุกคนอยากเห็น 
ออยไม่รู้จะพูดยังไงเจม ตอนนี้ออยโดนแกล้งหนักมากเลย 
ทุกคนหาว่าออยโกหก ออยตอแหล 
เจมมาหาออยหน่อยน่ะ มายืนยันให้หน่อยได้ไหมค่ะ แป็บเดียวก็ได้ว่า................ 
ว่าอะไร ผมถาม 
ว่าเจมเป็นแฟนออยค่ะ ออยบอกผมอย่างไม่อายปาก 
............................................ 
............................................ 
แล้วออยจะกลัวอะไรล่ะ ก็ออยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าล้อเล่นน่ะ................ 
.................................................................... 
เปล่าค่ะ ความจริงแล้วออยไม่ได้บอกหรอก.... 
สรุปได้แล้วครับ เงื่อของปัญหาทั้งหมด อีออยตอแหลไปเอง 
หาเหาใส่หัว น่าจะปล่อยให้แมร่งตายๆไป.......................... 
น่ะเจม แล้วออยจะไม่ขออะไรอีกแล้ว.......................ออยบอก(ถึงขอมาผมก็ไม่ให้หรอก) 
............................. 
..................... 
คงไม่ล่ะออย.........................เธอทำตัวเองแค่นี้น่ะ แล้วผมก็วางโทรศัพท์อีกครั้ง 
............................................................. 
ยิ่งคุยยิ่งหงุดหงิด...................... 
กริ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
เวงเอ้ย มันไม่ยอมลดล่ะความพยายาม 
เออๆ ไปเจอก็ได้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ให้ไปหาที่ไหนที่โรงเรียน? 
เซนโย ใช่ปะ...........................(ออยเคยบอกว่ามันอยู่โรงเรียนเซนโยทางเพริส) 
ไม่ใช่ค่ะ ความจริงแล้วออยอยู่โรงเรียนวัด........(สงวนชื่อ) 
แต่ก็ไกลห่างจากเซนโยหลายต่อหลายขุม 
ผมก็ว่าแล้ว ว่าหน้าหยั่งงี้ 
ถ้าผมเป็นอธิการใหญ่ คงไม่รับมาให้เสียชื่อสถาบันหรอก....... 
พรุ่งนี้ค่ะ จะรอน่ะค่ะเจอกัน...................ที่เดิม เดอะมอล์ 11โมงน่ะค่ะเจม ออยจะรอน่ะ 
ครับๆ เราจะนอนแหละ แค่นี้น่ะผมบอก 
แล้วออยก็ยอมวางสายไป 
พรุ่งนี้สนุกแน่ครับ เหอ เหอ 
ผมจะส่งฮิปโปร้ายกลับขุมนรก.. 
เดี้ยวรู้กันครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น 
กดโทรศัพท์ไปหาคนคนนึง 
รอไม่นานครับต้นสายก็รับสาย 
อืมเจมว่าไง ค่ะ เสียทางปลายสายดูงัวเงียงัวเงีย 
ไม่ต้องบอกก็รู้ตัวครับว่าโทรมาปลุก ^_^” 
ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะครับ พรุ่งนี้วาวา พอจะว่างไหมครับ ผมถาม..................... 
หืออารายเจม นี่เจมจะชวนวาวาเดทเหรอ 
อารมณ์ไหนเนี่ยทะเลาะกับมินมาเหรอเจม................ แล้วจะมาจีบวาวาต่อเหรอ 
ไม่ดีน่ะค่ะไม่ดี ตีตายเลย........ 
เปล่า........................มันเป็นอะไรที่มันเลวร้ายกว่านั้นอีก 
หา....................................อย่าบอกนะว่าเจมเลิกกับมินอีกแล้วคราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ 
บ้า..............................ไม่ใช่เข้าใจผิดแล้ว-“- 
ว่างไหมเอาแค่นั้นแหละ เจมมีเรื่องให้ช่วย..................... 
หือ มีเรื่อง? เรื่องอะไร ว่างก็ว่าง ยังไงพรุ่งนี้ก็อยู่บ้านไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว 
ดีแล้ว............................... 
แต่ไม่ไปน่ะ วาวาพูดสวนขึ้นมา 
อ่าว? เวรกรรม แค่นี้ช่วยเราไม่ได้เหรอ ทำไมล่ะ..........วาวาเอาไงแน่เนี่ย 
ไม่ไปถ้าเจมไม่บอกก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น วาวารู้เจมไม่โทรมาชวนหรอกถ้าไม่มีอะไรสำคัญ 
ว่าไงค่ะจะบอกไหม ไม่บอกจะวางแล้วนะจะนอน.................... 
อ่าวกรรม-“- จ้าๆ เล่าจ้าเล่า ยอมรับครับว่าถึงเถียงวาวาไปยังไง 
ถ้าเจ้แกอยากรู้เรื่องล่ะก็ ยังไงก็ต้องรู้ครับ 
เลยนั่งฝืนทนฝืนกล้ำกลืนเล่าเรื่องออยให้ฟัง 
วาวา น่ารักมากครับน่ารักมาก ฟังไม่ฟังเปล่ายังช่วยหัวเราะตามอย่างสนุกสนาน 
ผมเล่าชัดเจนทุกตอน เล่าจนเห็นภาพ 
เหมือนเรื่องเพิ่งจะเกิดวันนี้เลย 
....................................................... 
ก็แค่นี้แหละ วาวาช่วยเราหน่อยได้ไหมล่ะ ผมถามหลังจากเล่าเรื่องจนจบ 
............................................. 
.................................. 
อืมๆ ว่ามาเลยจะให้วาวาทำอะไร..............ตบเลยไหม อยากตบช้างมานานแล้ว 
ถึงวาวาจะเป็นคนรักสัต.ว์ แต่คนนี้เป็นข้อยกเว้นเฉพาะ 
เพราะวาวาเกลี้ยด เกลี้ยดช้าง............. 
โห เราไม่โหดกับผู้หญิงขนาดนั้นวาวาก็รู้ 
ถ้าอยากกระทืบเราตามพวกผู้ชายไปไม่ดีกว่าเหรอจะโทรหาวาวาทำไม..... 
อ่าวเหรอ อืมแล้วจะให้วาวาทำไง...................... 
ไม่รู้สิ วาวาช่วยคิดแผนแสบๆให้เจมสักแผนได้ไหมล่ะ 
แสบ!!!!!! 
โหได้เลยขอให้บอกจัดให้ วาวาชอบค่ะ.................... 
เอางี้พรุ่งนี้เจมนัดแล้วใช่ไหมที่ไหนยังไงก็ไปให้ตรงเวลาน่ะ ไปทักเลยให้ตรงเวลา 
อ่อ แล้วอย่าลืมแต่งตัวไปให้หล่อๆน่ะค่ะ คิ คิ 
วาวาหัวเราะเสียงชั่วร้ายมากเลยครับ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า-“- 
จะบ้าเหรอ วาวาจะทำอะไรเนี่ย 
แต่งตัวหล่อไปเราก็ขึ้นเขียงดิ ผมโวยลั่น 
เอาเถอะน่าเอาเถอะน่า...........................เจมไม่ใช่คนที่ต้องขึ้นเขียงหรอก....พรุ่งนี้เจอกัน 
วาวาขอไปลับปังตอก่อนน่ะพรุ่งนี้รับรอง แสบ!!!!สะใจแน่ มาทำเจมงี้ 
วาวาง่วงแหละ ฝันดีน่ะเจมไปน่ะค่ะ แล้ววาวาก็วางสายไป 
............................................... 
.................................... 
-“-เอาไงเนี่ย แุนอะไรของเธอก็ไม่บอกเลย 
เอาก็เอาวะ ได้แต่เชื่อใจ เดินตรงไปนอนต่อที่เตียง 
ในใจก็พร่ำถามตัวเอง 
วาวาจะทำไรว้า วาวาจะทำอะไรว้า ทั้งคืน 
คิดถูกไหมว่ะกรูผมถามตัวเองที่มา 
ใจกระสัพกระส่ายยิ่งนัก............... 
ตอนนี้ผมหลบอยู่แถวๆบันไดเลื่อนจากมุมที่มองไปหน้าแมคโดนัลด์ได้ชัดเจน 
อีก30นาทีถึงจะถึงเวลานัด 
ยังไม่มีใครมา ทั้งวาวาและยายปิศาจด้วย 
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาวาวา ถึงไหนแล้วเนี่ยผมถาม 
ถึงแล้วถึงแล้ว วาวาบอก ขอ5นาทีน่ะค่ะจอดรถก่อน 
อืม.................. วาวาเดี้ยวออยมาจะให้เราไงเหรอบอกได้ยังผมถาม 
ไม่รู้วาวาจะหวงแผนทำไมนักหนา ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ยอมบอกผมเลย 
อืมเดี้ยวไปเจอแล้วบอกน่ะ........................ 
เวรของกรรมครับ-“- 
เอาไงดีว่ะผม อีก 5 นาที..........................แล้วเหรอเนี่ย 
แล้วผมก็เห็นครับ 
คณะลูกหมูทัวร์กรุงไม่ใช่หมูธรรมดาด้วยครับ หมูป่าซ่ะด้วย 
เดินมาแล้วครับนำขบวนคนที่ผมไม่เคยลืมเลย 
ออยครับออย................... 
วันนี้ออยมาในชุด เสื้อเกาะอก แหนมป้าย่นดีๆนี่เอง 
ทั่งกลุ่มมันเลยล่ะครับ แถมไม่แตกต่าง 
ไม่รู้พวกมันกล้ามาเดินห้างได้ยังไง 
สายเดี่ยว เกาะอก ถุงเท้านักเรียนดึงสูงๆ 
แมร่งคิดว่าตัวเองสวยมากเหรอไงกันเนี่ย 
แต่ล่ะคน ถ้าผมเห็นกลางคืน ผมวิ่งจริงๆด้วยครับ 
คิดทบแล้ว ทบอีก เอาไงดีว่ะกรู 
ถ้าออกไปตอนนี้ก็เหมือน ปิดหูปิดตากระโดดลงบ่อจระเข้(อาจจะสร้างสรรค์ค์กว่าด้วย) 
จะไปให้มันทึ้งเหรอครับ ในที่สุดผมเลยตัดสินใจที่จะ นั่งรอ.... 
................................................ 
เวงแล้วครับ มือถือดัง จะใครซ่ะอีกหล่ะครับ ออยไงครับออย 
มันโทรมาแล้วกรูเอาไงดีว้า........................ 
ผมกดตัดสาย แมร่งรอหน่อยเว้ยยังไม่พร้อมยังไม่พร้อม................... 
แต่หมูมันดื้ออ่ะครับ โทรมาตามไม่หยุดหย่อน.................... 
แมร่งอยากตาย ปิดเครื่องก็ไม่ได้ เดี้ยววาวาโทรมาหาแล้วจะไม่ติด..... 
แล้วชื่อนางฟ้าก็ขึ้นที่มือถือจนได้ครับ 
วาวานั่นเอง รีบกดรับทันทีเลย อะเหอ กรูรอยแย้ว>_< 
ไงเจม มันมากันยังค่ะ วาวาถาม 
วาวาจ๋าช่วยเจมด้วย มันมากันแล้วเนี่ยไม่เกินสองช่วงตึก เจมกลัวอ่ะวาวาเจมกลัว 
มันมากี่คนล่ะเจม วาวาถามผม.................... 
6 คนครับ วาวาจะทำไมเหรอ............ถามงี้มีอะไร...... 
อืมๆ 6คน พอไหวพอไหว..................เอาล่ะเจม ทำตามที่วาวาบอกน่ะ 
ครับๆ สั่งมาเลยครับ จะให้เจมทำไรขอให้บอก เอานายออยออกไปจากชิวิตเจมได้ก็พอใจแย้ว 
เจมออกไปหาเลย ยิ้มด้วยน่ะ 
อืมๆออกไปหา ฮ้า!!!!!!!!!! จะบ้าเหรอวาวาไม่เอาหรอก 
จะให้เจมไปหาออยให้เจมไปตายดีกว่าอีก........ 
เออน่า บอกให้ไปก็ไปสิเจม ไม่อยากให้มันออกไปจากชิวิตอย่างถาวรเหรอ... 
อืมอยากสิ อยากให้มันหายไปจากโลกด้วยซ้ำ....... 
งั้นก็ทำตามที่บอก.................เข้าใจ้ วาวาพูดเสียงเฉียบขาด 
นอกนั้น เดี้ยวเจ้เครียลเอง..................แค่นี้นะ แล้ววาวาก็ตัดสายไปเลย 
เดี้ยวดิวาวา ที่ว่าเครียลอ่ะ ทำไงอ่ะ T_T 
ใจคอนี่กะไม่บอกจริงๆใช่ไหมเนี่ย 
แหงนไปดูหน้าออยอีกครั้งทำใจ............. 
พระเจ้า คุ้มครองลูกช้างด้วยเถิด ผมกำพระที่คอหวังว่าท่านจะช่วยได้...... 
แล้วผมตัดสินใจเดินออกไปหาออย........................................... 
เพียงเดินพ้นหัวมุม ฮิปโปกลายพันธุ์ ก็กระโดดใส่ 
เจม..............................ออยรอตั้งนานแหนะ ออยบอกเสียงอ้อน(เท้า)สุดชิวิต 
“..........................................”ผมพูดอะไรไม่ออก 
หันไปดูหน้าเพื่อนๆของออย 
แต่ล่ะคนต่ะลึงอ้าปากค้าง..................... 
ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าผมจะมาเดินกับออยได้......................... 
ผมไม่ว่าพวกเธอหรอกครับ เพราะแม้แต่ตัวผมเอง ยังไม่เชื่อเล้ย T_T” 
เจมนี่เพื่อนออยค่ะ นี่นิด ส้ม แก้ว นิหน่อย กิ่งแก้ว โม...... 
ครับๆ ดีครับผมก้มหัวยิ้มให้ 
ส่วนมือพยายามแกะมือออยที่เกาะแขน 
แต่แน่นมากครับยิ่งกว่าพลังช้าง 
ปลิงควายครับ ปลิงควาย ทั้งสีทั้งแรงเกาะใช่เลย 
ไปค่ะเจม ไปกินข้าวกันค่ะ 
ออยอยากกิ้นอยากกินฟูจิ................................. 
กินฟูจิบ้านเมิงสิ ขนาดพิซซ่ายังเลี้ยงไม่ไหวเลย 
ฟูจิไม่ต้องขายบ้านจ่ายเหรอ (นึกในใจ) 
แล้วออยก็กึ่งดึง กึ่งลากผมไปที่ฟูจิเสียให้ได้ 
พรรคพวกของยายออยก็เดินตามมาเป็นพรวน โอ้ยอยากตาย 
ยังกะฝูงปอบหยิบกระหายเลือด 
ผมอยากจะถามยามของเดอะมอลจริงๆเลยว่าปล่อยพวกนี้เข้ามาได้ยังไง.......... 
เจมเป็นไรไม่ร่าเริงไม่ยิ้มเลยล่ะค่ะ เพื่อนออยคนนึงถามผม 
จำชื่อไม่ได้ ไม่ส้มก็กิ่งนี่แหละ....... 
เอ่อ............. 
เจมไม่ค่อยพูดอ่ะ เขาเป็นคนเงียบๆ ออยรีบตอบ เท่าที่ผมจำได้รู้สึกจะไม่มีใครถามออยสักคน 
จริงเหรอเจม.............................. เธอคนนั้นหันมาถาม 
เธอมองสายตาแปลกๆไปที่ออย........ 
ผมไม่อยากบอกเลยว่าที่ซึมๆเนี่ยก็เพราะมากับพวกออยเนี่ยแหละ 
นรกชัดๆ แต่ล่ะคนนี่ประกวดเทพีป่าช้าแตกได้สบายๆเลย 
อืม เอ่อ...........คือ..............พยายามคิดหาคำพูดที่มันเบาที่สุด 
น่าไม่ต้องถามแล้ว เนี่ยเจมจะถึงแล้ว ไปจองที่เลยค่ะ ออยรีบตัดบท ดูเหมือน 
ไม่ค่อยอยากให้เพื่อนคุยกับผมสักเท่าไหร่สงสัยกลัวรู้ความจริงล่ะมัง้ 
โอ้ไม่แทบปล่อยโฮ ซวยแล้วผม 
เอาไงดี จะชิ่งยังไงดี สงสัยคราวนี้ผมจะไม่รอด.......................... 
แล้ววาวาก็เดินอยู่ตรงหน้า เธอเดินผ่านร้านขายกระดาษเขียนจดหมาย 
เดินมาทางผม แต่ถ้าทีวาวาแปลกๆ 
เธอไม่มองผม ไม่สนใจด้วยซ้ำ.... 
หรือวาวาจะแกล้งผม หรือเธอจะไม่ช่วย 
เธอเพียงเดินผ่านมาเพื่อดูชะตากรรมของผมเท่านั้นเองเหรอ...................... 
เหมือนแสงแห่งความหวังจะดับวูบ 
พูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ได้ วันนี้ผมคงจะไม่รอดแล้ว 
ผมกับวาวาเดินเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ 
แต่เธอก็ยังเฉยๆแล้วเดินผ่านไป 
............................................. 
....................................... 
หมดแล้วความหวังของผม 
...................................... 
............................................. 
แต่แล้วก็ได้ยินคำบางคำ ดังมาจากข้างหลัง 
เจม..........................ใครน่ะ? 
ทุกคนในกลุ่มหันไป................... 
ไม่หันได้ไงล่ะครับ ก็ตอนเดินผ่านตะกี้ 
เหมือนสองโลกมาเจอกัน 
ปีศาจกับนางฟ้า คงไม่ต้องบอกน่ะครับว่าฝ่ายไหน........ 
ผมว่าพวกออยก็ต้องรู้สึกอะไรมั่งแหละ................... 
วาวายืน ประจันหน้า ทิ้งถุงกระดาษลงข้างตัว เอามือเท้ากอดอกหน้าตาเอาเรื่องมาก....... 
เจมใครๆ บอกมาใคร มาเดินขอเรายัง วาวาถามเป็นชุดๆ 
ผมยังไม่ทันมุขเจ้แกเลย เลยได้แต่ทำหน้างง 
ส่วนพวกออยเหรอครับ หันมองตากันเลิกลั่กเลิกลั่ก..... 
แกเป็นใคร มายุ่งอะไรกะแฟนกรู เมิงอยากตายเหรอ วาวาหันไปทางออย 
ได้ผลทันทีครับ ออยปล่อยมือ..................... 
วาวาเดินเข้ามาใกล้ 
นึกเหรอแค่ปล่อยมือแล้วมันจะจบ ถามก็ตอบสิว่ะ แกเป็นใครเป็นอะไรกับเจมหา 
วาวาเล่นบททรามทันที ไม่รู้เธอไปเรียนมาจากที่ไหน แต่ขอบอกครับว่าร้ายใช่ได้เลย 
...................................... ออยเงียบ 
เป็นไร ถามก็ตอบสิว่ะ ลืมลิ้นไว้บ้านเหรอ...................วาวาเร่งเร้าคำตอบ..... 
เป็น......เป็น...... เป็นแฟน........... ออยตอบช้าๆก้มหน้าไม่กล้าสบตาวาวาๆ 
....................................................... 
ต้ายหล่อน ที่บ้านมีกระจกไหม 
รู้จักบ้านเจมปล่าว คนใช้บ้านเจมยังสวยกว่าหล่อนเลย 
ชิง หมูข้าง ฮิปโป หรือ กระบือมาเกิดหา 
นอกจากหน้าตาจะอุบาทแล้ว ยังโง่อีกเหรอ 
กินๆเข้าไปอ่ะ หัดเอาไปเลี้ยงสมองมั่ง มันลีบจนจะไม่มีแล้ว..................... 
เจมชอบมันเหรอ วาวาหันมาทางผม 
ไม่ชอบ ผมตอบทันทีเลยครับ ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ 
เห็นไหม เห็นไหม เห็นไหม วาวาเดินเข้าไปหาออย 
เขาเคยขอแกเป็นแฟนเหรอ หา 
น่าด้านให้มันมีขอบเขต หรือขี้ไคลที่คอมันพอกซะจนไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้ว 
วาวาด่าเป็นชุดเลยครับ 
ด่าชนิดที่แบบว่า เมิงไม่น่าเกิดมาเลย-_-“ 
มันจะมากไปแล้วน่ะ แล้วเธอล่ะเป็นอะไรกับเจม 
แฟนไง แฟนตัวจริงเสียงจริง 
เจมขอแล้วด้วย ไม่น่าด้านหน้าทนเหมือนเธอหรอก แค่คนเขาใจดีเข้าหน่อยก็กระดิกหางยิกๆแล้ว 
แก...................................... ออยคำรามใส่ 
ต้าย...........................หมูมันจะกัดแล้วเจม ช่วยวาวาด้วยค่ะ............... 
ผมรีบเดินไปหาวาวาทันที แสบจริงๆ 
หยั่งงี้ออยคงไม่กล้ายุ่งกับผมอีกตลอดชิวิต................... 
ผมกับวาวาเดินออกาเลยครับ ออยอึ้งไปเลย 
เรื่องมันน่าจะจบครับน่าจะจบ ถ้าออยไม่พูดคำๆนึงออกมาเสียก่อน 
มันก็แค่เนี้ย ได้แต่ด่าปากดีชิบ..........................ออยพูดเสียงดังลับหลังเหมือนจะด่าให้ได้ยิน 
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 
วาวานิ่งเลยครับ เธอเงียบเหมือนคิดอะไรอยู่ 
ใครเคยเห็นรองเท้าบินมั่งครับ 
ถ้าไม่เคยก็เห็นซ่ะ รองเท้าส้นสูงทรงแหลม 
ลอยละลิ่วไปลงหัวใครบางคนพอดิบพอดี 
ไม่ได้ลงแบบเบาๆน่ะครับ แต่แลนดดิ้งดังผั้วะเลย...... 
เล่นเอาออยหน้าหงาย 
ผมตกตะลึง เจ้วาวาสด เธอถอดรองเท้าปาหัวออยเลยครับ 
ส่วนอีกข้างเธอไม่ปาแต่จับตรงส้นรองเท้า 
วิ่งเข้าไปฟาดหน้าออยจนรองเท้ากระเด็น(โหดสรัดอ่ะ) 
วงฮิปโปแตกทันทีร้องกันจ้าล่ะหวั่น วิ่งไปคนละทาง 
ไม่มีเพื่อนคนไหนคิดจะปกป้องออยเลยครับ 
วิ่งอย่างเดียวเลย 
วาวากระหน่ำเอารองเท้าฟาด 
80เปอรเซนจะลงที่ใบหน้าและช่วงลำคอ 
ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โต เลยไม่มีพลาดเป้าเลยครับ..............โดนทุกดอก.... 
แกจะลามไปแล้ว แกพูดใหม่สิ แก่ว่าใคร แกว่าใคร วาวาพูดถามออยซ้ำไปซ้ำมา. 
ออยร้องระงมหันมาพลักวาวาจนกระเด็น 
เอาแล้วครับเอาแล้ว........................ช้างสู้แล้วครับ 
ขนาดตัวของออย แค่ล้มทับ วาวาก็ตายได้แล้วล่ะครับ.... 
ออยเดินย่างสามขุมเข้าหาวาวา 
แต่ด้วยไหวพริบของเธอ 
เธอหยิบเก้าอี้ที่วางไว้ตรงตู้เกม ขึ้นมาขู่ 
ได้ผลครับได้ผล นังฮิบโปชะงัก 
เข้ามาดิ วาวาพูดยักคิ้วท้าทายอีกตั่งหาก 
แล้วยามก็เดินมาทันทีครับ มาตั้งสามคน 
เอาแล้ววาวาซวยแล้ว ฉันจะบอกพ่อแกว่าไงเนี่ย พาลูกสาวเขามามีเรื่อง 
เจริญล่ะครับงานนี้ 
ยามยังเดินมาไม่ถึงครับ 
วาวาทิ้งเก้าอี้ลงพื้นทันที แล้วไม่ถึง2วิครับ วาวาก็ร้องไห้ระงม 
น้ำไหลพราก ก้มหน้าก้มตาหันมาทางผม......... 
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย จะร้องไห้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วมั้งวาวา 
หันไปมองออยครับ เลือดเต็มหน้า เป็นจ้ำๆเชียวถึงจะไม่ค่อยชัดเพราะสิผิวก็เถอะ 
หลักฐานมันแน่นหนาเกินไป 
เกิดอะไรขึ้นครับ ยามถามทำท่าจะเข้ามาจับพวกผม 
มาปะกบพวกผมคนนึงอีกสองคนปะกบออย..... 
คิดถูกแล้วล่ะครับที่ประกบออยสองคน เพราะถ้ามันดิ้นขึ้นมา 
อาจต้องใช้มากกว่าสอง................. 
ก็นังนี่น่ะสิค่ะ เอารองเท้ามาฟาดหน้าดิฉัน ดูสิค่ะเจ็บไปหมดเลย ออยบอก 
ไม่บอกเปล่าครับ ชี้นิ้วมาทางวาวาเสียด้วย 
ขอโทษค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้ให้ตามที่เธอขอ วาวาพูดก้มหน้าร้องไห้ 
ขอโทษน่ะ เราไม่ตั้งใจจริงๆ เรารู้เธอลำบาก...... 
เราไม่ได้ตั้งใจนะ เรากลัว อยู่ๆก็มาพูดร้ายๆใส่ 
ตัวเธอก็ใหญ่ จะให้เราทำไงล่ะ ก็เรากลัว....... 
เอานี่ วาวาหยิบแบงค์ 500 ออกจากกระเป๋าส่งให้ออย 
นี่ใช่ไหมที่เธอต้องการ เอาไปสิ แล้วอย่าทำร้ายเราอีกเลย............น่ะ วาวาพูดเสียงสั่นๆ 
ออยโกรธจนหน้ากลายเป็นมอเตอรทามิย่า(ดำแดง) 
เรา.....เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ 
วาวาไม่ได้ตั้งใจ จะบ้าตายพูดมาได้ 
ถ้าหยั่งงี้ไม่ตั้งใจ ผมคงไม่กล้าออกนอกบ้านแล้วครับ 
“นี่มันพยายามฆ่าชัดๆ” 
แต่ก็อย่างที่ว่า นางเอกมักสวยนางร้ายมักซวยเสมอ 
วาวาตอนนี้ ดูน่าเชื่อถือกว่าออยตูม 
ยิ่งวาวาทำหน้าน่าสงสาร พวกพี่ยามที่น่ารัก(หน้าหม้อ)ก็พากันโอนอ่อนเป็นแถว 
ออยเห็นวาวา อ้อนแล้วตัวเองเริ่มจะเสียเปรียบ 
พี่ยามค่ะ เชื่อหนูเถอะค่ะ ออยพยายามทำเสียงอ้อนบ้าง 
แต่อนิจจา เหมือนขุดหลุมฝังตัวเอง  
 

ผมเห้นผู้ชายคนนึงในกลุ่มไทยมุง ถึงกับวิ่งไปห้องน้ำเลยครับ 
(ไม่ปวดขี้ก็ไปอ้วกล่ะ)-_-|||| 
โลกนี้ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสม 
แต่ดูเหมือนออยจะยังไม่เข้าใจกับสัจธรรมข้อนี้ 
ถ้ายังไม่เห็นภาพ ก็จินตนาการว่าพาสุนัขขี้เรื้อนไปนอนด้วยสิครับ 
คุณจะรักมันลงไหม? (แรงไปไหมเนี่ย) 
แล้วพี่ยามก็หยิบ กระดาษทิชชู่ส่งให้วาวา 
เหมือนส่งถ้วยรางวัลให้ 
วาวายื่นมือไปหยิบกระดาษ ขอบคุณค่ะ เธอพูดแล้วมองไปที่พี่ยาม 
ผมรู้แล้วล่ะครับว่าพี่ยามหลงกลเข้าไปเต็มๆ 
เจอหน้า ขาว ใส สวย หมวย เป้นระทวย 
แล้วก็ที่แน่ๆครับ บทผู้ร้ายย่อมตกอยู่กับออย 
พี่ยามเดินไปคุมตัว ขอเชิญไปคุยที่ออฟฟิศ 
ออยพยายามจะอธิบาย 
แต่พวกพี่ยามไม่ฟังแล้วครับ แก้ตัวให้ตายก็ไม่ขึ้น 
แค่การแต่งตัวก็บ่งบอกแล้วครับ ถึงชาติตระผมล 
ออยสติแตก!!!!!!!!!!!!! 
ผลักพี่ยามออก 
คำรามขู่ฆ่าวาวา “ไม่จบแน่เมิง ไม่จบง่ายๆแน่” 
เหมือนหมูตกมัน ยิ่งยืนยันใหญ่เลยครับว่าใครเป็นนางเอก 
ใครเป็นนางร้าย..... 
พี่ยามพยายามช่วยกันตะครุบ ไม่ให้ออยทำร้ายวาวาได้ 
มีผู้ชายที่มุงๆ ทั้งหลายมายืนขวางให้ด้วย 
บ่งบอกมากเลยครับ ท่าทางของทุกคนเหมือนจะบอกว่า 
“ถ้าเมิงจะทำอะไรน้องเขา ก็ต้องฝ่าพวกผมไปก่อน”(ฮีโร่โคตรๆ) 
พี่ยามมาอีก3คนจากไหนไม่รู้ 
สงสัยโดนเรียกมาเป้นกำลังเสริม(ล่าช้าง) 
พากันลากมาดึงออย คิดดูสิครับออยแรงเยอะขนาดไหน 
ผู้ชาย 6 คนกว่าจะลากไปได้ (แรงคนเหรอ) 
ขนาดพ้นหัวมุมแล้วนะครับ ยังได้ยินเสียงตะโกนพยาบาทอยู่เลย 
พอออยโดนลากไป 
โชวก็จบ คนก็เริ่มแยกย้าย 
แต่ล่ะคนส่งสายตาเป้นห่วงวาวาก่อนจากไป 
นี่ถ้าผมไม่ยืนอยู่ล่ะก็ อาจจะมีนิทรรศการแจกเบอร์โทรไปแล้ว 
วาวายังร้องไม่หยุดเลยครับ...... 
พี่ยามคนนึงเดินมาถามว่าวาวาจะแจ้งความไหม 
ไม่ค่ะขอบคุณ หนูไม่เอาเรื่องหรอกค่ะ หนูแต่ตกใจ สงสารเขาค่ะ...... 
ผมพาวาวาออกจากที่เกิดเหตุ 
กล่าวขอบคุณพี่ยามทั้งหลาย 
เดินออกมาไกลพอสมควร 
“เจมมีใครมองอยู่หรือเปล่า”วาวาถามผม 
ไม่มีแล้ว ทำไมเหรอ ผมตอบ........... 
วาวาเงยหน้าขึ้น น้ำตาหลุดไหล 
สีหน้าวาวาปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น........... 
ว้า ตาบวมหรือเปล่าเจม วาวาแกล้งร้องไห้หนักไปหน่อย...... 
กรรม แกล้งร้อง!!!!!!!!!!!!! 
น้ำตาต่ะกี้โกหกเหรอเนี่ย-_-“ 
ผมเองยังจับไม่ได้เลย................. 
ทีนี้ออยก็คงไม่กล้ามาตามเจมแล้วล่ะ อย่าลืมน่ะ เลี้ยงข้าววาวาตอบแทนด้วย 
วาวาพูดทำเสียงร่าเริงเดินนำ 
ครับ..................ผมตอบ ใครจะกล้าเบี้ยวเจ้เขาล่ะครับ.................. 
ถ้าเบี้ยว ผมจะเจออะไรบ้างเนี่ย ร้ายจริงๆ 
บางทีความเหงาก็ทำร้ายใครบางคน 
ทำให้เราทำอะไรไปโดยไม่คิด.......... 
เราทำไปเพื่อคลายเหงา เพื่อจะมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ 
ก็แค่นั้นที่เราต้องการ แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้รักเขาเลย.............. 
เคยไม่ครับที่เป็นแบบผม 
ถ้าจะถามว่ามันเริ่มต้นตอนไหน 
ก็แค่อาทิตย์ที่แล้วเท่านั้นเอง................ 
เห้ยเจมไปเที่ยวกันเว้ย นายบอยคึกหนัก โทรมาหาผม 
พระบิดามันไม่รักเหรอไงเนี่ย 
เล่นเอาผมตกอกตกใจ โทรมาตอนที่ผมกับเรียนวิชา สุดยาก อาจารย์สุดโหดอยู่พอดี 
เห้ยว่าไง ไปไหมไปไหม ต่อเว้ย หรือเมิงปอดว่ะเห้ยอย่าเงียบดิ 
นายบอยเร่งมาตามสาย เสียงโคตรร่าเริง 
คิดผิดจริงๆที่รับโทรศัพท์มันตอนเรียน....... 
จะพูดด่าก็ไม่ได้ อาจารย์รู้ผมคอขาดไปพร้อมกับเกรดแน่ๆเลยครับ 
เห้ยนายเจมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม 
นายบอยตะโกนมาตามสาย..... 
-“- ใครไปเหยียบุางมันเหรอครับเนี่ย..... 
ขนาดเสียงโทรศัพท์เบาๆแล้วน่ะครับ ยังได้ยินออกมาถึงข้างนอกเลย..... 
เอาแล้วครับนายบอยทำผมแล้ว อาจารย์มองหน้า 
มองไม่มองเปล่า ทำท่าลุกเดินมาหาแล้วครับ................... 
ตายแน่ผม ตายแน่ รอดยากครับอาการแบบนี้.... 
เอาโทรศัพท์โยนเข้าใต้เก้าอี้นั่งทับ..... 
หวังครับหวัง ว่าเสียงนายบอยมันจะไม่ดังออกมา 
อาจารย์มายืนตรงหน้า ท่าทางเอาเรื่องมาก 
คุณกำลังทำอะไรอยู่ไม่ทราบค่ะ ทำไมไม่ได้ฟังที่ครูสอน...... 
หรือเธอไม่เข้าใจอ่ะไรหรือเปล่าค่ะ........ 
เปล่าครับ อาจารย์ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะครับเลยก้มหน้า.... 
อืม..............งั้นไม่เป็นไรค่ะ แต่ช่วยกรุณาตั้งใจฟังที่ดิฉันสอน 
ไม่งั้นก็นู่น อาจารย์ชี้ไปที่ประตูห้องครับ 
เชิญเลยค่ะ เชิญออกไปนอกห้องเลย ดิฉันไม่เคยง้อให้คุณเรียนน่ะค่ะ อาจารย์บอกย้ำ 
ครับ ผมตอบ นี่มันอะไรกันนักกันหนาเนี่ย..... 
ก้มหน้าก้มตา อาจารย์แค้นอะไรผมนักหนา ไม่ยอมเดินไปสักที 
ยังดีครับยังดี ที่นายบอยยอมวางโทรศัพท์ไปแล้ว 
อาจารย์กำลังจะเดินไปอยู่แล้วครับ 
แต่นายโทรศัพท์เจ้ากรรม ก็ดังขึ้นอีกครั้ง 
ผมปิดเสียงแล้วนะครับ แต่เพราะผมนั่งทับมันนี่สิครับ 
โทรศัพท์มันสั่นกระทบกับเก้าอี้พลาสติดดัง กึกๆ..............กึกๆ 
กรรมแล้วผม...................... กำลังจะหยิบโทรศัพท์ออก 
แต่ไม่ทันแล้วครับ อาจารย์มายืนตรงหน้า 
คุณ กิ.......... ติ.......... พงศ์ค่ะ อาจารย์เรียกชื่อผม ชัดถ้อยชัดคำ ชัดเจน 
และแน่นอนได้ยินทั่วห้อง 
ผมหยิบโทรศัพท์ ออกจากเก้าอี้ ยังสั่นอยู่เลยครับ 
ชื่อกระพริบๆ แน่นอนจะใครซะอีกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่นายบอยคุง-“- 
อยากจะร้องไห้T_T 
อาจารย์ชี้นิ้วไปที่ประตู เชิญ อาจารย์พูดแค่นั้นแหละครับ 
ช้า ชัด แต่ความหมายชัดเจน...... 
ก้มหน้าก้มตา เดินออกจากห้อง 
อาจารย์บอกจะไม่เช็คชื่อให้ผม 
เวรไหมล่ะครับเนี่ย มันไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อยจริงไหม 
กำลังจะกดรับโทรศัพท์นายบอย แต่มันก็วางสายไปเสียก่อน 
เว้ย เฮ้ย............................. 
ชาติที่แล้วผมไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับมันใช่ไหมเนี่ย 
เสียตังอีกกรูโคตรหงุดงิดเลยครับ 
โทรกลับนายบอยอย่างด่วน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ อยากด่าคนเท่านั้นเอง 
เออ ไมไม่รับสายว่ะ นายบอยพูดมาตามสาย 
สรัด ก็เพราะมิงอ่ะ กรูเลยต้อง อัปเปหิมานั่งนอกห้องเนี่ย 
มีอะไรรีบร้อนนักหนาว่ะ ผมด่ายับเลยครับ 
อ่อ....................................เมิงโดนไรออกนอกห้องเหรอ 
กร้าก อยากจะขำเป็นภาษาอิตตาลี โง่จังวะ นายบอยเยาะเย้ย 
ยิ่งคุยยิ่งอยากเตะปากคนครับ(เพราะมันนั่นแหละ) 
เออๆ มีไรก็พูดมาเด้ เผอิญพ่อกรูไม่ได้เป็นเจ้าขององค์การว่ะ....เปลือง 
(เดือนที่แล้ว3900 แสบไปถึงทรวง) 
อ่อ...............................ไปเที่ยวกันเว้ยเจม 
เที่ยว? เที่ยวไหนว่ะ แต่ล่ะที่ที่มรึงชวนกรูไปแมร่งไม่เคยจะสร้างสรรค?อ่ะ 
ครั้งล่าสุดแมร่งพากรูไปดงฝูงเกย์ 
ดีแมร่งที่กรูเห็นลูกกระเดือกก่อนนะเมิง 
เกือบโดนตุ๋ยหมู่-_-“ 
เออ....................ครั้งนั่นพลาด แต่ครั้งนี้ชัวร์เว้ย 
ชัวร์ ของเมิงหมายถึงอะไรว่ะ............................ 
ก็หมายถึง หญิงตรึม สาวตูน ขาว หมวย สวย โสดเพียบไง 
สนปล่าวว่ะ 
เห้ย กรูไม่สน กรูมีมินแล้วเว้ยขอผ่านว่ะ แต่ที่ไหนว่ะบอย^_^ 
เพื่อนรัก...................................... 
ทองหล่อคืนนี้เว้ย เด็กมหิดล สนป่าว 
เช็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 
ที่ไหนว่ะว่ามาว่ามา................. ของงี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว...... 
อ่าว มีมินแล้วไม่ใช่เหรอ มรึงจะถามไปไมว่ะ 
อ่อ................ไปศึกษาเว้ยไปศึกษาของงี้มันต้องเรียนรู้(มินไม่รู้ เอิ้กๆ) 
แล้วฝ่ายนั้นกี่คนว่ะ...................... 
6 คน เพื่อนเก่ากรูหนึ่งในนั้นอ่ะมันชวนเพื่อนมันมาให้ 
โห....................เพื่อนมรึงน่าคบว่ะบอย 
กรูคบกับมรึงมาเกือบปี เพิ่งเห็นข้อดีเมิงเนี่ยแหละ 
อ่าว กี้เมิงยังโกรธกรูอยู่เลยไม่ใช่เหรอ......................บอยถามจี้ใจดำพิลึก 
บ้า กรูอภัยให้เพื่อนเสมอเว้ย................. 
บอกได้ยังที่ไหนกี่โมงว่ะ ใครไปบ้าง...................... 
ก็มีมรึงกรู นายโอ้ต นายโจ นายนพ นายทอม นายแนทไง......... 
พอดีจำนวน พอดีคนเป้ะเลยวะ...................................... 
เอ้าเจอร้าน ดีคิ้วน่ะเว้ย..........................4ทุ่ม....... 
เออเจอกัน.................................................................................. 
.................................................... 
4ทุ่มแย้ว เนื่องจากคนเขียนใจร้อน........ 
ถึงหน้าร้าน วันนี้หล่อสุด เนี้ยบสุด 
แต่งกึ่งหรู เพราะไม่รู้หญิงที่มาระดับไหน 
เดี้ยวแต่งไฮโซเกินไปหญิงมาโทรอาจจะซวยได้ 
แต่ถ้าแต่งเซอร์มาแล้ว หญิงไฮโซมาก็อาจมีน้ำตาร่วงนั่งตบยุงในร้านคนเดียวได้ 
เพราะฉะนั้นแต่งงี้ดีสุดครับ มันกึ่งๆดี ถึงจะไม่ได้โดดเด่น 
แต่ก็พอคบ พอรับได้ 
จะน่ารักขนาดไหนว้า ผมคิดพลางดิ้นเร่าๆหน้าร้าน 
จนเด็กหน้าร้านมอง เล่นเอาอายเดินหนีแทบไม่ทัน 
ขนาดผมเดินออกมาแล้วน่ะครับ ยัง....................... 
มองตามผมอยู่เลย 
มันคงคิดล่ะมั้งครับว่า ยังไม่ดึกเลยนายนี่เมาแล้ว........ 
ไปนั่งซุ่มแถวหน้าร้านครับ ใจจริงด็ไม่อยากซุ่ม 
แต่บรรดาเพื่อนๆเวรของผมทั้งหลายยังไม่มา(กรุงเทพรถติดแถมวันเสาร์ด้วย) 
จะให้ไปนั่งจองโต้ะในร้านคนเดียวก็ฝันไปเถอะครับ 
ผมเหงา แล้วอีกใจก็ยังอยากแอบดูก่อนว่าสาวที่นายบอยบอกสวยๆของมันจะขนาดไหน 
แบบว่าถ้าเป้นกระเทยควายอีกคราวนี้จะได้หลบเลี่ยงได้ทัน...... 
ผมรอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะมีใครมาสักที 
ฉุนเลยครับฉุน เดินไปเข้าห้องน้ำ........ 
ว้าย............................................................... 
เธอก็เห็นผมเหมือนกันนะครับผมว่า.... 
เธอหันมายิ้มให้....................... 
สาวกลางคืนเรียบร้อย? ผมถามตัวเอง งงๆเหมือนกัน 
เห้ย ยืนบังหน้าร้านอยู่นั่นแหละ เดี้ยวคนเขาก็หาว่าเสี่ยว เป็นเด็กหัดเที่ยวหรอก 
ไปเว้ยเข้าไปข้างในกัน......................นายบอยเสนอความคิด 
ผมสังเกตมาหลายทีแล้ว นายบอยเวลาอยู่ต่อหน้าหญิงมักจะฉลาด.... 
เหมือนเวลาสุนัขเห็นอาหารสั่งอะไรแมร่งเป็น รู้หมด 
บอยเดินอาดๆเข้าไปทำเท่.......... 
ให้พนักงานหาโต้ะให้นั่ง 
แต่ด้วยเวรกรรมที่มากันเยอะ เลยได้นั่งด้านในร้าน 
มุมที่ผมนั่งยิ่งซวย จะดูอะไรบนเวทีทีนึง ต้องเอียงคอซะเกือบสุด 
ช่างมัน มาดื่มเหล้าไม่ได้มาดู เขาร้องเพลงอ่ะไร 
ที่จัดแบบว่า ชายฝั่งหนึ่งหญิงฝั่งนึง....... 
แล้วคนที่มานั่งกับผม ฝั่งตรงข้ามผมตอนนี้เลยก็คือน้องคนนั้น..... 
ผมแอบยิ้ม ดีใจที่จะได้มีโอกาสคุยกับเขา 
เห้ย แมร่งยิ้มเลยว่ะ ดูเดะ นายโจตะโกนบอกเพื่อนๆทุกคน... 
สราด..................มันแอบดูหน้าผมกันครับ 
อายแทบเอาปี้บคลุมหัว แต่ก็ยิ่งยิ้มเข้าไปใหญ่ 
มันเหมือน ดีใจที่พวกมันแซวนิดๆ 
แต่ที่ทำให้ผม รู้สึกดีที่สุดก็คงเป็นภาพที่น้องเขา ยิ้มให้ผมเหมือนกัน 
น้องครับ คุยได้นะครับ พี่คนนี้ยังไม่มีแฟน บ้านรวย นิสัยดี หน้าตาก็พอใช้ได้อ่ะครับ 
นายบอยเริ่ม บรรยายสรรพคุณผม เหมือนเป็นสินค้าลดราคา 
แถมมันรู้ใจด้วยนะครับ ยังอุตสาหทิ้งท้ายคำว่าไม่มีแฟนไว้ให้ผม.... 
น้องเขายิ้มให้บอยพยักหน้า 
เทียนที่ตั้งบนโต้ะ ส่องขึ้นมายิ่งทำให้น้องเขาดูสวยขึ้นอีก 
ผมก็ได้แต่เขินเอามือเกาหัว ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง 
ผมเงียบ.................... 
เธอก็เงียบ....................... 
อนิจจาแห้วแน่ผม 
ไม่รู้สิครับไม่กล้าคุยกับน้องเขา..... 
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงคุยกันไปหลายสิบจบแล้วล่ะครับ 
แต่ผมกลัวว่าถ้าคุยไปแล้วน้องเขาจะไม่คุยด้วย คงแป้ก+หน้าแตกกระจายแน่นอน 
เอาไงดีว่ะกรู ผมถามตัวเอง หันไปมองคู่อื่นๆแล้วอิจฉา 
นายบอยเลวกว่าเพื่อนครับ มันจับมือแล้ว 
คอยดูครับคอยดู เรื่องถึงหูน้องเจนแน่(ถ้ากรูไม่ได้)เหอ เหอ 
หันมาอีกที มีเหล้าแก้วนึงมาตั้งตรงหน้าผม 
เงยหน้าขึ้นมาดู น้องคนนั้นยิ้มให้ 
นี่เธอชงเหล้าให้ผมเหรอเนี่ย 
หยิบขึ้นมาดื่ม ขอบคุณน้องเขา 
น้องเขาเขินหน้าแดง ทำอาย ก็ยังไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม....... 
แต่ไม่รู้สิครับ ถึงน้องเขาจะไม่พูด แต่ท่าทางก็ทำให้ผมใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยๆ 
แบบว่าน้องเขาน่ารัก สรัดๆอ่ะ 
ชื่ออะไรครับ ผมถาม ตั้ง10นาทีกว่าจะถามชื่อ 
ไม่เคยรุกสาวคนไหนช้าขนาดนี้มาก่อน...... 
แต่น้องเขาก็ยังเงียบ.................................... 
เวรแล้วผม ที่คิดไว้มันเป็นอย่างที่คิดจริงๆ 
น้องเขาเงียบ ผมก็เงียบตาม........................................... 
ทำไงดีว่ะกรู..........................สาวเจ้าไม่เล่นด้วย....ได้แต่ก้มหน้า ปลง 
“จูลค่ะ........” 
เหมือนเสียงอะไรแว่วมาโดนหู 
ผมเงยหน้าขึ้นมาดูเห้นน้องเขาอายม้วนเป็นแยมโล 
อืม................. เราชื่อเจมน่ะ นั่งแหละครับคือการเริ่มต้นบทสนทนาของเรา..... 
จูลน่ารักครับ จริงๆให้ดิ้นตาย 
ถ้ามีความเป็นผู้หญิงแบบเต็มร้อย(อาจเกิน100ด้วยซ้ำ) 
เธอมีสิ่งที่ผู้หญิงปัจจุบันน้อยคนนักจะมี 
เธอขี้อายจนถึงขึ้นติดอันดับ กินเนส... 
ผมยังตลกอยู่เลยที่เธอเล่าว่า เคยมีผู้ชายมาจีบ 
เธออายจนเป็นลมไปเลย กรรมจริงๆ 
แต่เธอก็คุยสนุก เธอยิ้มฟังทุกเรื่องที่ผมเล่า 
เขินในตอนที่ผมชม คอยยกน้ำ ยกเหล้าให้ 
เธอชงเหล้าอ่อน ถึงอ่อนมาก 
เธอบอกไม่อยากให้ผมดื่มมากเดี้ยวจะกลับบ้านไม่ไหว................ 
เป็นห่วงคนที่เจอวันแรกอย่างผมอย่างจริงจัง 
แล้วตอนที่ผมประทับใจที่สุดก็ตอนที่เธอเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้ผม 
เพราะผมเริ่มปากรั่ว..................(เมานิดๆ) 
มันทำให้ผมรู้สึกว่าเธอน่ารักมากเลย................................... 
จูลไม่น่า จะมาสถานที่แบบนี้น่ะครับ ผมถามเธอเป็นคำถามที่18 
จูลก้มลงไปชงเหล้าส่งให้ผมอีกแก้ว ก่อนจะหันมาตอบช้าๆนิ่มๆ 
ค่ะ นี่ก็เพิ่งเคยมาครั้งแรก เพื่อนชวนมา..... 
เสียงดังดีจังเลยน่ะค่ะเนี่ย เธอมากระซิบข้างๆผม 
ครับ แล้วจูลชอบที่นี่ไหมครับเนี่ย ผมถามทั้งๆที่รู้ว่าจูลคงจะไม่ชอบ 
ก็แค่ถามเพื่อย้ำความรู้สึกของตัวเองที่ว่าเธอไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้เลย 
ค่ะ ชอบค่ะ.....จูลตอบ 
ชอบ? เหรอครับ ทำไมล่ะครับ ผมถาม ตกใจ 
เพราะจูลได้เจอเจมไงค่ะ 
................................................ 
เว้ยเห้ย นี่เรียกว่าหยอดหรือเปล่าเนี่ยจูล 
.............................................. 
แล้วแต่เจมจะคิดแล้วกันค่ะ.....จูลตอบ 
อ่าวงี้สวยสิครับ ให้ผมคิดงี้ ผมแอบอ้างได้เลยนะครับเนี่ยว่าจูลชอบผม... 
ค่ะ ถ้าเจมคิดงั้น เจมก็อ้างได้ค่ะจูลๆไม่ว่าหรอก.... 
แล้วจูลก็เงียบไปเลยครับ...... 
คู่อื่นไปไกลถึงดาวอังคารแล้วครับ ไปไกลพอๆกับเวลาที่ไหลไปเรื่อยๆเลย 
ผมดื่มเหล้าแก้วที่ 6 ย้อมใจ 
ไม่แน่ใจเลยครับ ว่าจูลจะชอบผู้ชายอย่างผม 
เอาว่ะไม่จีบก็ได้.................................. 
เดินไปเข้าห้องน้ำ เซไปเซมา เพราะเริ่มเมา 
เดินออกมานอกบาร์ สะบัดหัวนิดหน่อย เดินตรงไปห้องน้ำ 
แต่ก็มีมือเล็กๆ มาจับที่ไหล่ 
ผมตกใจหันไปดู เห็นจูลยิ้มอยู่....... 
เจม ดูถ้าจะไปไม่ไหว จูลช่วยน่ะค่ะ จูลพูดโยไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ 
ขอบคุณน่ะครับ จูล ผมเกรงใจเธอ 
ให้ตายสิความจริงผมแค่มึนๆเองน่ะ 
6แก้วนี่ยังไม่ถึงกับเดินไม่ไหว 
แต่จูลเขาอุตสาหหวังดีสักทีนี่ครับ ก็เลยเลยตามเลย 
เกาะแขนจูล เดินลากเท้าให้มันช้าๆ ได้กลิ่นแชมพู 
เราสองคนเดินกันไปเงียบๆ 
จูลยืนรอผมหน้าห้องน้ำ 
ผมก็เดินไปล้างหน้า 
ล้างหน้าไปก็แอบมองครับ จูลยืนอยู่ดูเธอตื่นสถานที่มากเลยครับ 
นึกๆไปก็น่าสงสาร ถ้าไม่อยากมา เพื่อนๆจูลก็ไม่น่าลากมาแบบนี้ 
ผมเดินออกมา จับหัวจูล 
จูลตกใจ ปัดมือผมออก....................... 
จะทำอะไรค่ะเธอถาม........... 
ผมได้แต่ยิ้มให้ 
แบมือให้เธอเห็นทั้งสองมือว่าไม่มีอะไร 
ผมได้แต่เอามือจัดผมให้จูลก็เท่านั้น.......................... 
เห็นมันยุ่งๆ เลยเผลอไปหน่อย ขอโทษน่ะครับ.....ผมบอก.. 
จูลได้แต่เขินหน้าแดง................หันหน้าไปอีกทาง 
แล้วก็รีบเดินไปเลย 
ไรเนี่ย ตอนมาก็ดีน่ะมาพยุง ทีตอนกลับนี้ปล่อยผมกลับเองเลยใช่ป่ะ 
แล้วผมก็นึกอะไรดีๆได้ครับ 
............................ 
...................... 
ผมแกล้งล้ม เดินไม่ไหว............ 
อย่าให้คุยครับอย่าให้คุย เวลาผมแกล้งเมาแล้วล่ะก็ 
น้อยคนมากๆที่จะดูผมออกว่าเมาจริงหรือไม่จริง.....(แบบว่าเนียนโคตรๆ) 
เจม.................. 
จูลตกใจ วิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม 
เจม................เจมเป็นอ่ะไรหรือเปล่า ไหวไหม มาค่ะ จูลช่วย 
แล้วเธอก็พยุงผมอีกครั้ง........... 
ผมแอบหันไปมองหน้าจูลจากด้านข้าง 
สำนึกผิดเล็กๆ จูลทำหน้าแบบห่วงผมมากๆ 
มากจนผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เราเพิ่งจะรู้จักกัน 
เจมไหวไหม...................... จูลหันมาถามผมอีกรอบนึง.... 
ผมได้แต่ส่ายหน้า กลิ่นผมของจูลหอม ตัดกับผมที่ดำสยาย 
ไม่ผ่านแม้การย้อมใดๆ 
หน้าตาจูล ที่แสดงว่าเป็นห่วงผมจริงๆ 
จน ผมเผลอคิดอะไรไปหลายๆเรื่อง 
ก็นี่ขนาดผมแค่เมาเหล้า จูลยังเป็นห่วงผมขนาดนี้ 
นี่ถ้าผมเป็นอะไรไป จูลก็คงจะดูแลผมได้แน่เลย...... 
จูลนั่งก่อนน่ะ ผมชี้ไปที่โต้ะมาหิน ที่วางต่อๆกันที่มุมๆนึงก่อนถึงร้าน 
เจมอยากนั่งเอาอากาศบริสุทธิแป้บนึงได้ไหม.... 
ผมแกล้งหมดแรง ยิ่งทำให้จูลยิ่งดูร้อนใจเข้าไปอีก 
จูลแบกผมกึ่งทุรักทุเลไปที่เก้าอี้ตัวนั่น....... 
พาผมนั่ง พยุงผมเบาๆ 
เจม รอนี่น่ะ เดี้ยวจูลจะไปเอาน้ำมาให้ จูลบอกพร้อมวิ่งไปหาน้ำมาให้ผม..... 
ผมแหงนหน้ามองฟ้าสีดำ ยังเหลือผู้หญิงอย่างจูลบนโลกนี้อีกหรือผมคิด..... 
นี่ค่ะเจม ดื่มน้ำก่อนน่ะค่ะ 
จุลวิ่งมาช้อนตัวผมขึ้น 
ถือแก้วมาจ่อที่หน้า.......................... 
ไม่กี่วินาทีต่อมา แก้วก็กลิ้งลงที่พื้น 
น้ำ ไหลนอง..................................... 
ผมไม่ได้ดื่มน้ำหรอกครับ 
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น 
......................................... 
ผมรู้แค่ว่า ตอนนี้มีใครคนนึงอยู่ในอ้อมอกผม 
ใครคนนึงซึ่งผมกำลัง 
.................................................. 
......................................... 
“จูบเธออยู่” 
สัมผัสอุ่นๆ หยุ่นๆจากปากของจูล 
พาผมเคลิ้ม................................... 
เราไม่ได้จูลแบบผู้ใหญ่น่ะครับ แต่แค่เอาปากปะกบกัน 
อกผมก็แทบจะระเบิดตายตรงนี้อยู่แล้ว....... 
ผมไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีใครสักคนที่จะหยุดมันได้แล้ว... 
ลมหายใจของจูล รดที่หน้าผมเบาๆ 
ผมลืมตา แต่เธอปิดตาพริ้ม.................................... 
ผมดึงจูลออก มองเธอเหมือนเกิดอะไรขึ้น 
.................................................. 
จูลหันมายิ้มให้ผม............ยิ้มหวานที่สุดในชิวิตที่ผมเคยเห็น 
เธอดูเหมือนมีความสุขมาก ตรงข้ามกับผมที่ไม่มีความสุขเลย 
มันเกิดขึ้นได้ยังไง? 
เหตุการณ์มันเร็วมากๆ ยิ่งหันไปดูเห็นจูลนั่งเขินๆ 
เธออาย แก้มเป็นสีชมพูนิดๆ มองมาทางผมเหมือนจะรอผมพูดอะไรสักอย่างกับเธอ 
แต่.................................. 
ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่เลยสักนิด..... 
เจม รู้สึกยังไงคะ จูลถามผม.......... 
ดีครับ ดีมากๆเลยครับ............ 
ผมหันไปตอบยิ้มให้จูลแบบเจื่อนๆ 
จะให้ผมตอบเหรอว่า มันแย่สับสน และไม่รู้สึกอ่ะไรเลย 
ผู้หญิงถึงขนาดยอมให้จูบ ถ้าเขาไม่รักคงไม่ให้.... 
นี่เป็นจูบครั้งแรกของจูลเลยน่ะค่ะเจม จูลบอกผม 
จูลรู้ เจมคงไม่ใช่ครั้งแรก แต่จูลดีใจน่ะที่เจมเป็นคนแรกของจูล 
นี่เจม........................ 
“ครับ” 
รักจูลบ้างไหมค่ะ.......................... 
................................................ 
อืม..................เอ่อ...........รักสิ..... 
ผมตอบไปแบบเสียมิได้..... 
ใช่ผมโกหก แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ.... 
จูบครั้งแรกของผู้หญิงทุกคน 
เธอคงจะเก็บเป็นความทรงจำที่ดีไปแสนนาน....ตลอดไป 
เธอจะรู้สึกยังไงถ้าผมบอกว่า “ไม่” 
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไป........ 
กลับไปที่ร้านกันเถอะค่ะ จูลส่งมือมาให้ผม.... 
ผมยิ้มแห้งๆ ส่งมือให้เธอ ถ้าถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง 
ผมตอบไม่ได้หรอกครับ.................. 
จูลจูงมือผม มือเธอกระซับแน่น....... 
แน่นราวกับจะไม่ปล่อยมือผม 
แค่คืนเดียว? อย่าบอกน่ะว่าเธอรักผม มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? 
แต่จูลดูเหมือนมีความสุข 
เธอเดินจูงมือกับผมกลับเข้ากลุ่มเพื่อน..... 
หน้าเธอยิ้ม เพื่อนๆเธอก็พลอยยิ้มตาม 
แต่แน่นอนที่ผมไม่ยิ้ม เพื่อนๆผมก็ไม่ยิ้มตามไปด้วย 
นายบอยทำหน้าเหมือนจะถามว่า เกิดอะไรขึ้นว่ะ? 
ผมได้แต่ยิ้มตอบ...................... 
เหล้าผ่านคอไปอีกแก้ว.............กลุ้มใจชิบ 
...................................................... 
กลุ้มใจ ผมจะเอายังไงกับจูลดี 
ยังไงผมก็ต้องให้คำตอบ 
ทุกอย่างมันต้องเครียลก่อนคืนนี้....... 
จูล............ ผมกระซิบข้างหูเรียกชื่อเธอ 
เอ่อ...................เรามีบางอย่างจะบอก..... 
ไม่เป็นไรหรอกเจม..................................... 
จูลรู้ แล้วเธอก็หันไปคุยกับเพื่อนๆของเธอต่อ 
รู้อะไร? จูลรู้อะไร จูลเข้าใจเหรอว่าตอนนี้เจมเป็นยังไง 
........................................................ 
เงียบ.......................... 
ไม่มีใครรู้ว่าผมกลุ้ม เพราะมันมืด... 
เวลาผ่านไปจนถึงเวลากลับ 
มีไปต่อเป็นบางคู่..... 
ต่างคนต่างแยกย้าย ผมว่านะทุกทีเพื่อนๆผมจะห่วงใยผมดีมากๆ 
รู้ทันทีเลยมั้งเวลาผมมีปัญหาอ่ะไร แต่ข้อเสียของพวกมันก็คือเวลาเจอหญิงนี่แหละ 
มันลืมหมดทุกอย่างเลย-“-(พวกเวร) 
ผมเลยเหมือนอยู่โดดเดี่ยว 
คู่นายโจไปแล้วครับ คู่สุดท้ายที่ลาผม 
นายโจหันมาขยิบตาให้ผม ทำนิ้วสู้ตาย ออกไปพร้อมผู้หญิงคนนึง 
เอ้อ.........................สบายใจจังนะนายนี่..... 
ผมหันไปมองจูล 
เธอนั่งดื่มน้ำอยู่ 
นี่ผมจะทำยังไงดี? 
ผมเดินไปนั่งข้างๆจูล เกาหัว 
ดูเธอเมาเสียแล้ว ทั้งๆที่เธอก็กินไปแค่ไม่กี่แก้ว......... 
จูล อยากไปไหนครับ ผมถาม...... ถามเป็นพิธิ เพราะใจจริงอยากส่งเธอกลับบ้านมาก.... 
.................................... 
ไปไหนก็ได้ค่ะ ที่มีเจม เธอตอบ.................ให้ดิ้นตายสิครับ เวรแล้ว 
เดินออกมาด้านนอกลานจอดรถกับจูล 
ไม่ได้ออกมาเปล่าๆน่ะครับ 
มือ......................ผมยังจูงกับจูลอยู่เลย....... 
ยอมรับครับว่าแกล้งเมา รู้ตัวน่ะครับรู้ตัวทุกอย่าง 
ไม่ว่าจะเดิน จะพูดอะไร...........หรือจับมือจูลอยู่ตอนนี้ 
ปัญหาของผู้ชายทั่วไป รู้ว่าผิดแต่ก็คิดจะทำ.. 
ผมพาจูลนั่งที่ ที่กั้นรถ 
จูลเมาแต่ก็ยังหันมายิ้มให้ผม.......... 
มองทำไมค่ะ หน้าจูลมีอะไรติดเหรอ เธอถามผม.... 
เปล่า คืนนี้จูลน่ารักน่ะ....... ผมแกล้งชม จะให้ผมตอบไปว่าไงเหรอครับ 
จะให้ผมบอกว่าผมมองเพราะเธอน่ารักเหรอ..... 
แต่จูลก็ยิ้ม 
จริงๆเหรอเจม ดีใจน่ะค่ะ แล้วเธอก็มาพิงผม....... 
รู้ว่าผิด..แต่ผมก็ไม่กล้าพอที่จะพลักเธอออก ได้แต่นั่งนิ่งๆ ดูเธอหายใจรดต้นคอ(woo...za) 
จูลไม่กลับบ้านเหรอ ผมถาม 
อือ ไม่กลับหรอกจะอยู่กับเจม......เธอตอบแบบกล้ามาก 
ไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกเลย 
เห้ย ยิ่งต้องกลับเลยเงี้ย เดีย้วที่บ้านเป็นห่วงน่ะ....... ผมบอก 
ไม่เป็นไรเจม จูลบอกที่บ้านไว้แล้วค่ะ ว่าจะไปค้างกะเพื่อนที่มหาลัย..... 
เหรอ................................................ 
นี่จูลมาเที่ยวครั้งแรกหรือเปล่าเนี่ย...... 
อือ....................ครั้งแรก.....เจม 
หือ? 
เจมเป็นห่วงจูลเหรอ........ 
อืม ก็นิดนึง ผมพูด ทำท่านิ้วเล็กๆ 
เจมใจดีจังน่ะค่ะ จูลดีใจน่ะที่มาเจอเจม..... 
ตอนแรกจูลคิดว่า ผู้ชายที่เที่ยวกลางคืนทุกคนจะหวังแต่อย่างนั้น 
จูลถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาตลอด...... 
จูลก็เชื่อน่ะเลยไม่เคยออกมาเที่ยวเลย........ 
เชื่อจนถึงต่ะกี้ จนเมื่อเจอเจม........ อย่างน้อยผู้ชายกลางคืนก็ไม่ได้แย่ไปหมดทุกคน.... 
........................................................... 
............................................. 
ไม่หรอกจูล มันอาจไม่เป็นอย่างที่จูลคิดก็ได้ 
เจมก็ชั่วจูลชั่วมากเลย................ผมบอก แต่จูลก็ยังนั่งตาแป๋วมองมาที่ผม.... 
สายตาเธอเหมือนเชื่อใจผมมาก....... 
จูล เจมมีอะไรจะบอก........พร้อมที่จะรับฟังไหม ผมถามสีหน้าผมไม่บอกก็คงรู้น่ะครับว่าจริงจัง 
“ค่ะ” 
เจมมีแฟนแล้วน่ะ......ผมบอก 
อือจูลรู้เจม ผู้ชายอย่างเจม ไม่มีทางหรอกที่จะไม่มีแฟน 
อ่าว? ในเมื่อจูลรู้แล้วว่าเจมมีแฟน 
จูลจะยัง ต้องการอ่ะไรอีกล่ะครับ.......ผมถาม 
ไม่ต้องการอ่ะไรหรอกเจม จูลไม่มีสิทธิขนาดนั้น จูลพูดพลางเดินไปที่ถนน 
ดึกแล้ว............................รถกลางคืนน้อยเหลือเกิน 
แต่แสงนีออนสีส้มก็ส่องกระทบผมที่ยาวสลวยของจูล 
เจม.........................เคยได้ยินไหมค่ะว่า 
ไม่ต้องรัก ไม่ต้องแคร์ ขอแค่ได้รัก ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ.... จูลถาม 
ผม ได้แต่ส่ายหัว ตาก็มองไปที่จูล ดูเธอจะเมามาก....เมาจนเพ้อเลยครับ..... 
แต่เราเพิ่งรู้จักกันน่ะ........................ 
จูลจะมารักอะไรเจม จูลรู้จักเจมดีแล้วเหรอ.....ผมถาม 
มึนหัวนิดๆ 
จูลไม่ตอบ เธอได้แต่เดินกลับไปกลับมาตรงฟุตบาท 
มือก็กางออกสองข้าง เหมือนเธอทำท่าจะบิน........ 
เธอหันมายิ้มให้ผม.......... 
ไม่รู้สิเจม ก็มันรักไปแล้ว..............จะให้ไม่รัก 
จูลทำไม่ได้หรอก........................... 
เจมไม่ต้องรักจูลหรอก 
ขอแค่จูลได้รักเจม แค่นี้ก็พอแล้ว ได้ไหมค่ะ 
จูลพูดพลางเดินเข้ามาหาผม ส่งมือให้ผม 
ได้ไหมค่ะ? เธอถามย้ำสายตาออดอ้อน 
ผมนั่งคิด................... 
ถ้าผมบอกว่าไม่กับจูล ในฐานะแฟนของมินมันก็ดี แต่ถ้าในฐานะของคนคนนึง 
ผู้ชายธรรมดาคนนึง.........มันจะเป็นเรื่องที่แย่มากเลยครับ..... 
เจมนี่ดื้อจริงๆเลย...................... จูลบอกมานั่งลงข้างๆ 
ไม่เป็นไรเจม จูลไม่บังคับหรอก 
ขอโทษน่ะค่ะที่ทำให้ลำบากใจ..........เอ้าเอียงหูมานี่ 
จูลมีอะไรจะบอก.................. เธอบอกผมตางี้เป็นประกายเลยครับ 
ผมก็อยากรู้ว่าเรื่องอะไร ได้แต่เอาหูเอียงไปก็เท่านั้น 
แล้วจูลก็หอมผมไปเต็มๆ.... 
เล่นเอาผมตกใจ ถอยกรูด เอามือจับแก้ม....... 
จูลทำอะไรน่ะผมถาม 
เธอไม่ตอบ ได้แต่ส่งยิ้มบ้ายบายๆ 
กระโดดขึ้นรถที่เธอขับมา แล้วออกรถไปเฉยเลย.......... 
ผมได้แค่ยืนนิ่งจับแก้มอยู่ที่เดิม 
สัมผัสอุ่นๆยังไม่จางหาย..... 
ใจผมเต้นให้ตาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม 
กลับบ้าน เดินไปตู้เย็นหยิบน้ำมาดื่ม 
ใจนึกบอกตัวเองไม่ให้คิดถึงจูล......แต่มันก็คิด(เวง) 
จูลน่ารักชิบหาย........................ผมบ่นกับตัวเอง 
ใจนึงก็รู้สึกผิด....เราไม่ควรคิดถึง 
ความคิดมันไม่เหมาะเลยสำหรับคนที่มีแฟนแล้วแบบผม 
เดินขึ้นห้อง กระโดดขึ้นเตียง ปิดตานึกถึงเหตุการณ์ณ์ที่ผ่านมา 
ทุกอย่างเลือนรางจำได้แค่คร่าวๆ 
แต่รอยยิ้มจูลกับชัดเจน กอดหมอนข้างแน่น 
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 
นี่ตูเป็นอะไรเนี่ยผมคิด เตะหมอนข้างกระเด็นไปข้างห้อง 
มีมินแล้วนะเว้ย มิน มิน มิน มิน 
ผมพร่ำบอกตัวเอง....................... 
“เพลงมือถือดังขึ้น ทำเอาสะดุ้ง” ดีจะได้สร่างเมา 
หยิบจากกระเป๋ามาดู เบอร์มินโชว์หรา 
ฮัลโหลว่าไงที่รัก ผมพูดกับมิน พยายามทำเสียงให้เป็นปรกติ 
เจมกลับมานานยังค่ะ มินถามเสียง งัวเงีย 
ก็นานแล้วล่ะมิน ผมเหลือตาดูนาฟิกา ตี3ครึ่ง o_0 
เวงกรรม แม่คุณอุตสาห์ตื่น.......เพื่ออะไรเนี่ย 
เจม มินง่วงจังเลยค่ะ แต่มินเป็นห่วงเจมจังเลย...... 
อือ ขอบใจน่ะมิน เจมถึงบ้านแล้วล่ะไม่ต้องห่วงนะครับ มินไปนอนเถอะ 
ผมพูดตัดบท เพราะผมเองก็ไม่มีอารมณ์จะคุยเท่าไรห่ 
เจม.................... มินคิดถึงเจมน่ะค่ะ เธอพูดเสียงเหมือนจะหลับเสียให้ได้ 
จ้า เจมก็คิดถึง ฝันดีน่ะครับ ผมตอบ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย 
เจม....................มินเรียกเสียงอ้อนอีกครั้ง 
“หือ” 
ห้ามเจ้าชู้น่ะ แค่นี้แหละค่ะ บาย.... 
แล้วมินก็วางสายไป 
ทิ้งไว้แต่ผมถือยืนถือสายอึ้ง!!!!!!!! 
มินรู้อ่ะไรมาหรือเปล่าเนี่ย..... 
เช้าวันต่อมานั่งตาคล้ำ 
ใช่ครับแทบไม่ได้นอน 
เอาตรงๆ คือนอนไม่หลับ 
เพราะแค่ภาพจูลที่หลอกหลอนก็แย่แล้วครับ 
นี่พ่วงมินมาอีกคน ทำเอาแทบบ้า..... 
ถึงมหาลัยเลยไปนั่งงัวเงียกับเพื่อน........ 
พิงเขาไปทั่ว คนไหนยอมให้พิงก็นอนตรงนั้นแหละ 
เพื่อนผู้ชายอย่าหวังครับว่าจะได้พิง 
มันบอกเหมือนคู่เกย์ไม่อยากเสี่ยง....... 
สุดท้ายทำใจ เลยต้องนอนพิงเสา T_T เศร้า..... 
มินยังไม่มา......เนื่องจากวันนี้ผมไปรับไม่ไหว 
เธอเลยต้องนั่งรถมาเอง....... 
ผมก็สงสารมินน่ะครับ แต่ผมสงสารตัวเองมากกว่า 
ขับรถมาถึงมหาลัยตอนเข้าได้ ผมยังว่าปาฎิหารย์เลยครับ! 
ตูรอดมาได้ไงเนี่ย...................ตาแทบไม่ได้เปิดดูถนน 
ผมยังจำตอนอาบน้ำแต่งตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่แน่ผมอาจมาแห้งๆก็ได้.... 
เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ ผมคิด ขอนอนก่อน 
วาวาเดินมาเห้นเจมนอนกอดเสา 
เธอเลยดึงผมไปนอนหนุนตัก(สงสัยอนาถ) 
เก๋าไม่เก๋า วาวา ก็ตะเพิด เพื่อนๆให้หลีกที่ให้ผมนอนได้ล่ะกัน 
ทุกทีผมก็ไม่นอนหรอกน่ะครับ มันเสี่ยง(ตาย) 
แต่วันนี้ตักวาวาอุ่นชิบเลย ซุกเหมือนหมอนอุ่นๆใบนึง 
สุข สราดดดดดดดดดดด อะ 
รู้สึกอบอุ่น เหมือนเด็กหนอนหนุนตักแม่ 
หลับเพินเลยครับ แต่ก็ต้องสะดุ้ง 
ทำไมเจ็บหูจังฟ่ะ ใครแกล้งผมเนี่ย 
............................... 
....................... 
ตาไม่อยากเปิดแต่หูมันเจ็บ 
มินครับ มินแน่นอนตามความคาดหมาย 
เธอยิ้มหวาน แต่มือบิดหู......................... 
นี่แหน่ะ เจ้าชู้งี้มันต้องโดน...............มินบอก 
มือก็กึ่งลากกึ่งจูงผมไปเรื่อย..................... 
ผมทำอะไรผิดมากเหรอครับ แค่นอนตักวาวาแค่นี้ผิดมากเหรอ?(ผิดเด่ะ) 
มินดึงให้ผมลุกจากตักวาวา ตัวผมลอยตามเลยครับ 
โถ่มิน....................แค่นี้เอง ผมบอกตามองมิน..... 
แค่อะไรเธอหันมาถาม ดุชิบ 
ผมขอถอนคำพูดครับที่บอกว่ามินเป็นสาวสวย เรียบร้อยน่ารัก 
ตอนนี้ตาสว่างแล้วครับว่าผิดมหัน 
ดุ ขี้หึง เอาแต่ใจ แถมขี้งอน.........นี่เลยครับนิยามของมิน 
ย้อนนึกถึงวันเก่าๆ ที่มินบอกว่า อะไรก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง ขอแค่ได้อยู่กับผมเสียจริง....... 
มิน เจมเหนื่อยมากน่ะ เจมแทบไม่ได้นอนเลย.....ผมพยายามอธิบาย 
แล้วมันเกี่ยวอ่ะไรกับตักวาวาล่ะ? มินถาม....... 
โถ่มิน หึงไปได้ ก็เจมไม่มีที่หนุนนี่นา 
กอดเสามันก็ไม่อุ่น นอนไม่หลับ มินก็รู้นี่ว่าเรากับวาวาไม่มีอะไรจริงๆ ผมพูดยืนยัน....... 
จะบ้าเหรอเจม....................เห็นมินตาบอดเหรอ 
ถ้าอยากนอนมาก ทำไมไม่ไปหนุนตักนายบอยล่ะ เพื่อนๆเยอะแยะ 
มาหนุนตักวาวาทำไม? 
วันนี้ก็ให้มินมาเอง..........................นี่เหรอสิ่งที่เจมทำกับมินน่ะ.....มินถามงอแงหนักมาก 
.................................................. 
ไม่มีอะไรจริงๆมิน วาวาพูด...... 
จังหวะพอดีกับตอนที่ผมเถียงอ่ะไรไม่ออก....... 
เจมมันเหนื่อย นอนกอดเสา เราเลยเอามาหนุนตัก ถ้าจะผิดก็ผิดที่เรา 
มินด่าเราเถอะ วาวาบอกมองไปทางมิน 
.................................................... 
มินไม่พูด เหมือนเธอกำลังยืนคิดอะไร....... 
ไม่มีอะไรแน่น่ะ มินถาม..... เสียงไม่ค่อยแน่ใจ 
.................................................. 
อือ สิมินหึงไปได้ แกก็รู้ใช่ป่ะว่าเจม มันรักแกขนาดไหน...วาวาบอก 
มินหันมามองผม ผมพยายามยิ้มหวานให้สุดชิวิต(เพื่อชิวิต) 
อือ...................... 
อย่าให้มีอีกล่ะกัน.........มินพูด เดินมาจับมือผม..... 
ปลอดภัยแล้ว สงครามครั้งนี้จบเร็วมาก 
จนผมแอบพนมมือไหว้เจ้วาวาไปสามที-/\- 
แล้วมือถือก็ดัง.............. 
ใครโทรมาตอนนี้ว่ะ ผมหยิบขึ้นมารับสาย..... 
เบอร์ไม่คุ้นเลย 
ฮัลโหลใครครับ? ผมถาม....... 
สวัสดีค่ะ นี่เราเองน่ะเจม......เสียงที่คุ้นหูลอยมาตามสาย 
ใครอ่ะครับ? ผมถาม..... 
เราไงคนที่เมื่อคืนเจมยังจูบด้วยอยู่เลย...... 
จูลเหรอ................?ผมถาม งงครับงง จูลเอาเบอร์ผมมาจากไหนเนี่ย 
ใช่ จูลเองค่ะ...................เจมจูลขอเบอร์มาจากเพื่อนเจมมาค่ะ 
คนที่ชื่อบอยอ่ะ.............(ว่าแล้ว-_-“)มีนายนี่ตัวเดียวแหละ.... 
นี่เจม.............จูลโทรมารบกวนหรือเปล่า? 
ผมเงยหน้ามองไปรอบๆ 
มินยืนคุยกับวาวา สถาณ์การณ์ตอนนี้ไม่เหมาะแก่การคุยอย่างยิ่ง 
(พลาดมาอาจตายได้) 
ก็นิดๆแหละ ตอนนี้เรากำลังจะเข้าเรียนพอดีเลย 
เดีย้วค่อยคุยกันน่ะ ผมบอกจูลไป พยายามเดินหลบออกมาคุยด้านนอก...... 
ไม่อยากให้ จูล มิน หรือวาวารู้....... 
ไม่ใช่เพราะผมเจ้าชู้น่ะ แต่เดีย้วมันจะเป็นเรื่องเปล่าๆ 
อือ ก็ได้ค่ะเจมเรียนเสร็จกี่โมงล่ะค่ะ..... 
พักช่วงไหน.......... 
แล้วกินอะไรรองท้องก่อนเรียนหรือยัง............ 
จูลเป็นห่วงน่ะ.....จูลยิงคำถามผมเป็นชุดๆเลยครับ 
....................................................... 
.............................................เยอะจนผมตอบไม่ถูกเลย...... 
แต่ผมยังไม่ทันตอบเลยครับ จูลก็แย่งผมพูดขึ้นมาเสียก่อน...... 
เจม...... 
จูลรู้เจมว่านี่เจมหลบแฟนออกมาคุยกับจูล... 
ขอบคุณน่ะค่ะ จูลโทรไปไม่บ่อยหรอก.. 
ตั้งใจเรียนน่ะค่ะ จูลไปล่ะ แล้วสายก็ตัดไป 
ทิ้งผมยืนงงเกาหัว........ 
เพื่ออะไรเนี่ยจูล.....................โทรมาเพื่อดูแลผมเหรอ.... 
โทรมาทั้งๆที่ผมมีแฟนแล้วเนี่ยน่ะ....................... 
เรียนไปเหม่อไปครับ เจริญ....... 
นั่งข้างมินแต่ใจนึกถึงใครบางคน.................. 
งงกับการกระทำ และที่สำคัญ ผมงงกับตัวเอง...... 
ในสมองกำลังสองจิตสองใจ 
ใจนึงบอกให้ ผมเลิกติดต่อจูลเป็นการถาวร 
โทรมาอย่ารับหรือไม่ก็คุยให้รู้เรื่องไปเลย 
มันก็น่าจะดีน่ะครับ....................... 
แต่อีกใจนี่สิ กลับไม่อยากให้จูลจากไป อาการหนักขนาดคิดไปไกลเลยครับว่า 
ถ้าคบจูล จะแบ่งเวลายังไง ทำยังไงไม่ให้มินรู้....... 
................................................................. 
................................................. 
ตอนนี้รู้สึกผิดมาก 
........................... 
ผมกำลังจะทำผู้หญิงคนนึงเสียใจ...... 
รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังมาดูหนัง ทำไงได้เขาชวน........ 
ครับตอนนี้ผมอยู่กับจูล ดูหนังเรื่อง อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต(T_Tกลัว) 
ไม่รู้ทำไมจูลเลือกเรื่องนี้............. 
เธอบอกชอบดูหนังผี แต่ผมก็ไม่เห็นเธอจะดูสักเท่าไหร่ 
เอาแต่กุมมือผมแน่น............บางทีก็มีมากอด 
ยิ่งตอนสยองๆ เธองี้ซุกอกเลยครับ..... 
-_-“หนักกบาล........จะพลักออกก็หาว่าไม่เป็นสุภาพบรุษ 
แต่ถ้ายังจับงี้มันก็ชู้ล่ะครับเอาง่ายๆ........ 
นึกในใจไม่น่ามาเลย................. 
แต่จูลก็โทรมาจิกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนี่ครับ........ 
เพื่อน......แค่นั้นผมบอกตัวเอง 
แต่พอตาเหลือบไปดูมือที่จับกันอยู่ เพื่อนบ้างมรึงดิจับมืองี้-_-“ 
ออกมาจากโรงจูลยังเกาะไม่ปล่อย 
แบบว่าหนังจบ อารมณ์ไม่จบประมาณนั้น.... 
ผมพยายามแงะครับแต่ไม่ได้ผล 
เหนียวเป็นกาวเลยครับ 
จูลมองมาที่ผมถาม 
เกาะไม่ได้เหรอ? 
สายตาโคตรอ้อนเล่นเอาหวั่นไหวตอบไม่ถูกเลยครับ 
เอ่อ...........................ไม่......ไม่...ผมตอบตะกุกตะกัก 
มองตาจูล โอ้วไม่พระเจ้า..................ทำไมเธอน่าร้ากงี้...... 
ไม่......ไม่เป็นไรจ้า T_T(ซวยแย้ว) 
จูลยิ้ม คราวนี้ยิ่งเบียดเลยครับ........ 
เดินออกมาพาจูลไปกินข้าว กินไอติม เดินซื้อของ..... 
ยังกับมาเดท....... 
ความจริงแล้วจุดประสงค์จริงๆที่ผมมาวันนี้ 
ก็เพื่อจะอธิบายจูลให้เธอรู้ว่าผมอ่ะมีแฟนแล้ว 
เพราะเวลาคุยโทรศัพท์ พอเริ่มๆเกริ่นๆเรื่องนี้ทีไร 
เจ้แกเป็นต้องขอวางทุกที (เดี้ยวน่ะแม่มาเงี้ย) ประจำ 
แต่ไหงกลายเป็นงี้ไม่รู้ 
พูดไม่ออก T_T สงสาร ทำแย่ๆกะผู้หญิงม่ะลง.......... 
ปัจจุบันอยู่ที่ร้านกิฟซ็อป......จูลขอเขาไปเดินเลือกของ 
ผมขอยืนด้านนอก เพราะเข้าไปก็มีแต่ของผู้หญิง..... 
เจม................มาดูนี่สิใช้ได้ไหมค่ะ จูลเรียกมาจากในร้าน 
ผมหันไปดูเห็นจูลรวบผม 
โคตรน่ารัก หน้าขาวๆตัดกับผมดำๆยาวสรวย....... 
ชิบหายแล้วผม ชิบหายแล้ว..... 
ใจจ้าอย่าลอยไปน้า 
โอ้ว........................................ม่าย 
เจมดูนี่สิดูนี่ จูลพูดเสียงร่าเริง 
หยิบตุ้กตาหมีใส่ชุดนักเรียนให้ผมดู 
น่ารักไหมค่ะน่ารักไหม ดูสิตาใสแจ๋วเลยอ่ะเจม 
เปลี่ยนชุดได้ด้วยน่ะ...........จูลพูด 
แต่ตาผมไม่ได้มองหรอกครับ นายตุ้กตาอ่ะไรนั่นน่ะ 
ตอนนี้ตาผมก็มองแต่หน้าจูลแล้วล่ะครับ 
น่ารัก.............. น่ารักสิ น่ารักมากด้วย......ผมเพ้อ..... 
ถ้าคนที่เห็นผมตอนนี้คงจะรู้ล่ะครับว่าผมไม่ได้ชมตุ้กตาหรอก 
กรี้ดๆ จริงเปล่าเจมงั้นจูลซื้อดีกว่า เจมรอแป้บนึงน่ะ...... 
จูลพูด หยิบตุ้กตาไปจ่ายตัง....... 
ใจนึงผมก็อยากจะซื้อให้หรอกครับ..... 
แต่อีกใจอย่าดีกว่า........... 
แค่นี้ถ้าใครสักคนของผมมาเห็นก็ตายได้แล้วครับ...... 
เจมไปกันเถอะค่ะ จูลชวนผมออกมานอกร้าน... 
ในมือถือตุ้กตาหมีตัวใหญ่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วย..... 
ถ้าทางเธอจะอารมณ์ดีสุดขีด..... 
นี่จูล ไม่ใส่ถุงเหรอ เดินถืองี้เลย? 
อือ.................ใครเห็นจะได้คิดว่าเจมซื้อให้ไง.......จูลตอบ 
ไม่ดีมั้ง........? 
ดีสิเจม................... 
.............................................. 
.............................................. 
แล้วผมก็สัมผัสถึงไออุ่นที่แขน 
จูลเกาะแขนเสื้อผม ผมได้แต่มอง.....พูดอะไรไม่ถูก.... 
ขอเกาะแค่นี้มินคงจะไม่ด่ามั้งเจม จูลพูด... 
หรือแค่นี้ก็ไม่ได้............ 
............................................. 
ผมไม่ตอบได้แต่ปล่อยให้เธอเกาะต่อไป....... 
จูลน่ารักครับ น่ารักจริงๆ........ 
โทรศัพท์เข้า 
เสียงดังเลยครับ เล่นเอาผมตกใจ........ 
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู..... 
---มิน--- 
ผมหันไปมองจูล เธอก็เห็นเหมือนผมชื่อมินโชว์หลา 
เธอปล่อยมือดูเงียบลง....... 
ผมกดรับสาย............................ 
จ้าว่าไงที่รัก..............มีอะไรเหรอจ้า......ผมแกล้งทำเสียงร่าเริง 
เปล่า มินแค่คิดถึงน่ะเจม.........มินตอบ.... 
จริงเปล่า เจมก็คิดถึงน่ะ.......... 
เจมทำอะไรอยู่เหรอค่ะ มินถาม...... 
เดินซื้อของอยู่จ้ะเดี้ยวก็กลับแล้วล่ะ.......... 
............................ มินเงียบ..... 

เจม..........ระยะนี้ไม่โทรมาหามินเลยน่ะ มีอะไรหรือเปล่า....มินถามเหมือนเสียงเธอจะเปลี่ยนไป... 
ไม่มีนิ ช่วงนี้เจมวุ่นๆน่ะ เอางี้เดี้ยวคืนนี้เจมโทรหาน่ะ.....น่ะครับ... 
เดี้ยวเจม................. 
อยู่คนเดียวหรือเปล่า? จู่ๆมินก็ถาม 
เล่นเอาผมเหงื่อตก.....กลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่...... 
คนเดียวสิ ทำไมเหรอ.........................ผมไม่รู้มินถามหยั่งงี้ทำไม 
หรือมันเป็นเซนท์ของผู้หญิง.......... 
(ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ผมโกหกครั้งแรกกับมิน) 
ผมตะโกนในใจดังลั่น......ทำไมผมไม่พูดความจริง 
ทำไมผมไม่กล้าบอกว่าผมมาเดินกับเพื่อนซื้อของ 
หรือผมเองก็ยังไม่ชัวร์กับความรู้สึกตัวเอง..... 
................................................. 
เปล่าไม่มีอะไร มินแค่รู้สึก.....อืม....เอ่อ... 
ไม่มีอะไรหรอกเจม คืนนี้โทรมาด้วยน่ะค่ะ รีบกลับล่ะ 
............................................... 
จ้า............................ผมกำลังจะวางสาย.... 
เดี้ยวเจม...................มินรั้งผมไว้ครั้งที่สอง 
................................................ 
หือ? มินเป็นอะไรเนี่ยเล่นเอาผมสับสน..... 
บอกรักมินหน่อย? ได้ไหมค่ะ........ 
หา? อะไรน่ะมิน อารมณ์ไหนเนี่ย......นี่กลางห้างน่ะ...... ผมเริ่มโวย ไม่เข้าใจกับความคิดมิน... 
เบาๆก็ได้ มินอยากได้ยิน.......น่ะ..... 
.......................................... 
อืม.......รักน่ะ......คิดถึงด้วย ผมบอกไปเบาๆเอามือป้องโทรศัพท์...... 
จ้า รักเจมเหมือนกันน่ะค่ะ....แล้วมินก็วางไป..... 
แต่ทำไมไม่รู้สิครับ หลังจากบอกรักมินต่ะกี้ 
ทำไมตอนนี้ผมถึงรู้สึกผิดขนาดนี้เนี่ย...... 
.................................................. 
ตัดสินใจปิดเครื่อง........ 
เออ ถ้ามินถามก็บอกว่าแบทหมดล่ะกัน.....ผมคิด 
เพราะตามนิสัยแล้วถ้ามินสงสัยอ่ะไรสักอย่าง 
คราวนี้ไม่สงบสุขแน่ครับ.......คุณเธอโทรจิกแน่นอน... 
เดินกลับมาหาจูล ยิ้มให้........ 
เธอยื่นมือมาให้ผมจับ...........เล่นเอาผมลังเล..... 
แต่สุดท้ายผมก็กุมมือเธอจนได้.......... 
แล้วเวลาแห่งความสุขก็เกิดครับ... 
โดยผมไม่รู้เลยว่า มันอยู่บนทุกข์ของใครบางคน...... 
ผมรู้ตัวอีกทีตอนเย็นๆเลยครับ 
เวลามันผ่านไปเร็วเหมือนโกหก 
หลังจากผมลากับจูล ผมไปส่งเธอที่บ้าน..... 
ผมเปิดเครื่องดูขณะขับรถกลับ 
มือถือผมดังรัว.................ข้อความจำนวนมากไหลเข้ามาในมือถือ 
Voiemail อีกเป็น10........ 
และทุกเบอร์ล้วนแต่มาจากคนคนเดียว.................ใช่ครับอย่างที่คิดนั่นแหละ 
มิน นั่นแหละครับที่ส่งมา................. 
เวลาแค่3ชั่วโมงที่ผมหายไป............. 
นี่อ่ะไรเหมือนเธอจะจิกผมทุกนาทีเลย......... 
ยังไม่ทันได้อ่านเมดเซส มือถือก็ดังอีกครั้ง........ 
มินโทรมา...............ผมพยายามปรับอารมณ์ ก่อนกดรับ..... 
เจม ไปไหนมาทำไมติดต่อไม่ได้ค่ะ เจมเป็นอ่ะไรหรือเปล่า......มินถามมาตามสาย 
เสียงมินดูร้อนใจมาก....... 
มันแฝงไปด้วยอารมณ์หลายอารมณ์ 
เป็นห่วง หวง หึง..................ไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกมีอะไรมากกว่านั้น..... 
เปล่าแค่แบทหมดน่ะมิน นี่เจมมาหยิบที่ชารต์แล้วเพิ่งเปิดเครื่อง..... 
เจมไม่เป็นอะไรหรอกไม่ต้องห่วงน่ะ...... ผมตอบไปในใจตอนนี้รู้สึกผิด..... 
แต่ทำก็ต้องทำให้ตลอด 
ผมเดาไม่ออกเลยว่าถ้ามินรู้ว่าผมไปกับจูลมา..... 
มินจะทำยังไง มินจะรับได้หรือเปล่า 
อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว มินเป็นห่วงน่ะเจม.......... 
เจม เดี้ยวพรุ่งนี้เจมมาเร็วๆน่ะ ได้ไหม? มินถามผม 
อ่าว? ทำไมล่ะมิน มีอะไรเหรอ...... 
ไม่รู้สิเจม........มินแค่อยากกอด ไม่ได้เหรอ...ตอนนี้มินรู้สึกไม่ค่อยดีเลย..... 
ไม่รู้สิเจม มินรู้สึกเหมือนเจมกำลังทำอะไรสักอย่าง 
.......................................................... 
................................................. 
สักอย่างที่บอกมินไม่ได้ 
................................................. 
บ้าไม่มีหรอกมิน คิดมากแล้ว ผมบอกไปพยายามจะหัวเราะ.... 
แต่มินเงียบ....................... 
มินก็หวังอย่างนั้น...........อยากให้มันเป็นแค่เรื่องที่มินคิดมากไปเอง.... 
.......................................................... 
ไปน่ะเจม ขับรถดีๆ ถ้ามินทำให้ไม่สบายใจก็ขอโทษ 
แล้วมินก็วางสายไป 
............................... 
-“-..... 
รู้สึกว่าตัวเองโคตรผิด..... 
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะบอกกับแฟนไปตรงๆได้เลย.. 
จะบอกว่ามีชู้ นอกใจมาไปดูหนัง 
จับมือกันแล้วด้วย 
ลองนึกย้อนถามตัวเองดูว่าถ้าเจมเป็นมินจะรับได้ไหม 
ไม่ได้ เลิกแน่นอน ผมถามเองตอบเอง.... 
ปิดบังมินมาตลอด จู่ๆจะเป็นคนดีคงไม่ได้..... 
ก็ยังดีครับก็ยังดี ที่จูลยังรู้ฐานะตัวเอง..... 
เธอเงียบทุกครั้งที่มินโทรมา..... 
ไม่เคยมาหาที่มหาลัย ไม่เคยส่งเมดเซสแปลกๆมาสั้กครั้ง..... 
แต่ที่เธอทำประจำคือโทรมา 1 ติ้ด 
ให้ผมสะดุ้งเล่น......... 
สามเวลาหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน 
ผมเคยถามว่าทำไปทำไม เพื่ออะไร 
เธอบอก อยากให้ขึ้น mis call 
จะได้รู้ว่าคิดถึง-“- 
มันก็ดีครับที่มีคนคิดถึงเรามากขึ้นอีกคน 
แต่มันไม่ดีที่ว่า ถ้าใครสักคนรู้ “เลิกแน่” 
คำคำนี้ลอยวนเวียนหลอกหลอนไปมาอยู่ในหัว 
จะไม่ให้ผมกลัวได้ไงล่ะครับ......... 
ก็เมื่อวานนี้ตอนผมนั่งอยู่กับมิน 
จู่ๆคุณเธอก็ทำหน้าเครียด.... 
เจม มินไม่ว่าหรอกน่ะไม่ว่าเจมจะไปเที่ยวไหน 
ทำตัวยังไง จะกินเหล้า จะเที่ยวกลางคืน.... 
แต่มินขอน่ะเจม แค่เรื่องเดียว 
ได้ไหม ?มินถามผม 
แหมๆ ก็ลองตอบว่าไม่ได้ดูสิครับ หัวจะอยู่ติดบ่าหรือเปล่ายังไม่รู้เลย 
มินเล่นทำเสียงจริงจังขนาดนั้น 
อือได้สิ อะไรล่ะมิน?ผมตอบไปในใจก็หวั่นๆ 
เจมอย่าเจ้าชู้น่ะ ได้ไหม 
แค่นี้เพื่อมิน มินคงไม่ได้ขออ่ะไรที่มันเกินไปน่ะ........ 
....................................... 
เพราะมินว่าถ้ามินจับได้ 
....................................... 
มินคงเป็นแฟนเจมไม่ได้แน่ๆ เราจบกันชัวร์ มินพูดแค่นั้นแล้วเงียบ 
ล่ะไว้ให้เป็นฐานที่เข้าใจ..... 
แต่ผมก็คิดว่าผมฉลาดพอน่ะครับ 
มันเป็นไปได้ยาก มาก มาก มาก มากเลยที่มินจะจับได้ 
ตอนนี้ผมเลยยึดถือคติ 
รักแฟน หวงชู้ เอ็นดูกิ้ก.... 
แล้วเรื่องของผมกับจูลเนี่ย ผมก็ไม่เคยบอกใครสักคน(โดยเฉพาะนายบอย) 
มันไม่มีทางเลยครับที่มินกับผมจะเลิกกันเพราะเรื่องนี้....... 
ผมกับจูลเลยไปไหนต่อไหนกันเรื่อยมา 
จูลก็ดีครับ 
รู้ทั้งรู้ว่าผมมีมินแล้วก็ยังเต็มใจที่จะคบผม... 
ในเมื่อไล่ยังไงจูลก็ไม่ไปแล้ว ผมก็เต็มที่กับชิวิตเลยครับทีนี้ 
พอลามินก็มาหาจูล โอ้ววววววว 
มีคนเอาใจถึงสองคน สวรรค์ย่อยๆเลยครับ 
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมไปเที่ยวกับจูล 
ไปซื้อของที่เซ็นทัลบางนา..... 
อารมณ์ไหนไม่ทราบครับ โทรมาเรียกผมตั้งแต่ก่อนเที่ยงเลย.... 
อ่อ ผมจะบอกความเนียนของผมอีกอย่าง 
ผมเมมเบอร์จูลไว้ว่าอะไรรู้ไหมครับ.... 
ผมเมมเป็นชื่อน้องสาวผมครับ 
มินก็รู้จัก............. 
เวลาเธอแอบดูมือถือเลยไม่หึงครับ 
ก็มีถามๆบ้างนิดๆหน่อยๆว่าทำไมระยะนี้น้องถึงโทรหาบ่อยจัง 
(โถ่ก็น้องมันรักผมนิ)ผมตอบไปประมาณนี้อะ 
แต่ผมว่าเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว 
อย่างวันนี้มินแย่งมือถือผมไปคุยเฉยเลย.... 
ดีจูลหัวไวครับ แกล้งทำเป็นน้องสาวผมทันเลยรอดไป^^” 
ผมว่าน่ะครับผมว่า 
มินคงเริ่มตะงิด ตะงิดแล้วล่ะครับ..... 
เดี้ยวเอาใหม่ 
คราวนี้จะเมมชื่อเป็นชื่ออาจารย์ 
มินไม่กล้าแย่งไปรับแน่นอนครับทีนี้..... 
แต่มินก็ไม่ใช่ปัญหาหลักน่ะสิครับ.... 
ตัวจริงๆก็อยู่ที่วาวาครับ 
แบบว่าไม่ใช่แฟนแต่จิกเก่งกว่าแฟน 
ชอบมองหน้าผมแบบ กรูรู้ แต่กรูไม่พูด...... 
เล่นเอาผมเสียวหลบตาไปหลายสิบรอบ 
คิดถูกแล้วล่ะครับที่เลือกมินมาทำเป็นแฟน 
เพราะถ้าผมเลือกวาวาแล้วล่ะก็ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนเลยครับ.... 
อาจได้ไปวันพระเงี้ย ปล่อยนกปล่อยปลา-_-“ 
แต่จะไปทำไรอ่า ร้านเหล้ามันปิดนี่ 
................................ 
ผมว่าวาวาจับผมได้ 
รู้แหงแซะว่าผมมีกิ้ก....................... 
ก็บางครั้งพอผมเดินกันสองคนไม่ค่อยมีใคร...... 
วาวาก็มักจะพูดแบบ.... 
ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจอ่ะน่ะ..... 
เลิกได้ก็เลิกน่ะเจม....สิ่งที่ทำน่ะ มินอาจไม่รู้แต่เจมรู้ใช่ไหม..... 
เจมอย่าทำให้เราผิดหวังนักสิ.....อะไรประมาณเนี้ย 
นี่แค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้นน่ะครับที่เธอพูดกับผม.... 
จนบางทีผมก็อยากหันกลับไปถามเหมือนกันครับว่า 
รู้ได้ไงอ่ะ มีตาทิพย์เหรอ? 
แต่ถ้าถามมันก็เหมือนผมรับข้อกล่าวหาน่ะสิครับ 
เรื่องอ่ะไรจะถามให้โง่...... 
เผื่อวาวาหลอกถามผมเงี้ย ผมไม่ซวยเหรอครับ 
ช่างมันครับผมไม่เอามาเก็บให้หนักหัว 
พูดได้พูดไป ขู่ได้ก็ขู่ไป... 
จับให้ได้มีหลักฐานซ่ะก่อนค่อยมาพูด..... 
แค่คำขู่มันทำอะไรผมได้ร้อกครับ 
กร้าก.................. 
วันนี้ก็ไปกับจูลอีกวัน..... 
อาทิตย์นี้แอบมาเจอได้3วันแล้ว 
ปีศาจเรียกพ่อเลย แต่รู้สึกสนุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน 
เป็นคนชั่วมันดีงี้เอง....เป็นคนดีไม่เห็นมีอ่ะไรเลย 
ทำดีได้ไร ทำดีไปทำไม....... 
คบจูลเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากครับ เหมือนชิวิตมีรสชาติขึ้นเยอะเลย.... 
มือก็ได้จับ แก้มก็ได้หอม 
แต่ก่อนเวลาผมเห็นคนอื่นมีกิ้กผมรู้สึกว่าพวกนั้นบ้า โง่ ซื่อบื้อ 
มีไปทำไม รักคนคนเดียวไม่ได้เหรอ 
เปลืองก็เปลือง เก็บตังไว้เที่ยวกับแฟนดีกว่า 
แต่วันนี้เพิ่งรู้ครับว่าไม่ใช่....... 
เป็นอะไรที่กำไรชิวิตสุดยอดแล้ว.... 
ถึงเวลาก็โทรหามิน 
เอาใจใส่น่ะ มากกว่าเดิมด้วย แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเหมือนเมื่อก่อน 
แบ่งๆเวลาเอา ผมก็คิดว่าเจอกันแค่ที่มหาลัยก็น่าจะพอแล้ว.... 
ถึงมินจะดูเงียบๆไปบ้าง 
แต่ดูเหมือนเธอจะแคร์ผมมากขึ้นด้วย เธอไม่งี่เง่าเหมือนก่อน 
สั่งอะไรก็ทำ ไม่เอาแต่ใจด้วย 
.......................... 
แต่ไม่รู้สิตาเธอบางครั้งก็เหมือนเศร้าๆ.... 
ชอบถามวกไปวนมาว่ารักมินไหม..... 
ผมก็ตอบไปตรงๆครับ 
รักสิมิน รักมากด้วย...... ผมตอบชัดเจนประจำจนเธอไม่เคยถามต่อ 
อ่าวผมก็ตอบไปตรงๆตามความรู้สึกนี่ครับ 
ก็ผมยังรักมินจริงๆ แต่...........แอบชอบจูลนิดๆน่ะครับ อิ...อิ.... 
มือจูลอุ่นสุดยอด..... 
เดินจูงกลางห้าง........ 
........................ 
............... 
แรกๆก็กลัวจะมีคนมาเห็นครับ แต่ปัจจุบันชินแล้ว 
กำลังคุยเพลินๆเลยครับแมดเซสเข้า 
ขอเวลาจูลแป็บนึงหยิบขึ้นมาดู 
อ่านข้อความมือถือแทบร่วง....... 
“เจม......ทำไมทำกับมินหยั่งงี้ค่ะ” 
ชิบหายแล้วครับงานนี้มินรู้ได้ไง 
รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหามินเลยครับ..... 
ฮัลโหล...............มินรับสาย.... 
ว่าไงค่ะเจม...... 
มิน แค่เพื่อนครับไม่มีอะไรจริงๆ เจมแค่พามาซื้อของ......ผมพยายามอธิบาย 
“..............................”แต่มินเงียบ.... 
เจมขอโทษ ที่เจมไม่ได้บอก แต่เจมรักมินน่ะครับ.... 
“..............................”แต่มินก็ยังเงียบอีก ผมได้ยินแต่เสียงถอนหายใจเบาๆ 
ดูเหมือนคำว่ารักของผมเที่ยวนี่จะไม่ได้ผล...... 
เจม......................มินเรียกผมเสียงเธอดูอ่อยๆ 
ไม่เหมือนกับโกรธ แต่ดูเหมือนมินเหนื่อยกับอะไรบางอย่าง.... 
คนนั้นน่ะเพื่อนแน่ใจน่ะ....... 
มินถามง่ายๆแต่เล่นเอาผมอึ้ง..... 
อึ้งไปสักพักก่อนจะตอบมินไป 
อืม เพื่อนสิมินจริงๆครับเรียกมาคุยก็ได้...... 
แต่ไปกันแค่สองคนเนี่ยน่ะเจม.......น้ำเสียงมินเริ่มเปลี่ยน.. 
ก็มันไม่รู้น่ะมิน เขามาชวนเจมน่ะ พอดีเจมว่าง ก็เลยมาน่ะครับ... 
เจม แต่มินจำได้น่ะว่าวันนี้เจมจะไปช่วยพ่อทำงานนี่... 
เจมบอกมินไว้ที่มหาลัยจำได้ไหม................ 
โถ่มิน ก็งานมันเสร็จแล้ว ก็เลยออกมาเดินเล่น พอดีเจอไง....ผมตอบ 
เหรอ.......................มินรับคำสั้นๆ น้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อผมเลย.... 
แล้วเขาชื่ออะไรล่ะ..... 
จูลครับจูล...... 
อืม.....แล้วเขาเรียนไหนเหรอเจม.....ที่เดียวกับเราหรือเปล่า? มินถาม 
เปล่าเขาเรียนที่อื่นน่ะมิน........แต่เจมยังไม่ได้ถามเขาเลย.... 
เหรอ สวยไหมเจม......... 
ก็ใช้ได้น่ะเจมว่า....... 
แล้วสรุปว่าไงครับ มินเข้าใจเจมใช่ไหมครับ.... 
ค่ะ เข้าใจ เจมรู้ไหมความจริงแล้วมินไม่รู้หรอกน่ะว่าเจมทำอะไร... 
หรืออยู่ไหนกับใคร มินบอกผมเสียงเรียบๆ 
มินไม่รู้ ไม่เคยสงสัยเจมด้วย..... 
ทุกๆอย่างเจมเป็นคนสารภาพออกมาเองทั้งหมด.....มินพูด 
.................................... 
............................ 
.................... 
หมายความว่าไงมิน.....? 
ผมยังไม่เข้าใจ......... ยังงงกับคำพูดของมิน ผมทำอะไรพลาดเหรอ? 
เจมยังไม่เข้าใจอีกเหรอ.......มินถามย้ำ....... 
อืม อธิบายสิ จะได้เข้าใจสักที..... 
................................... 
มินเงียบไปสักพักเหมือนเธอกำลังเรียบเรียงคำพูด.... 
............................................. 
.................................. 
วาวาเป็นคนคิดแผน.....วาวาบอกให้ส่งเมดเซสหยั่งงี้ไปให้เจม.... 
ถ้าโชคดี จะได้รู้อะไรดีๆหลายๆอย่าง...... 
แล้วก็จริงๆด้วยเจม มินก็รู้จริงๆ........ 
เจมเป็นคนหยั่งงี้ใช่ไหม? เจมทำกับมินหยั่งงี้ได้ไงค่ะ..... 
.................................... 
เดี้ยวสิมินฟังเจมอธิบายก่อน.....มันอาจไม่ใช่อย่างที่มินคิดก็ได้ 
.................................... 
ยังต้องพูดอะไรอีกค่ะเจม ในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจน 
ทุกอย่างมันออกมาจากปากของเจมเองหมดแล้ว..... 
เจมร้อนตัว อาการมันบอก...... 
คิดว่ามินโง่เหรอเจม? 
ถ้ามินโง่ มินคงไม่โตมาจนป่านนี้หรอก.... 
เจมอย่าถามมินเลยว่าเจมทำอะไร.... 
มินไม่รู้หรอกน่ะ เจมถามตัวเองดูล่ะกันว่า 
ตัวเจมเองนั่นแหละ กำลังทำอะไร? 
..................................... 
ที่มินคบกับเจม เป็นแฟนเจมทุกวันนี้ก็เพราะมินคิดว่าเจมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น 
ผู้หญิงน่ะเจม ถ้ารักผู้ชายสักคน...... 
....................................... 
จะไม่มานั่งคิดถึงเหตุผลหรอกว่าทำไมถึงรัก 
ผู้ชายจะมีกินหรือไม่มี 
จะมีรถขับหรือเปล่า 
จะหล่อจะดีจะเลว ยังไงก็รับได้หมด.......... 
แต่มีเรื่องเดียวเจม ที่ผู้หญิงทุกคนไม่เคยยอม...... 
ใช่ค่ะเจม.....รวมทั้งมินด้วย....... 
เรื่องคนที่เรารักจะมีคนอื่น จะไม่มีเราแค่คนเดียว......... 
เจมไปคิดดูเองน่ะว่าทำถูกไหม...... 
มินคงไม่คุยกับเจมสักระย่ะ แค่นี้น่ะค่ะ........ 
แล้วสายก็ตัดไป........................................................ 
............................................... 
เคว้งทันทีเลยครับผม พูดอะไรไม่ออก 
เหมือนเสียบอลชุดใหญ่....... 
ยืนอึ้งถือโทรศัพท์ค้าง........... 
จูลเห็นทุกช่วง ทุกคำพูดเลยครับ แต่ดูเธอจะไม่เครียดเลย ยิ้มซ่ะด้วยซ้ำ...... 
เธอเดินเข้ามาปลอบผม...... 
ผมโคตรกลุ้มใจ 
กดโทรศัพท์หามิน อยากขอโทษ แต่เธอไม่รับ........ 
ทำไงดีล่ะครับทีนี้? ผมโง่เองใช่ไหมครับ? 
เจมไม่เป็นไรน่ะยังมีจูล โอเคไหม จูลบอกผม 
ผมหันมองจูลแป็บนึงก่อนนั่งกลุ้มใจต่อ 
นี่ถ้าผมบอกจูลไปว่าไม่โอเค ผมจะโดนต่อยไหมเนี่ย? 
อยากไปหามินว่ะ ผมบอกตัวเอง 
จูลเรากลับแล้วน่ะผมหันไปบอก.... 
กลับเหรอ? ไปไหน จูลถามผม 
กลับบ้านดิ เนี่ยหมดอารมณ์เที่ยวเลย ผมหาเหตุผลมาบอก 
แน่ใจน่ะว่ากลับบ้าน ไม่ใช่ไปหามินเหรอ....จูลพูดเหมือนจะรู้ทัน 
เปล่า.............. ไม่ไปหาหรอกไปให้โดนด่าไปทำไม 
............................................ 
สรุปผมลาจูลมาได้ 
แต่เวงกรรม ผมยังต้องไปส่ง-_-“ 
หลังจากส่งเสร็จ...... 
ขึ้นรถ กดโทรศัพท์หาโจคนแรกเลยครับ 
รู้ครับว่าถ้าโทรไปหามินตรงๆ 
ไม่จบ ไม่เครียล ไม่ดีแน่ 
ในเมื่อมินมีวาวาเป็นมันสมอง 
ผมก็ต้องใช้มันสมองเข้าสู้สิครับ...... 
แล้วความคิดดีๆก็มักจะมาจากนายโจ..... 
ถึงมันจะหล่อน้อยกว่าผม^^ แต่มันฉลาดกว่าผมเยอะครับ 
คารมมันงี้ต้องยกนิ้วให้เลย.... 
โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล....มันครบสูตร.... 
โทรไปไม่นานนายโจก็รับ....... 
เห้ยโจ ช่วยกรูด้วย...... นี่แหละครับคำแรกที่ผมคุยกับมัน 
ตรงๆไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา.... 
เออ เรื่องมันเป็นไงว่ะ มรึงเล่ามาให้กรูฟังสิ นายโจถามผม 
เป็นเรื่องที่เล่ายากมากถึงมากที่สุดในโลกแต่ผมก็เล่า 
ตั้งแต่ต้นจนจบ................... 
พอผมเล่าจบนายโจก็พูดคำที่ผมประทับใจไปอีกแสนนานเลยครับ 
“สมน้ำหน้า” นายเวงนี่-_-+ 
เอ้ย ขั้นแรกถ้ามรึงอยากจะเครียลกะมินอย่างปลอดภัย 
ต้องจัดการเว้ยเจม นายโจพูดทำหน้าโรคจิตๆ 
เห้ย จัดการไรบ้า เวรนี่ทะลึ่งแล้ว ผมยังไม่เลวถึงขั้นนั้น 
เห้ย อ่าวคิดไปนั่น .......... 
กรูหมายถึงจัดการคนบงการซ่ะก่อนสิว่ะ..... นายโจบอก 
แล้วคนที่มรึงพูดถึงน่ะ ใครว่ะ............ 
วาวาไง วาวา ร้ายนัก........มันต้องโดนซ่ะมั่ง..... 
มรึงคิดดูดิกรูว่าที่วาวาช่วยมินก็ไม่ใช่ช่วยโดยบริสุทธิ์ใจหรอก.... 
ดูน่ะเว้ยเจม...... 
ถ้ามินรู้ว่ามรึงมีกิ้ก......มินจะทำไง.... 
ใช่เว้ย อาจทะเลาะกัน โมโหกัน 
ถึงจะผลักกิ้กคนนั้นออกไปจากชิวิตมรึงได้ 
มินก็จะไม่ไว้ใจมรึงเหมือนเดิม 
แล้วมรึงคิดดูดิ คราวนี้ใครจะได้ประโยชน์..... 
วาวาไง เต็มๆเหนาะๆ...... 
แล้วมรึงคิดเหรอว่าที่วาวาแค่ขู่มรึงน่ะเขาแค่หวังดี 
ปล่าวเลย ที่เขาขู่เพราะเขาทำได้แค่ขู่ไง 
เขาเป็นแค่เพื่อน ทำไรได้ว่ะจะโกรธยังไม่ได้เลย... 
ฐาน่ะมันไม่อำนวย...... 
เลยต้องยืมมือแฟนมรึงตัวจริงไง........... 
เห้ยเวอร์ไปป่าว......ผมโวยอะไรมันจะซับซ้อนปานนั้น..... 
ไม่เวอร์ นายโจสวนทันควัน.... 
กรูมั่นใจน่ะว่าถ้ามิน กำลังจับโกหกมรึงโดยมีวาวาอยู่เบื้องหลัง 
ไม่นานหรอกไม่เกินเดือน.....มรึงได้เลิกกับมินสมใจแน่...... 
เว้ย งี้ไม่ได้ว่ะโจ ผมหยิบมือถือขึ้นมา.... 
มีเครียลเงี้ย ผมบ่นพลางกดเบอร์ 
แต่นายโจมาแย่งมือถือผมไปเสียก่อน....... 
“เห้ยเดี้ยว” 
ถ้ามรึงโทรไปทุกอย่างก็แย่กว่าเดิมสิว่ะ...... 
วาวาจะรู้ตัวว่ามรึงรู้ แล้วตอนนี้มรึงก็ถือไพ่รองอยู่ จะพลาดเปล่าๆ... 
อ่าวแล้วมรึงจะให้กรูทำไงล่ะ หรือโทรหามิน....... 
นายโจเงียบไม่ตอบ ทำท่าคิด......... 
เห้ยกรูมีแผนแหละ แผนที่แม้แต่วาวาก็ต้องสะอึก มันบอกผม 
........................................... 
................................ 
เอ้า มันโยนมือถือคืนให้ผม....... 
ผมรับมาแบบงงๆ ทำหน้าถามมัน เพื่ออะไรว่ะ? 
โทรสิว่ะโทร.......... นายโจบอกผม 
โทรหาใครเล่าเวงนี่.....มินเหรอ ผมถาม 
ม่ายช่ายโทรหาวาวาดิ.......แล้วมรึงก็บอกเขาไปน่ะว่าคิดถึงวาวามากเลย.... 
อ่าวเพื่ออะไรว่ะ โทรไปแล้วกรูบอกคิดถึงแค่นี้เหรอ..... 
งี้มันจะยิ่งไม่แย่เหรอว่ะ......ถ้าวาวาเอาไปบอกมินเรื่องกรูโทรหา จบนะเว้ยจบ 
เออน่า ไหนบอกให้กรูคิด ทำตามที่กรูบอก...เอ้าว่าไงจะโทรไม่โทร.... 
เห้ยนายโทรน่ะโทรได้ แต่จะให้กรูพูดอะไรว่ะโจ...... 
กรูยังไม่เข้าใจมุขเลย...... 
เวงเอ้ย.....................................................เรื่องง่ายๆทำไม่เป็น 
เอามานี่กรูโทรเอง นายโจแย่งมือถือไป....ถ้ามันไม่เกรงใจคงด่าผมนายทุยไปแล้ว 
............................................ 
มันกดเบอร์วาวา รอจนวาวารับ 
คำแรกที่มันพูดผมยังจำได้ขึ้นใจ...... 
วาวาเจมมันแย่มากเลยตอนนี้..........นายโจพูดไปตามสาย..... 
มันตีเสียงเครียดสุดขีด...... 
วาวาก็เหมือนรู้ว่าผมเครียด 
เธอถามว่าทำไม เจมเป็นยังไงบ้างเหรอ แต่เสียงเธอตอนนี้เย็นชาใช้ได้เลยครับ.... 
ไม่รู้ดิ โจแค่ดูมันแย่ๆ 
นี่มันมาเจอโจมันยังไม่พูดกับโจซักคำ......เนี่ยเดินไปคุยกับหมาหลังบ้านแล้ว 
โจว่า.......................อาการมันหนักแล้วน่ะ.... 
นายโจพูดเสียผมเสีย.............ผมยังไม่ทันมุขมันด้วย 
ถ้ามันหลอกด่า เอาไว้ค่อยเครียลกันทีหลัง.... 
คุยกะหมาได้ผมเป็นตัวอะไรเนี่ย-_-“ 
แต่ดูเหมือนได้ผล วาวาเงียบไป.......... 
แล้วมันก็กดเปลี่ยนโหมดเป็นแบบดังให้ได้ยินทั้งสองคน 
ทำไมโจ......................เจมก็สมควรโดนแล้วนี่ 
ทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้ๆกัน ของหยั่งงี้มันไม่ใช่ลืมกันง่ายๆหรอกน่ะ.......วาวาโวย 
ทำไมเหรอ นายเจมทำอะไร.........โจยังไม่รู้เรื่องเลย 
อ่าวโจยังไม่รู้เหรอ? 
ก็ถามเขาเองดิ ยืนฟังอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ...... 
เปล่า ไม่ได้อยู่ ก็บอกแล้วนี่ว่ามันเดินไปนั่งซึมหลังสวนบ้านโจแล้ว.... 
โจแน่ใจน่ะ..................... 
อืมแน่ใจดิ ถ้าโกหกน่ะให้นายเจมตายเลยเอ้า......(-_-“) 
แล้วทำไมใช้มือถือเจมโทรล่ะ........ วาวาถาม 
อ่อ ก็มันวางไว้อ่ะ เรื่องไรใช้ของตัวเองโทรล่ะเปลืองจ่ะตาย......ปัญหาใครให้คนนั้นจ่ายดิ 
อืม....................อ่ะน่ะ..... 
ก็นั่นน่ะโจ เจมมีชู้แหละรู้ไหม....... 
หา ชู้เหรอ เป็นไปไม่ได้วาวา เจมมันรักมินจะตาย........ 
ใช่ แต่มันก็เป็นไปแล้ว........แล้วโจคิดว่าไง คิดว่าเจมสมควรโดนหรือเปล่า....วาวาถาม 
................................................. 
ถ้าเป็นโจ โจว่าไม่น่ะ....... 
อ่าว!!!!!! 
จะแปลกอะไรล่ะวาวา เรื่องปรกติ แค่กิ้กโจก็มี........... 
ว้ายโจ นายทุเรศ หลงคิดว่าเป็นคนดีมาตั้งนาน....วาวาด่า 
เหรอ แต่เราว่าเราไม่ผิดน่ะวาวา 
ที่เรามีกิ้กเพราะเราไม่อยากเลิกกับแฟนเรามันผิดเหรอ.....นายโจตอบเสียงเรียบๆ 
อะไรน่ะ ไม่เข้าใจ โจจะบอกว่าที่มีกิ้กก็เพราะมันถูกต้องเหรอเอาอะไรคิดอ่ะ 
..................... 
เราคิดว่ามันถูกน่ะ...... 
เหมือนวาวาชอบกินโมจิใช่ไหม ที่บอกอร่อย 
ชอบมาก แต่ถามเหอะวาวา ถ้าให้กินทุกวัน ทุกมื้อ มันจะเบื่อหรือเปล่า? 
มันก็ต้องทำอะไรเพื่อเปลี่ยนรสชาติบ้าง 
บางครั้งพอเราไปกินอย่างอื่น พอเรากลับมากินของที่เราชอบเราก็จะรู้ว่า 
มันอร่อยขึ้นน่ะไม่เบื่อ 
มันก็เหมือนกันน่ะ ที่เราแอบมีคนอื่นก็เพื่อแก้เซ็ง ลดความจำเจ..... 
อยากคุยกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง........ 
การที่เราคุยกับคนอื่น มันไม่ได้แปลว่าเราจะรักแฟนเราน้อยลงซ่ะหน่อย..... 
.......................... 
..................................... 
คำเปรียบเทียบของนายโจเล่นวาวาเงียบ 
พูดอะไรไม่ออก ใบ้ไปเลยครับ..... 
อืม......................เราก็เข้าใจน่ะ แต่โจ ถ้าโจพูดงั้นแล้วแฟนโจไปคุยกับผู้ชายคนอื่นจะหึงไหม 
ตัวโจเองจะรู้สึกยังไง วาวาถามย้อน..... 
......................... 
หึงดิ แต่โจจะไม่ว่าอะไรน่ะ...... 
เพราะเราไม่ใช่เจ้าของเขาน่ะวาวา 
คำว่าแฟนมันก็เหมือนคนที่เราเปิดโอกาสให้เรียนรู้ตัวเรามากกว่าคนอื่น 
แต่จำไว้น่ะเราไม่ใช่เจ้าของเขา.........จะมาสั่งให้เขาเลิก หรือไม่ยุ่งกะใครไม่ได้หรอก..... 
โจก็แค่จะบอกเขาน่ะ ว่าจะทำอะไรก็ทำไปเหอะ..... 
จะคุยกับใครหรือจะไปกินข้าวกับใคร 
แต่ก็ขอให้คิดถึงโจบ้างน่ะ.....................................ว่าโจจะรู้สึกยังไง 
ถ้าเราไม่ดีพอ หรือถ้าเขาไม่รักเราแล้ว ทำไงเขาก็ไม่อยู่กับเราหรอก..... 
........................................... 
........................... 
อืม ใช่ ต่างคนก็ต่างความคิด....................... 
เอ่อ แปลกน่ะ เราก็เพิ่งรู้ว่าโจก็มีความคิดด้วย......วาวาชม 
อ่าว พูดงี้หมายความว่าไง.......เอาเถอะ 
วาวา......นายโจเรียก.. 
อืม ว่าไงล่ะโจมีอะไรก็พูดมาสิ........... 
เรื่องของมินกับเจมน่ะวาวาอย่าไปยุ่งเลย..... 
อ่าว? ทำไมล่ะโจ มินเพื่อนเราน่ะ....... วาวาบอก 
แล้วเจมไม่ใช่เหรอ? โจถาม 
........................................ 
อืมใช่ เจมก็ใช่ดิ........วาวาตอบเสียงอ่อย..... 
ก็อย่างที่วาวาบอกเอง ต่างคนก็ต่างความคิด.....เราว่าปล่อยให้เขาเครียลกันเองดีกว่า...... 
อย่างน้อยถ้ามินกับเจมจะเลิกกันจริงๆ เราจะได้ไม่โดนหาว่าเป็นต้นเหตุ..... 
จริงไหม? 
อืม.........................ค่ะ วาวาสงบลงเป็นครั้งแรก..... 
เราไม่ยุ่งแล้วก็ได้......โจก็อย่ายุ่งน่ะ..... 
อืม อยู่แล้วล่ะ ไปล่ะน่ะวาวา บายครับ นายโจบอกลา 
ค่ะ แล้ววาวาก็วางไป......... 
ฟังนายโจพูดแค่นั้น ผมถึงกับตบเข่าตัวเอง 
“อัจฉริยะ” ผมบอก 
ขณะนี้เวลา 12.00 ของอีกวันหนึ่ง 
ผมยืนที่สตาร์บั้คสยาม 
ตาก็เหลือบดูโพยในมือที่นายโจเขียนให้..... 
ใช่แล้วครับ ผมจะรอใครซ่ะอีกล่ะครับถ้าไม่ใช่มิน 
ผมยังไม่ได้คุยกันเลยครับตั่งแต่เกิดเรื่อง 
นายโจโทรไปนัดให้.............. 
แล้วมินก็ไม่ได้รับปากจริงจังด้วยว่าจะมา 
เธอแค่พูดว่า “อาจจะมา” เท่านั้น 
แต่แค่นั้นก็พอแล้วครับ ไม่เป็นไรหรอก 
เพราะถ้ามินพูดหยั่งงี้ผมก็รู้แล้วล่ะครับว่าเธอมาแน่.... 
แต่................. 
ถึงเธอไม่มาผมก็ไม่ว่าเธอหรอกครับ.........แต่จะตามไปจับตบถึงบ้านเลย(ซ่ะงั้น) 
กระวนกระวายรอมิน.................เที่ยงตรงเป้ะๆ 
ทุกทีมินจะมาก่อนเวลา 5 นาที 
แต่วันนี้เธอยังไม่มาครับ ไม่เป็นไร รอได้....... 
นั่งคอย ยืน คอย จากนายหน้าที่ยิ้มๆก็เริ่มจะยิ้มไม่ออก 
ดูเวลาอีกที 12.30 เหอๆ สายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว 
ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร รถคงติด มินไม่ผิดหรอก...... 
รอต่อไป กาแฟที่สั่งไว้ละลายเกลี้ยง.... 
บ่ายโมงกะอีกสามนาที 
แทบคลั่ง.............................................. 
มินไม่เคยเป็นหยั่งงี้ หรือเธอจะไม่มาแล้ว..... 
ทำไมเธอทำหยั่งงี้ มันเหมือนกับความสำคัญของผมมันลดลง.... 
ปวดอกเว้ย........................ 
ในใจมันอึดอัด สมองมันก็คิดไปต่างๆนาๆ 
มินกำลังทำอะไร ยังไม่ออก หรือเดินอยู่กับหนุ่มอื่น 
หรือว่าเธอจะลืมไปแล้วว่านัดกับผม...... 
ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม หยิบมือถือขึ้นมาดู ไม่มีแม้แต่ miss call...... 
สมองเริ่มหลอน 
ผมเห็นภาพมินกำลังไปกับผู้ชายคนอื่น สวยๆอย่างเธอคงหาคนที่ดีกว่าผมได้เยอะแยะ 
ในใจมันร้อนเหมือนจะระเบิด 
อยากจะขับรถไปหามินตอนนี้เลย........................ 
แต่ถ้าผมไปไม่เจอมินล่ะ ผมไปเสียเปล่า หรือถ้าซวยเราอาจสวนกันก็ได้ 
................................ 
สรุป....................ผมตัดสินใจที่จะรอ..... 
............................... 
โทรศัพท์ดัง ดีใจกดรับทันที..... 
ฮัลโหลอยู่ไหนแล้วที่รัก....................ผมรีบพูดเสียงหวานไปตามสาย 
กรูไม่ใช่ที่รักมรึง................เสียงที่ตอบเล่นเอาผมชะงัก 
เห้ย เขายังไม่มาอีกเหรอว่ะ นายโจนั่นเองครับโทรมาติดตามผล.... 
เออ ยังว่ะ เฮ้อ ผมถอนหายใจยาวอีกรอบ..... 
เห้ยอย่าเพิ่งท้อ รอไปก่อน คิดซ่ะว่าเขาลองใจมรึงเว้ยเจม......นายโจบอก 
กรูไม่รู้ว่ะ ไม่เห็นมีทีท่าว่าเขาจะมาเลย..... 
ถ้าจะมาก็น่าจะโทรมาสักตื้ด..................... 
เหรอ ตั่งแต่เช้ายังไม่มีมาเลยเหรอว่ะ นายโจถาม 
เออดิ เห้ยโจหรือเขาติดธุระว่ะ......... 
หรือเขาไปกับผู้ชายคนอื่น.................ผมเริ่มเพ้อ 
เออ น่ามรึงอย่าคิดมาก..........................โพยที่กรูให้ยังอยู่ปล่าว......นายโจถาม 
อยู่...............ผมตอบ 
มรึงอ่านไป ท่องจำให้ขึ้นใจ จะได้ไม่ต้องคิดมาก..... 
คิดซ่ะว่าถ้าเขาเป็นของมรึงยังไงก็เป็นของมรึง แต่ถ้าไม่ก็ทำใจซ่ะเถอะว่ะ.... 
เออ.........................ผมตอบมันแต่ตาก็เหลือบดูเวลาอีกครั้ง.... 
บ่ายสอง!!!!!! ผมนั่งรอมินมาสองชั่วโมงเต็มแล้ว..... 
สายสนิท..................ผมพูดของผมคนเดียว 
เออสาย นายโจสวนมา ผมลืมไปเลยว่าคุยโทรศัพท์กับมันอยู่....... 
ตื้ด สายซ้อน ผมหยิบออกมาดูชื่อ 
......มิน...... 
เห้ย ผมตะโกนดังลั่น โจเว้ยโจ ผมเรียกมัน 
นายสราด หูกรูเกือบแตก เป็นไรเมิง นายโจถาม แถมด่ามานิดหน่อย....... 
มินโทรมาเว้ย แค่นี้ก่อนน่ะ ผมตอบเลิกลั่ก..... 
เออ สู้ๆเว้ยกรูเอาใจช่วย แล้วอย่าลืมบทล่ะ........ 
ใจเว้ย แล้วผมก็กดสลับสายคุยกับมิน...... 
ว่าไงที่รัก............................ผมพยายามทำเสียงให้หวานที่สุด 
ใครที่รักคุณ? เสียงมินตอบมาเรียบๆรู้สึกเหมือนว่าวันนี้ผมจะได้ยินประโยคนี้สองครั้งแล้ว 
จ้า.....................อึ้งพูดอะไรต่อไม่ถูก.................. 
ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า ที่นัดน่ะ......มินถามมาเสียงห้วน มั้กๆ 
อยู่สิ....................มินล่ะอยู่ไหนแล้ว..... 
นั่งรอนั่นแหละเดี้ยวไป แล้วมินก็วางไปดื้อๆ.......... 
ดูเหมือนเธอจะโกรธมาก........เย็นชาด้วย...... 
เอาว่ะ ทำใจ ผมนั่งรอต่อ เหมือนหมารออาหารจากเจ้าของ 
อย่างน้อยมันก็ยืนยันได้แล้วว่าเธอจะมา............................ 
อยากร้องไห้จริงๆให้ตาย.................. 
บ่ายสามโมงแล้ว................ 
ปวดหัว จะมาหรือไม่มาเนี่ยมิน ผมนั่งรอเกือบชั่วโมงแล้ว 
กาแฟที่เดินไปซื้อมาแก้วที่สอง ไปอยู่ในท้องเรียบร้อย 
ไม่เหลือแม้แต่น้ำแข็ง 
ก็ผมเล่นเอาน้ำแข็งมาเคี้ยว ระบายอารมณ์........ 
อร่อยไปอีกแบบ........................ 
แล้วผมก็เห็นเธอ..............มาในชุดสีขาวเหมือนไว้ทุกข์(ให้ผม-“-) 
ผมลุกยืนต้อนรับ พยายามส่งยิ้มหวานเท่าที่จะหวานได้......... 
แต่เธอเฉย นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามผม........ 
เธอมองผมด้วยสายตาเรียบๆ 
ไหน มีอะไรจะบอกกับมิน? เธอถาม 
ขอโทษ.......................ผมบอก 
มินนิ่ง เธอไม่มองแม้แต่หน้าผม..... 
ผมที่ยาวสวยของเธอป่ะบ่า...... 
แต่เย็นชาราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง........................... 
แล้วไง แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด...........มินทำท่าจะลุก เหมือนไม่อยากอยู่ต่อแม้เพียงนาที.... 
อยู่กับผมมันอึดอัดขนาดนี้เลยเหรอ ผมคิดในใจ 
............................................ 
เดี้ยวสิมิน............ผมคว้ามือมินไว้ 
เธอมองหน้า ทำท่าเหมือนจะสะบัดออก 
“ปล่อย” เธอพูดเสียงดัง แต่มีหรือผมจะปล่อยให้โง่ เพราะผมรู้เลยล่ะว่าถ้าผมปล่อย 
ก็เหมือนปล่อยให้เธอออกจากชิวิตของผม............. 
มินเจมอธิบายได้ เจมรู้เจมผิด แต่มินฟังเจมหน่อยได้ไหมครับ 
แต่ดูเหมือนเสียงจะไปไม่ถึงใจมิน เธอยังพยายามจะสะบัดมือผมออก 
มิน เจมรักมินน่ะ ผมพูดประโยคเดียวที่เก็บไว้ในใจออกมา 
ได้ผลครับ มินนิ่ง....................... 
นิ่งไปแป็บเดียวเพื่อตวัดแก้วกาแฟปาใส่หน้าผมเต็มเหนี่ยว 
ประชิดมาก หลบไม่ทัน 
แก้วโดนจมูก กระเด็นไปไกลเลยครับ............... 
ก็ยังถือว่าโชคดีที่มันไม่มีน้ำ ไม่งั้นคงจะเจ็บกว่านี้ 
นี่เหรอที่คนรักกันเขาจะทำเจม เธอถามดังลั่น........ 
ไปควงแขนกับใคร 
ไปทำอะไรมา ทำให้เป็นห่วงรู้มั่งไหม 
ทำไมโทรไปไม่รับ เกิดอะไร เกิดอะไร มินถามตัวเองแทบบ้า 
มินจะบ้าจริงๆรู้ไหมเจม มินก็คิดน่ะ 
เป็นห่วงจนเห็นภาพเจมเดินกับใคร 
แต่ก็เชื่อ เชื่อว่าเจมคงไม่ทำหยั่งงั้นกับมิน.................. 
แต่เจมก็ทำ เสียงเธอที่ตวาดใส่หน้าผมเล่นเอาหน้าชา.......... 
ถูกทุกคำพูด ตรงประเด็นมาก 
เถียงไม่ออก...................................... 
เจมก็ไม่ได้มีใครน่ะมิน...............ผมบอก 
แน่ใจเหรอว่าไม่มี....................จูลน่ะใคร มินถาม 
เวรแล้ว เธอไปเอาชื่อนี้มาจากไหนเนี่ย 
จูล........จูลไหน? ไม่มีมิน 
ไม่มีเหรอ เดีย้วมินจะโชว์ให้ดูแน่ใจน่ะว่าเจมไม่รู้จัก 
มินพูดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร 
.......................................................... 
ไม่นานก็มีคนรับ มินเปิดให้ได้ยินเสียงดัง 
สวัสดีค่ะ เสียงคุ้นหูมาก เสียงจูลชัดๆเลยครับ 
เอาสิเจมพูดเลย ................................... 
พูดไม่ออกใบ้รับประทาน.......................... 
พูดสิเจม มินย้ำ............ 
สวัสดีครับ ผมพูดแค่คำเดียวสั้นๆเท่านั้น 
แต่เหมือนจุดประกายไฟเลยครับ ไฟติดพรึบเหมือนเผาป่า 
เจมเหรอค่ะ เป็นไงมั่ง สบายดีไหมค่ะ อยู่ไหนเนี่ย คิดถึงน่ะ 
เว้ย.........................จูลพูดเป็นชุดเลยครับ 
มินตัดสายทิ้ง ยักคิ้วให้ 
ไง มีอะไรจะเถียงอีกไหมเจม 
เขาให้ความสำคัญกับเจมมากเลยน่ะ.................. 
แค่คำเดียวเขาก็จำเสียงเจมได้............................. 
แถมคิดถึงอีกตั้งหาก 
ไม่ไปคิดถึงเขาหน่อยเหรอ มินถามผม..... 
ถาม............. 
เหมือนไม่แคร์ผมแล้ว 
ไม่ไปแล้วจะ อยู่กับมินเนี่ยแหละได้ไหม.....ผมถามเหมือนคนหน้าด้าน 
.......................................... 
................................ 
เหมือนมันจะสื่อถึงใจมินเลยครับ 
เธอนิ่งเหมือนคิดว่าจะเอายังไงกับผมต่อดี....เหมือนผมที่คิดว่าควรจะทำยังไงดี 
งอนไปไม่มีประโยชน์ใช่ไหมมิน เราน่า............ตื้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
เสียงมือถือมินดังขัดจังหวะ 
จะใครซ่ะอีกล่ะครับ ก็คนที่มินเพิ่งจะโทรไปหา 
จูล1000เปอร์เซนเลยล่ะครับที่โทรมา 
ไม่รู้สิเจม............มินรับกับเรื่องที่เจมทำไม่ได้ มินพูดปล่อยให้มือถือดังอยู่อย่างนั้น 
มินเกลียดคนเจ้าชู้ 
แต่เจมเป็นคนเจ้าชู้ มันไปกันไม่ได้หรอกเจม............... 
ได้สิมินต้องไปได้สิ แค่ครั้งเดียวเอง.........ผมพูดเหมือนจะขอร้อง 
กราบได้ผมกราบไปแล้ว 
แค่ครั้งเดียว ก็เกินพอแล้วเจม ถึงมินจะกลับไปคบเจม 
มินก็คงไม่รักเจมเหมือนก่อนหรอก............. 
ไม่รักแล้ว........................เจ็บมามากพอแล้ว 
.......................................................... 
เอาปืนมายิงผมให้ตายดีกว่าครับ.......มินพูดหยั่งงี้ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆน่ะ 
.......................................................... 
ขอให้รักกันดีๆน่ะค่ะเจม รักกันมากๆ ไม่ต้องห่วงมินหรอก มินดูแลตัวเองได้ 
มินเคยคิดน่ะว่า วันที่เราจะเลิกกันจะไม่มีวันมาถึง 
แต่วันนี้คงจะถึงแล้วล่ะเจม..................... 
มินไปแล้วน่ะเจม มินต้องไปทำธุระต่อ........ 
อ้อ..............เอ้านี่ค่ะ มินวางแหวนเงินไว้บนโต้ะ.....แหวนของเรา 
มินคงไม่ได้ใช้แล้วล่ะเจม............. 
มินฝากให้จูลด้วยน่ะ......มีความสุขมากๆน่ะค่ะ 
น้ำตาไหลลงอาบแก้มแล้วมินก็หันหลังเดินไป.................... 
................................................ 
.................................... 
.
หน้าชาลุกขึ้นจะวิ่งตามมิน 
แต่มือถือผมก็ดัง ผมหยิบขึ้นมาดู........ 
จูลโทรมาครับ แต่ช่างมันสิผมไม่สนอะไรแล้ว 
แต่แค่เสี้ยววินาทีที่ผมหยิบมือถือ มินก็หายไปแล้ว 
หายไปราวกับเธอหายตัวได้ยังไงหยั่งงั้น............. 
ผมก้มลงดูที่โต้ะกาแฟ มีเพียงแหวนวงหนึ่ง กับหยดน้ำตาเท่านั้นเอง............ 
....................................... 
สรุปเจมเลิกกับมินแล้ว วาวาถามผมที่ร้านอาหารข้างมหาลัย 
หลังจากพยายามอยู่นานสองนานกว่าจะลากมาคุยสองคนได้ 
“ใช่” 
“สม”วาวาตอบมาเล่นเอาหน้าตึง 
เฮ้อ วาวาก็เตือนแล้ว เป็นไงล่ะจะมีไปทำไมนาย กงนายกิ้ก อะไรเนี่ยแค่มินไม่พอเหรอเจม 
วาวาถามจริงๆเหอะ...... 
พอสิวาวา แต่บางทีก็อยากเปลี่ยนรสชาติบ้าง แบบประสบการณ์ชิวิตไงครับ ผมบอก 
อ้อเหรอ แล้วเป็นไงมั่งล่ะ ถึงใจไหมวาวาถาม....... 
ลืมไม่ลงเลยล่ะ.......................แล้วผมก็นั่งทำหน้าจ๋อย 
ซีดที่สุดในชิวิตแล้ว................... 
กับตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ที่เศร้าที่สุดก็เรื่องทำมินร้องไห้เนี่ยแหละ 
วาวาจะบอกให้น่ะเจม 
หือ บอกไรเหรอ........ 
ในเขารู้เรื่องจูลตั้งนานแล้วล่ะ วาวาพูดพลางหยิบน้ำส้มมาดูด 
เห้ย จริงดิวาวารู้ได้ไงล่ะ.......ผมถาม 
ก็.......ก็เจมไม่เนียนไง.........เจมนัดจูลทีที่ไหนบ้างล่ะ...... 
ก็ สยาม มาบุญครอง มอบางกะปี จตุจักร เอ็มโพเลี่ยมอ่ะ ที่เคยๆไปก็มีแค่นี้ ผมบอก 
อืม................แล้วปรกติมินชอบเดินที่ไหนบ้างล่ะเจม วาวาถามผม 
................................................. 
ก็ทุกที่ที่เราพูดนั่นแหละ.........ผมนิ่งสงบปากสงบคำ รู้สึกตัวเองมีเขา.... 
เฮ้อก็นี่อ่ะน่ะ รักจะเป็นเพลย์บอยแต่ไม่ฉลาดเลย..... 
เจมก็รู้ว่าถ้าเจมไม่อยู่ มินก็ชอบไปเที่ยว แล้วคิดเหรอว่าจะไม่เห็นเข้าสักวัน.... 
เดี้ยว เดี้ยว เดี้ยว วาวาหมายความว่า.......มินเคยเห็นเจมเดินกับจูลเหรอ.... 
ใช่ นานแล้วด้วยเจม มินเห็นรู้อยู่เต็มอก 
เขาเจ็บมากน่ะ แต่เขาก็ยังฝืน ฝืนยิ้มให้เจมเสมอ..... 
เขาไม่พูดไม่ใช่เขาไม่รู้ 
แต่เพราะรักตั่งหากเจม 
เลยไม่อยากจะพูดให้เจมเสียใจ 
มินยังเคยบอกวาวาเลยน่ะว่า 
“แค่เจมมีความสุขก็พอแล้ว เราน่ะไม่เป็นอะไรหรอก” 
อึ้ง กับคำพูดของวาวา 
จริงดิ? วาวาจะบอกว่ามินให้โอกาสเจมที่จะเลิกกับจูล 
มินรู้วาวาเจมทำอะไรแต่ไม่พูดเหรอ...... 
ใช่เจม............แต่เจมก็ยังไม่เลิก เจมทำเหมือนมินเป็นคนโง่ 
เจม ไม่มีใครโง่หรอกน่ะบนโลกนี้น่ะ 
ถ้าจะมีล่ะก็ คนคนนั้นคงไม่ใช่มินแน่นอน....... 
แล้วนี่เจมควรจะทำยังไงวาวา เจมเสียใจน่ะ ไม่มีใครหรอกที่จะไม่เคยทำผิดน่ะ 
เจม อยากคืนดีกับมินเหมือนกัน แต่มินดูเหมือนจะใจแข็งมากเลย.....ผมบอก 


อืมไม่รู้สิ ครั้งนี้คงยาก..... 
ผู้หญิงเวลาผิดหวังกับอะไรมากๆ เขาจะจำน่ะเจม 
ยิ่งรักมากยิ่งเกลียดมากเคยได้ยินใช่ไหม..... 
อืม...................มันก็ใช้ 
แต่วาวาก็เคยได้ยินใช่ป่ะ 
สังคมให้โอกาสคนกลับตัวเสมอ.......... 
ไม่เคย ไม่ได้ยินด้วย แต่ขอบอกน่ะว่าที่เจมทำลงไปครั้งนี้ 
ไม่ใช่แต่มินน่ะที่โกรธ เราก็ด้วย อืม แต่เราคงไม่มีสิทธิว่าอะไรเจมหรอก 
เราไปเรียนแล้วน่ะ วาวาพูดพลางหยิบกระเป๋าถือ สะพายเดินออกร้านไป 
ทิ้งให้ผมอึ้ง 
.......................... 
อย่างน้อยวาวาก็น่าจะจ่ายตังก่อน-_-“ 
ช่างเหอะครับถือซ่ะว่าค่าปรึกษา.... 
เซงเลย.......... 
สรุปวาวาก็ตัดหางผม ผมเกือบลืมเลยว่าเธอก็เคยชอบผมอีกคน 
ทำไม ผมเลวมากเหรอ ผู้ชายมันก็เจ้าชู้ทุกคนนั่นแหละ 
อยู่ที่คนไหนจะมากจะน้อยเท่านั้นเอง 
.................................... 
ตั่งแต่วันนั้นยายจูลก็ขยันมาหาผมซ่ะเหลือเกิน.... 
ว่างเป็นมา เหมือนจะย้ายมหาลัย 
ทุกอย่างก็เหมือนเดิม 
มีเพื่อนมาถามบ้างว่ามินล่ะไปไหน แต่ทุกครั้งผมก็ทำหน้าเศร้า 
ได้แต่ตอบไปว่า “ทะเลาะกันอยู่” 
“กำลังปรับความรู้สึก”สารพัดข้ออ้างที่จะยกมาได้ 
ยกเว้นคำๆเดียวที่ผมไม่เคยจะหลุดออกไปเลยว่า 
“เลิกกันแล้ว” 
ถ้าจะถามว่าทำไมผมถึงไม่บอกความจริงไป 
ก็คงเพราะ ผมบอกไม่ได้ ผมเองก็ทำใจไม่ได้...... 
ยายจูลเกาะผมแจ ผมก็ฝืนยิ้มเหลือเกิน 
ปากอยากจะไล่จูลไปเสียให้พ้นๆ 
แต่ผมก็ยังต้องการใครสักคนที่จะอยู่ข้างๆตอนนี้ 
สรุปให้เกาะไปก่อน.................... 
จูลก็น่ารักดีน่ะครับ แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเธอไม่เหมาะกับผมเลยไม่รู้ 
ผมชอบเหม่อ คิดถึงมิน ตอนนี้มินกำลังทำอะไร? 
อยู่กับใคร? สบายดีไหม? ผมคิดถึงมินตลอด วันละ29ชั่วโมงเลยครับ... 
ใช่ครับ29ชั่วโมง เพราะแค่24ชั่วโมงมันไม่พอสำหรับผมหรอกครับ............ 
อยากคืนดีกับมิน 
เพราะงั้น ผมเลยไม่เคยบอกว่าจูลเป็นแฟนผมเลยสักครั้ง 
เพื่อนถามก็บอกเพื่อน เต็มปากเต็มคำ 
แต่จูลก็ไม่ว่าอะไรครับ เธอเกาะผมแจ มือแทบไม่เคยปล่อย 
เหมือนจูลจะพยายามบอกทุกคนว่า 
ถึงปากจะว่าไม่ แต่การกระทำมันไม่ใช่...... 
ทุกวันนี้อยากคุยกับมินแต่เธอไม่เคยรับสาย 
ทั้งๆที่ผมลองบอกให้คนอื่นโทรไปเธอก็รับ 
คุยร่าเริงปรกติ 
สรุปผมโดนเกลียดใช่ไหมครับ มินไม่รักผมแล้วเหรอ 
กับเรื่องแค่นี้อ่ะน่ะ......... 
เหงาโคตร..................................มินไม่มานั่งกับพวกผมเหมือนเดิม 
ยิ่งช่วงนี้เพื่อนๆเรียนกันหนักเลยแยกๆกันไปด้วยแล้ว 
เหมือนผมจะไม่เหลือใครเลยครับ............... 
นั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้มินตัดผมได้ง่ายขึ้นล่ะมั้ง 
เพราะยังไงก็ไม่ได้มาเจอเป็นกลุ่มใหญ่ๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว 
เพื่อนๆก็ชอบมาหาผมน่ะครับ 
แต่พอพวกมันเห็นหน้าจูล ดูเหมือนพวกมันจะไม่ค่อยชอบเท่าไรห่ 
นายบอยยังแอบกระซิบผมเลยครับว่า มินดีกว่าเป็นไหนๆ 
ยิ่งวาวาไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะครับ 
เธอประกาศลั่น 
ถ้าจูลอยู่ไม่ต้องโทรหาฉัน เวรกรรมชิวิตจริงๆ 
................................. 
....................... 
จนวันนึงผมนั่งกันที่เซ็นเตอร์ของมหาลัย 
คนผ่านไปผ่านมา มีนายโจมานั่งเป็นเพื่อน นายโอ้ตเดี้ยวจะตามลงมาเรียนอยู่ 
กะว่าเดี้ยวจะไปกินข้าวด้วยกัน 
วันนี้จูลไม่มาครับสบายใจ เธอติดเรียน ดีไปเรียนซ่ะมั่ง 
ผมจะได้มีเวลาไปเจอเพื่อนๆมากกว่านี้..... 
เห้ยเจมมานู่นแล้ว นายโจชี้ผมหันไปดู 
นายโอ้ตครับ เดินมาของงี้พะรุงพะรัง ตะโกนโวยวายมาแต่ไกล 
เห้ย มือน่ะถ้าว่างมาช่วยกรูถือหน่อยสิว่ะ อย่าเอาแต่มอง 
เสียงนายโอ้ตเป็นจุดเด่นจนพวกผมลุกไปช่วยแทบไม่ทัน 
เดินไปช่วยนายโอ้ตถือของ 
กินร้านไหนดีว่ะผมถาม....... 
ไปกินที่ร้านข้างรั้วล่ะกันมันบอก....... 
เออได้ๆ เอาของไปเก็บที่รถก่อนเถอะเวร ยังกะแรงงานต่างด้าว 
แล้วผมก็พากันเดินไป 
แต่ของที่นายโอ้ตฝากถือก็หลุดร่วงลงพื้น 
ไม่ได้ร่วงเพราะผมแกล้ง หรือเพราะอ่ะไร 
แต่ที่ร่วงเพราะผมช็อค 
แทบไม่เชื่อสายตากับภาพที่เห็นตรงหน้า 
มิน...................เดินกับผู้ชายคนนึงสนิดสนม 
หัวเราะกันมาตลอดทาง.................. 
ถึงไม่ได้เดินจูงมือ แต่ถ้าดูแล้วก็แสดงถึงความสนิดสนมชัดเจน..... 
ผมยืนข้างอยู่อย่างนั้น เธอเดินมาใกล้พวกผม 
แล้วเธอก็เดินผ่านไป เหมือนพวกผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น 
เหมือนตัวผมไม่มีตัวตน............................ 
เห้ยเจม................นั่นมินนี่หว่า นายโจสะกิดถามผม 
เออ.................เห็นแล้ว.... 
แล้วมินเดินกับใครว่ะนั่นน่ะนายโอ้ตถาม ก้มลงเก็บงานของมันที่ร่วงลงไปกับพื้น 
ไม่รู้ ไม่อยากรู้ด้วย................................ 
นายโจกับนายโอ้ตมองตามคู่นั้นไป ผมยืนหันหลังไม่มอง 
ปวดในอกที่สุด ปวดมากจริงๆ 
เห้ยเจม จับมือกันด้วยว่ะ นายโจพูด 
แต่ผมไม่หันไป ไม่...........................มันไม่จริง....... 
ไปเหอะ ผมบอกเดินไปหยิบของที่นายโอ้ตเก็บเสร็จเดินนำ 
พวกนายโจเดินตามดูเหมือนมันจะเลิกถามผมเรื่องนั้นแล้ว 
เพราะไม่ว่าใครดูก็คงเข้าใจ....... 
ใช่ครับ มินมีคนใหม่แล้ว..................... 
ได้แต่มองเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ ได้แต่มองจริงๆ 
เห็นมินอยู่กับเขา คนที่ผมไม่รู้จัก.... 
ไม่มีสิทธิพูดครับ เศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน.... 
ผมบอกตัวเองว่าเป็นเพื่อนก็ได้นี่ 
อย่างน้อยผมอยากจะยิ้มให้มิน 
อยากจะให้มินให้โอกาสผมบ้าง 
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ผมเจอมิน ผมเลยพยายามที่จะยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม 
แล้วก็ยิ้มให้มินทุกครั้ง 
แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่มินจะยิ้มตอบ 
ราวกับว่า รอยยิ้มของมินมีไว้เพื่อเขาเท่านั้น 
แค่เพื่อนผมยังเป็นไม่ได้ 
เธอลบทุกอย่างเกี่ยวกับผม ทุกอย่างจริงๆ 
พยายามทำใจให้ลืม แต่มันไม่ลืมน่ะสิครับ 
ความทรงจำเกี่ยวกับเธอมันมากมายเกินไป 
ถ้าตอนนี้มินกำลังลองใจผมล่ะก็ พอเถอะครับผมเกินจะรับมันแล้ว 
มินเจมขอโทษ ขอโทษจริงๆน่ะ...... 
ข้อความที่110ตั้งแต่เลิกกันที่ผมส่งไปให้มิน เช้ากลางวันเย็น 
ถึงเธอไม่เคยจะตอบ แต่ผมรู้เธออ่านทุกข้อความที่ส่งไปให้ 
ผมก็ได้แต่คาดหวังเท่านั้นล่ะครับ ว่าสักวันมันจะไปถึงหัวใจมิน....... 
ถึงตอนนี้ยังส่งไปไม่ถึงก็เถอะ..... 
ตอนนี้ผมเหมือนคนหูหนวกตาบอด 
วาวาที่เคยเป็นหน่วยข่าวให้ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมช่วยผมเลย 
เธอคุยกับผมเหมือนปรกติ แต่พอพูดถึงมินเธอก็จะเงียบ 
แล้วก็พูดประโยคที่เหมือนท่องมา 
“เจม อย่าคุยถึงเรื่องนี้ได้ไหม” 
ด้วยสีหน้าเรียบ เย็นชา......................... 
ผมโดนปล่อยเกาะแล้วใช่ไหมครับ 
ผมไม่มีโอกาสแล้วใช่ไหมครับ..... 
เคยมีคนบอกว่าทำอะไรให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา 
ผมน่าจะทำตั่งแต่แรก 
เพราะตอนนี้ผมซึ้งดีเลยล่ะครับกับความรู้สึกของมินตอนนั้น 
เพราะตอนนี้น้ำตา จะห้ามให้มันไม่ไหลยังยากเลยครับ 
.................................. 
................... 
T-T 
เห้ยเจมเมื่อวานกรูเห็นมินไปกับหนุ่มอื่นเว้ย ดูหนังที่เซ็นทัลบางนา 
กรูขอนั่งยัน นอนยัน ตะแคงยันเลยนะเว้ยว่า 
สองคนนั้นเกินเพื่อแน่ๆ 
กรูเห็นมากับตา จับมือเดินกะหนุงกะหนิง 
แมร่งโอบเอวมินด้วยน่ะเว้ยมรึง 
นายนพ มาฟ้องถึงที่ จะว่ามันข่าวช้าหลังเขาก็อยากจะว่าน่ะครับ 
เขารู้กันจะทั่วมหาลัยแล้ว ดูมันเพิ่งจะรู้ 
แต่ถ้าดูจุดประสงค์ที่มันมาบอกผมแล้วด่ามันไม่ลง...... 
เห้ยเจม มินมีคนอื่นนะเว้ย ปล่อยไว้งี้แย่ว่ะ มรึงต้องไปเครียลแล้วน่ะเงี้ย 
คงไม่ต้องเครียลแล้วล่ะวะ ผมบอกยิ้มให้มัน...... 
-_-“ ทำไมล่ะว่ะนายนพถามผม 
กรูเลิกกับมินแล้ว 
หา..................เห้ยมรึงอำเปล่า นายนพถาม ถามไม่ถามเปล่าตะแคงคอเล็กน้อย 
เหมือนหมาเวลาสงสัยยังไงหยั่งงั้นเลยล่ะครับ 
เออไม่อำกรูเลิกแล้วจริงๆ ผมได้แต่ตอบกลับไปเซ็งๆ 
แล้วใครผิดว่ะ มรึง หรือ ว่า มรึง 
เอ้ะ แมร่งถามแปลก ถามงี้ผมจะตอบไงล่ะครับ 
เออ อย่างที่มรึงคิดแหละ กรูผิดกรู..... 
เห้ย เดี้ยว หยุดๆ ให้กรูทายน่ะ มรึงทะเลาะกันเพราะมรึงมีคนอื่นใช่ป่ะ นี่กรูเดาน่ะ 
เงียบเหมือนเป่าสาก พูดอะไรไม่ถูก ได้แต่คิดในใจ 
“มันรู้ได้ยังไงว่ะ” 
เห้ยนพ ทำไมมรึงคิดว่ากรูเลิกกับมินเพราะเจ้าชู้ว่ะ ผมถาม 
เพราะเท่าที่กรูดูน่ะ มันพูดเอามือจับคางเดินไปเดินมา 
มินรักมรึงมากว่ะเจม 
แล้วเท่าที่ดูมันก็ไม่มีอะไรที่มรึงกับมินจะไปด้วยกันไม่ได้ 
ท่าทาง นิสัย ฐาน่ะ....... 
.................................. 
ถึงมรึงจะทุเรศ 
เชี่ย............... 
จัน....ไร........... 
โง่........... 
ประสาท............... 
ซกมก................ 
ยังไงน่ะมินก็รับมรึงได้หมดแหละ 
ถ้าจะมีเรื่องให้มินรับไม่ได้ก็เรื่องเดียวแหละ 
มรึงไปมีคนอื่นก่อน..................ใช่ป่ะ มันชี้นิ้วมาทางผม 
ชี้ไม่ชี้เปล่า มันเต้นทำท่าโนเนะด้วยครับ 
ก็อย่างว่าแหละน่ะ ผู้หญิงลองได้รักแล้วน่ะ 
ถึงมรึงจะสิวนรก ตาเข เจ้าเลห์ยังไงเขาก็เห็นมรึงดี 
หล่อเท่ ไปหมดแหละ 
ก็เหมือนคนที่มรึงเกลียดอะ 
มันทำดียังไงก็แมร่งชั่วไปหมด..... 
แต่ถ้ามีเรื่องที่จะรับไม่ได้ในผู้หญิงทุกคนที่รักมรึงน่ะ ก็คือมรึงมีชู้ไง... 
ไม่มีผู้หญิงคนไหนใจกว้างพอหรอก 
ที่ฉันจะมีเพียงเธอ แต่เธอจะไม่มีเพียงฉันก็ได้น่ะ มันไม่แฟร์ว่ะ 
............................. 
ถึงนายนพจะพูดถูกยังไงก็เถอะนะครับ แต่ท่าทางที่มัน 
พูด วาจา ของมัน ผสานกับท่าเต้นแล้ว 
ตอนนี้นายนพ หน้าตามันเหมือนลูกฟุตบอลเข้าไปทุกที 
ถ้าผมเตะมันมันอาจจะดีใจก็ได้น่ะครับ 
ก็นายนพชอบฟุตบอลนี่ครับ 
ใช่!มันชอบฟุตบอล 
มันต้องชอบแน่ๆครับที่มันได้เป็นสิ่งที่มันรัก 
แต่ดูเหมือนมันจะอ่านท่าทางผมออก นายนพถอยหลังไปสองก้าวตั่งแต่ผมยังไม่ขยับตัว 
เห้ยเจมแล้วมรึงจะเอาไงว่ะ มันรีบเปลี่ยนเรื่องคุย 
ไม่รู้ให้กรูทำไง แฟนเขากรูยังไม่มีคุณสมบัติเลยว่ะ...... 
กรูเสียใจด้วยว่ะ นายนพพูดทำหน้าเศร้าๆ 
เออ ......... 
ผมได้แต่ตอบไปสั้นๆ...... 
มันตบไหล่ผมเบาๆ ให้กำลังใจ? 
หรือแมร่งสมน้ำหน้าผมกันแน่ไม่อาจทราบได้ครับ 
ช่างเหอะครับจะสนอะไร 
ยังไงผมก็ไม่เหลืออะไรแล้ว..... 
..................................... 
............................ 
กว่าเดือนแล้วมั้งที่ผมไม่มีมิน 
เศร้า.......... ชิวิตแมร่ง....บัดซบ 
ข่าวมินยิ่งหนาหู.................. 
อีกสองวันก็จะงานเฟรสชี่ไนท์แล้ว 
มองดูตัวเองแมร่งก็แก่ แป็บๆปีสองเวลาทำไมมันผ่านไปเร็วนักว่ะ..... 
ปลงเรื่องมิน แต่ก็ไม่คิดจะเอาจูลน่ะครับ 
มันพูดมาก รำคาญ!!!!! 
เริ่มเป็นคนไม่ดี เวลาให้เพื่อนน้อยลงพูดจาขวานผ่าซาก 
รู้ตัวครับรู้ตัว เพื่อนผมก็เตือน 
แต่จะทำยังไงได้ล่ะครับ จะให้ผมอ่อนแอฝันไปเถอะ 
มันจะเป็นอะไรแค่ไหนกันเชียว........ 
แค่นี้แมร่งรับผมไม่ได้ มันก็ไม่ใช่เพื่อนแท้แล้ว 
นั่งอยู่ที่โต้ะหลังมหาลัย มินคงมีความสุขกับแฟนใหม่ 
หยิบมือถือขึ้นมาโทรดู ไม่รับอีกตามเคย 
เออเซ็งว่ะ ยังไงผมก็เป็นอดีตไปแล้วใช่ป่ะ 
ก่ะขว้างมือถือทิ้ง แต่คิดอีกทีอย่าดีกว่า..... 
เดี้ยวมินโทรกลับมาแล้วผมจะไม่ได้รับ(เอาจริงๆก็คือมันแพง) 
.................................. 
เดินล้วงกระเป๋าเดินออกมาก่ะกลับบ้าน 
ดึกๆไม่แน่อาจจะไปต่อกะเพื่อนนิดหน่อย 
ไม่ใช่ว่าอยากเที่ยวอ่ะไรนักหรอก 
แต่รู้สึกว่าทำงี้แล้วสบายใจ 
มีอะไรทำ เมาก็ช่าง มันได้แหกปาก จะได้ไม่ต้องนึกถึงมิน 
พ่อไม่ด่าแม่ไม่ว่าคงเข้าใจว่าลูกวัยรุ่น 
มันเปลี่ยนแปลงเอา มันติดเหล้าดีกว่าเป็นกะเทย...... 
จีบสาวไซด์ได้เพียบครับ 
ไม่ได้จีบด้วยมันมาเอง.................... 
ชิวิตนี้ผู้หญิงเยอะแยะ บวกจูลไปอีกคนนี่บอกตรงๆนับแทบไม่หวาดไม่ไหว 
สวยกว่ามินก็มิน สวยแบบโคตรพ่อโคตรแม่ หุ่นแบบเกิดมาเพื่อเป็นแม่พันธุ์... 
เนื้อนมไข่สมบูรณ์ 
บางคนมีมากเกินไปยังกะพ่อเป็นสัมปทาน 
แต่.................... 
ไม่รู้สิครับ ผมกับรู้สึกเหมือน ในใจมันไม่พอ มันไม่เต้มยังไงไม่รู้...... 
.......................................................... 
....................................... 
ก็ยังรักอ่ะ ผมจีบแบบใจคอไม่ปรกติ 
บางทีก็หวานกับคนที่เพิ่งเจอแบบหวานหยดย้อย 
เหมือนเอาเขามารักษาแผลใจ 
รู้ครับรู้มันไม่ดีที่จะเอาใครไปเป็นตัวแทนใคร 
แต่มันทำไปแล้ว แต่มันหยุดไม่ได้ด้วย 
เอ........................หรือผมจงใจที่จะไม่หยุด 
คิดถึงมิน รักมิน ไม่มีอ่ะไรมาแทนเธอได้ 
ต่อให้16นางแบบโลกมายืนล่อนจ้อนตรงหน้า ผมก็ยังเลือกมินแน่ๆ(ปากดี) 
ผมจีบคนแบบให้ความหวัง 
จีบไปหยั่งงั้น บอกตรงๆวันต่อมาผมก็จำชื่อไม่ได้แล้ว..................... 
อยากอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยไปเจอเพื่อน 
ไม่ไปหาจนมันบ่น 
แต่ผมก็ปล่อยให้มันบ่นไป....................... 
มันจะด่าว่าผมทิ้งเพื่อนผมก็ไม่ว่าหรอกน่ะครับ 
ก็ยอมรับ มันพูดถูกก็ผมทิ้งจริงๆ....... 
ก็ได้แต่หวังว่ามันจะเข้าใจ 
กรูอยากอยู่คนเดียว กรูขี้เกียจฟังที่พวกแมร่งพล่ามถึงมิน 
ถามถึงแต่มิน ก็รู้นี่ว่ามินไม่อยู่แล้ว 
มินมันไปกับนายหนุ่มตี๋คนใหม่แล้ว 
มันจะถามหาอะไร(ว่ะ) 
แต่ล่ะคนก็เสนอไอเดีย ทำหยั่งงั้นทำหยั่งงู้นจะได้คืนดี 
ผมก็อยากทำหรอก แต่มันทำไม่ได้ 
แค่โทรศัพท์มินยังไม่รับเลย จะเอาอะไรไปพัฒนา 
............................................. 
............................... 
แมร่งไม่ใช่ผมมันไม่รู้หรอก 
แฟนงอนยังเศร้า นี่แฟนเลิก 
สราด................................................. 
เอามีดมาแทงผมดีกว่าเงี้ย....... 
แล้วก็ถึงวันเอ....เฟรชชี่ไนท 
คนไม่รู้แห่มาจากไหนมากมาย 
ผมก็ไปด้วย เพื่อนมันชวนก็ไปๆกับมันหน่อย...... 
มันก็ดีที่ได้มาเป็นกลุ่มๆ แต่ถ้าจะมีสักอย่างที่เคืองไม่ชอบล่ะก็.... 
ก็จูลนี่แหละครับที่มาด้วย ผมไม่เคยชวนจริงๆสาบานได้ 
ใครไม่รู้คาบข่าวไปบอก............ 
เอาเหอะให้ตาย...................มีกินดีกว่าไม่มีจริงไหมครับ-“- 
เดินไปทั่วงานทักคนนู้นทีคนนี้ที.... 
เพื่อนเยอะวันนี้ เหมือนรวมพลเพื่อนเก่าๆ 
แวะไปตามซุ้มต่างๆ เจอรุ่นพี่สาวๆมาชวนน้องเข้าชมรม 
โอ้ว สวรรค์แท้ๆ 
คิดย้อนไปตอนปี 1 ที่ขอลงชื่อเข้าชมรมแลกเบอร์โทรกับพี่เขา 
ตอนแรกพี่เขาก็อาย แต่ก็ให้มา นายบอยเห็นผมได้เอาบ้าง 
ทำท่าเกาหัวขอ 
“เข้าก็ได้พี่ แต่แลกเบอร์ได้ป่ะ”นายบอยพูดทำหน้าตาน่ารัก... 
พี่เขายิ้มลูบหัวนายบอย......เหมือนมันจะมีความหวัง 
“พี่ว่าน้องไปเกิดใหม่ซ่ะทีสองทีก่อนก็ได้น่ะค่ะ เอาไว้พี่จะพิจารณา” 
นิ่งๆ สั้นๆได้ใจความ 
พูดจบพี่เขาเดินกลับเข้าซุ้มไป 
พร้อมกับเสียงฮาลั่น เหมือนใช้ระบบเซอราว์ 
นายบอยหน้าเสียรีบเดินหนี 
ถ้าหูผมไม่ฝาดรู้สึกนายบอยจะบ่นพึมพัมว่า 
“เอ้อ ถ้ากรูหล่อกว่านี้กรูก็ไม่มองมรึงร้อก”…..-“- 
เดินไปร้านหมูย่างของเพื่อน(นายโอ้ต) 
กิจกรรมชมรมดูดาว(รุ่นพี่น่ารัก) 
ผมก็ไม่รู้ว่านายหมูย่าง มันจะเกี่ยวดองกับดาวดวงไหน 
นายโอ้ตมันแผล่มๆว่ามันเกี่ยวข้องกับดาวลูกไก่ 
เพราะไก่กับหมูย่างอร่อยเหมือนกัน....................... 
มันจึงตั้งชื่อหมูย่างของมันซ่ะเริดหรูว่า ดาวลูกหมูเสียบไม้ย่าง 
เจริญดีครับ ผมว่าถ้าอาจารย์มาเห็นล่ะก็ 
เดี้ยวคงมี “ดาวดิ้น”ล่ะครับทีนี้ 
ผมไม่อยากบ่นอะไรมากมาย เลยหยิบค่าปิดปากมาแค่12ไม้เอง(ทั้งแผง) 
แล้วรีบซิ่งครับ อ่าวอยู่ก็โง่สิครับ.... 
เอาหมูย่างไปนั่งกินกะนายบอย.....(อร่อยสุดๆหมูฟรี หมูปนน้ำตานายน้ำตานายโอ้ต) 
ดูคอนเสริต โอ้วคลาสสิก วงดังๆมาหลายวง 
แหงนหน้ามองบนท้องฟ้ามีไฟเป็นสีๆร้อยไว้สวยงาม 
หันไปดูแสตนของคณะต่างๆ......ที่ประชันกันส่งเสียง 
จะว่าไปชิวิตคนเดียวสบายๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่ 
.................................................. 
.................................. 
แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นคนคนนึงเดินคู่กันมา 
จะใครซ่ะอีกล่ะครับ มินไงครับ กับใครไม่รู้..... 
มินสวยขึ้นเยอะ 
น่ารัก เดินคล้องแขน 
แขนคู่เดิมนั่นแหละครับที่เคยคล้องผม..... 
เธอนั่งดูคอนเสริตเหมือนคนอื่นๆตรงบันไดหิน 
เธอคงไม่รู้ว่ามีคนคนนึงแอบมอง 
ปวดหัวใจ อยากเดินเข้าไปคุย........ 
ผมลุกขึ้นยืนมอง มองไปที่สองคนนั้น.... 
................................................... 
เห้ยเจม อย่าไปสนใจเลยว่ะ นายบอยบอกผม 
ผมหันหน้าไปเห็นมันทำหน้าเศร้าๆ 
เหมือนมันจะเข้าใจ..................... 
เขาไม่ใช่ของเราแล้ว ทำยังไงเขาก็ไม่กลับมาหรอก......นายบอยพูดซ้ำ 
เออ..............ผมตอบนั่งลงที่เดิม 
มองดูนาฟิกาตัวเอง สามทุ่มแล้ว....... 
นั่งไปก็กระสับกระส่ายไป 
อยากคุยกับมิน อยากเสี่ยงอีกสักรอบ 
อยากคืนดีกับมิน อยากโทรหา....................อยากอธิบาย...... 
ผมทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้เธอคืนตอนนี้ ให้ผมกราบยังได้เลยครับ...... 
หยิบมือถือลองกดเบอร์ของมินแล้วแอบดู 
เอาโทรศัพท์แนบหู อยากให้มินรับ 
ผมจะบอกให้เธอแอบออกมา 
ผมอยากคุย อยากบอกเธอว่าขอโทษสักล้านครั้ง อยากบอกว่า 
ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ขอแค่เธอกลับมาคืนดี 
ตื้ด.............ตื้ด..............เสียงโทรศัพท์ดัง 
ผมมองไปที่มิน เห็นเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู..... 
ผมเห็นเธอคิ้มขมวด ดูชื่อผม....... 
........................................รับสิมินรับสิ ผมบอก..... 
แล้วสัญญานก็ขาด...................... 
ใช่เธอตัดสายผม ทำไม ทำไม ทำไม..................... 
ผมเซ็งอย่างแรงนั่งลง....................... 
ความรู้สึกต่างๆมันรุ้มเร้าในสมองจนมึนตึ้บ.... 
ผมกำหมัดแน่น ลุกเดินตรงไปที่มินกับนายคนนั้น......... 
อะไรก็หยุดผมไม่ได้แล้ว!!!!!!!!!!!!!!!! 
มิน ผมเรียกเสียงดัง เดินแหวกฝูงชนเข้าไป 
มินหันมาทำหน้าตกใจ 
เจม.......... เธออุทานออกมาเบาๆ 
ผมเดินไปหยุดตรงหน้ามิน มอง 
อารมณ์ โกรธ รัก เกลียด อยากร้องไห้ มันตีกันให้วุ่น 
.......................................... 
ทำไมมินทำกับเจมแบบนี้ 
ใช่เจมอาจไม่ใช่แฟน แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยรักกัน 
เราเคยมีความรู้สึกดีๆให้กันไม่ใช่เหรอ...........ผมถามมิน 
เธอมองมาที่ผม เหมือนผมจะเห็นความรู้สึกอะไรบางอย่างในสายตา 
มินหลบหน้าผม หันไปทางผู้ชายที่มาด้วย..... 
ไปกันเถอะ เธอบอกคนนั้น จูงมือเดินไป.... 
ทิ้งให้ผมยืน 
ใช่ยืนคนเดียว..... 
ในอกมันเหมือนจะระเบิด ร้อนวาบกับความรู้สึกวูบ ผมกำหมัดแน่น 
ไหนว่าจะรักกันตลอดไปไง ไหนว่าเราจะแต่งงานกันจำได้ไหม.....ผมตะโกน 
ดังลั่นจนคนบริเวณนั้นหันมามอง 
ทุกคน ยกเว้นมินกับเขาคนนั้น 
มินไม่ได้เดินต่อ เธอยืนนิ่ง........ 
เหมือนคำของผมจะจี้ไปที่ใจเธอ............... 
จำได้ไหมมินสัญญา.... 
หรือลืมไปแล้ว....ผมถาม 
ไม่ลืมหรอกเจม.....มินตอบ เธอยินนิ่ง.... 
ไม่เคยลืมเลย................................. 
ผมเดินไปที่มินดึงมือมินมาจากคนนั้น ผมลากเธอตรงไปที่เวที 
เวทีประกวดดาวกับเดือนคณะนั่นแหละ 
เจมจะพามินไปไหน หยุดน่ะปล่อย................มินพูดพลางพยายามแกะมือผมออก 
ปล่อยสิเจม...................ปล่อย......มินพูดหลายต่อหลายครั้ง 
แต่มีหรือผมจะเชื่อ..... 
เผี้ยะ........................... 
ฝ่ามือมินกะทบกับหน้าผมเป็นรอยแดง 
เข้าเต็มๆ ไม่เล็งแต่ไม่พลาด...... 
เจ็บ.......................แต่ในใจมันเจ็บเสียกว่า คนที่เรารักตบหน้าเรา....... 
ผมหันไปทางมิน....... 
ตามมาเถอะมิน เจมขอร้องเจมมีอะไรจะบอก 
ขอแค่คืนนี้ก็ได้...... 
ตอนนี้เชื่อใจเจมได้ไหม แค่อีกครั้ง......ผมหันไปบอกมิน พยายามขอร้องเธอจนถึงที่สุด.... 
มินยืนนิ่ง........ 
ได้......ไปไหนล่ะ มินถามผม 
นี่โอกาศครั้งสุดท้ายจริงๆน่ะเจม ครั้งสุดท้าย 
มิน...เจ็บกับเจมมามากพอแล้ว.... 
อืมเราสัญญามิน ผมกึ่งลากกึ่งจูงมินไปที่เวที 
ท่ามกลางสายตาของผู้คน ที่ผมตกเป็นเป้าตั่งแต่แรกอยู่แล้ว.... 
ผมเดินไปที่ไมค์ที่ตั้งอยู่กลางเวที 
ลากมินไปด้วย มินยืนข้างๆ...... 
เอ่อ.......ทุกคนครับ......ผมพูดกรอกเสียงไปที่ไมค์ เรียกร้องความสนใจได้พอสมควร 
ทุกคนหันมามองที่ผม เหมือนจะรอฟังว่า มันจะพูดอะไร(วะ) 
พิธิกรของงานยังยืนงง...... 
ผมก้มหน้าปิดตา.....ก่อนจะพูดต่อไปว่า 
“ผมมีเรื่องจะสารภาพ”……………… 
ผมหันไปมองมินก่อนที่จะพูดต่อ....... 
เมื่อไม่นานมานี้ผมมีแฟนคนนึงครับ ผมกับเธอคบกันมาได้เกือบสองปีแล้ว 
ผมรักเธอ แล้วก็ดูเหมือนเธอก็จะรักผม.... 
มันดูเหมือนไม่น่าจะมีปัญหาใช่ไหมครับ 
เธอก็ดีกับผมทุกอย่าง ใจดี สวย น่ารัก เอาใจเก่ง ถึงบางครั้งเธอจะขี้งอนไปบ้างผมก็ยังว่าเธอน่ารัก..... 
แต่วันนึง ผมกลับทำตัวเหลวแหลก.... 
ผมแอบมีคนอื่นครับ 
............................... 
ผมนิ่งเงียบเว้นระยะแป็บนึงก่อนจะพูดต่อ ผมได้ยินเสียงโห่มาจากหลายที่ 
ดูเหมือนพวกผู้หญิงจะไม่พอใจ......แล้วผมก็เริ่มพูดต่อ 
ครับ ผมรู้ผมผิด...... 
และดูเหมือนเธอก็จะรู้เหมือนกันว่าผมก็ผิด 
ตลอดเวลาที่ผมไปหาเธอคนนั้น เธอรู้อยู่ตลอด 
แต่เธอไม่พูด เพราะแค่คำว่าเธอรักผม 
มันเจ็บปวดน่ะครับ เจ็บปวดจริงๆ 
กับการที่ต้องแกล้งทำเป็นคนโง่ 
ผมบอกตรงๆถ้าเป็นผมผมก็คงไม่คิดจะทนด้วยซ้ำ...... 
เธอคนนั้นหวัง หวังแค่ว่าสักวันผมจะสำนึกตัว..... 
จะมาสารภาพผิด จะมาขอโทษ.................. 
แต่เปล่าเลยครับ ผมมันโง่ ที่คิดว่าเธอเป็นคนโง่...... 
เหมือนจะยิ่งได้ใจ.........ผมคบกับคนคนนั้นจริงจังขึ้น 
................................................... 
......................................... 
แล้วนี่ก็คือผลที่ผมได้รับ....... 
หลายวันที่ผมไม่มีเธอคนนั้นยืนข้างๆ 
วันนั้นที่ผมเห็นว่าเธอเดินกับใคร 
วันที่เธอขว้างแก้วใส่ผม บอกเลิกผม 
วันที่ผมรู้ว่าทุกอย่างจบ ผมจะไม่มีเธออีกแล้ว 
กับความรู้สึกทรมานเวลาเห็นคนที่เรารักเดินกับใคร 
ใครสักคนที่ไม่ใช่เรา 
รอยยิ้มที่เคยให้ น้ำตาที่เคยไหลให้กัน มันโดนตอกย้ำกับคำว่าไม่ 
ไม่มีเราอีกแล้ว....... 
มันทำให้ผมเข้าใจความรู้สึก รู้ตัวว่าตัวเองมันเลวขนาดไหน...... 
ทั้งๆที่มีคนคนนึงรักผมมากว่าใคร แล้วผมก็รักเธอมากกว่าใครเช่นกัน...... 
.............................................. 
................................ 
ผมก็พยายามหลายครั้งที่จะขอเธอคืนดี.... 
อยากจะบอกเธอว่าผมจะปรับปรุงตัว 
จะไม่มีเรื่องอย่างนี้อีก 
ผมอยากจะบอกว่าเธอมีความหมายสำหรับผมมากมายเพียงไหน 
ผมแคร์เธอขนาดไหน................... 
เธอเป็นคนสำคัญ เป็นมากกว่าคำว่ารัก....... 
หากมีโอกาศสักครั้งผมก็อยากจะบอก 
อยากจะให้เธอรู้สักคำที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้ 
“เรารักมินน่ะ”..................... 
.............................. 
................. 
ผมพูดหันไปมอง..... 
มินยืนนิ่ง แต่ตาเธอแดง เธอกลั้นน้ำตา..... 
ไฟบนเวทีส่องมาที่ผมกับมิน..... 
เหมือนละครบทหนึ่ง ที่มีตัวเอกแค่สองตัว 
ละครที่ทุกคนกำลังดูและกำลังลุ้นตอนจบว่ามันจะออกมาแบบไหน 
........................................ 
มิน...............ก็รักเจมน่ะ 
เธอตอบคำพูดเดิมที่ผมเคยได้ยินเป็นล้านครั้ง 
แต่ทุกครั้งผมก็จะดีใจ.... 
ผมดึงมินเข้ามากอด แน่นให้มันชดเชยกับเวลาที่ผมไม่มีเธอ........ 
มินร้องไห้ ไม่ต่างกับผมที่น้ำตาใกล้จะไหล..... 
ผมจะไม่พูด ไม่อธิบายอะไรแล้ว...... 
ขอแค่มินยังอยู่ตรงนี้ อยู่กับผม.... 
ผมจะไม่ถามว่าใครผิด ผมจะไม่ถามว่าทำไมมินถึงมีคนนั้น....... 
แต่ผมจะถามเพียงแค่ว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหม........ 
ผมกับมินกอดกันแน่น มินยังไม่หยุดร้องไห้ 
เสียงเพลงบรรเลงเพลงรักของวงดนตรีดัง...... 
เสียงตบมือดังขึ้นทีละแปะสองแปะจนกระหึ่ม...... 
เหมือนละคร...... 
แต่มันต่างกันตรงที่มันเป็นความจริง 
มีคนมาพาพวกผมลงจากเวที.... 
ผมขอใช้คำว่าเชิญแล้วกัน เพราะพวกเขาเข้ามายิ้มให้ 
ไม่มีการบังคับ พี่เขายิ้ม...... 
ตอนลงจากเวทีมีคนมองเยอะมาก บางคนเข้ามาตบไหล่ 
บางคนยกนิ้วให้ ทำหน้าเหมือนเป็นเพื่อนผมมานาน 
ได้ยินเสียงอวยพร...... 
ไม่รู้สิผมว่าทุกคนเหมือนจะอวยพรให้ผม..... 
ผมไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่สักหน่อย..... 
ผมแต่ทำตามที่ตัวเองคิด 
ผมก็แค่หัวใจตัวเองเท่านั้นเอง... 
........................................ 
มินกับผมเดินกอดเอวกันลงจากเวที 
หมดคำถามไม่อยากได้ยินคำอธิบายอะไร.... 
ตอนนี้เหมือนความฝัน ผมได้มินกลับมา 
มินที่รักของผม................... 
ผมเห็นมินยิ้ม ตาเธอมองมาที่ผม สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก 
สายตาที่หวานที่สุดเท่าที่คนคนนึงจะสามารถทำได้ 
ตาคู่เดิมที่แค่มอง ก็เหมือนจะบอกว่า 
“เรารักเธอน่ะ” 
ตลอดเวลา........................... 
มิน......เจมขอโทษน่ะ 
ว่าไงค่ะเจม ขอโทษมินเรื่องอ่ะไรเหรอ....มินถาม 
ก็ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเจมมีชู้ เจมเอาแต่ใจ 
เรื่องที่เจมบังคับมิน เรื่องที่เจมทำเขาคนนั้นคงไม่ชอบ.....เจมขอโทษจริงๆ 
เขาคนไหนเจม.......?มินถาม เธอถาม 
ผมเห็นน่ะว่าเธอแอบอมยิ้มหน่อยๆ 
ก็เขาคนนั้นไงมิน คนที่มินจับมือเดินไปไหนต่อไหนด้วยจนทั่วมหาลัย 
มินมีความสุขดีหรือเปล่าล่ะตอนอยู่กับเขา.... 
....................... 
มินเจมไม่รู้หรอกน่ะว่าเขาทำอะไรเพื่อมินมั่ง 
เจมจะไม่ถามหรอกว่าเขาดีขนาดไหน แต่เจมขอโอกาศได้ไหมมิน 
ขออีกสักครั้ง................... 
ถ้ามินยังไม่รักเขามากกว่าเจม เจมก็อยากจะเป็นคนที่ดูแลมินเหมือนเดิม.... 
คิก...................เจมหึงเหรอ......มินพูดขำๆ 
หึงดิมิน หึงมากด้วย แต่เจมก็คงไม่มีสิทธิพูดอะไรมั้ง..... 
เชอะแล้วทีเจมล่ะยังมีคนอื่นเลย 
ทำไมมินจะมีมั่งไม่ได้ล่ะ....... มินถามย้อนผม สั้นๆแต่เล่นเอาผมเงียบ.... 
.............................................. 
อืมขอโทษ...... 
เข็ดหรือยัง? มินถาม 
เข็ดดิ รับรองจะไม่มีอีกแล้ว 
อืม งั้นมินจะบอกความจริงเจมแล้ว........ 
ความจริงเหรอ? ความจริงอ่ะไรเหรอมิน 
สิ่งที่มินทำกับเขาไง บางสิ่งที่เจมไม่รู้..................... 
อะไรน่ะมิน มินหมายความว่า.... 
โอ้ มิน มินทำหยั่งงี้กับเจมได้ไง ไหนบอกจะเก็บไว้จนวันแต่งงาน 
ตลอดสองปีที่เราคบกันเจมไม่เคยแตะต้องมินเลยน่ะ 
นี่เหรอที่มินตอบแทนเจม....... 
ใช่ เจมยังดูไม่ออกอีกเหรอว่า.......มินกับเขา..มินพูดอ้ำอึ้ง 
ไม่มิน เจมไม่อยากฟัง ผมบอก 
ความจริงมันเลวร้าย........... 
ลูบหัวเธอ ไม่เป็นไรมินเจมใจกว้างพอ 
เจมอาจไม่ใช่คนแรกน่ะมิน แต่เจมก็จะยังรักมินน่ะ..... 
แต่เจมขออ่ะไรอย่างได้ไหม? 
อืม.................ว่ามาสิเจมจะขออะไร.....มินถาม 
ก็ถ้าเป็นไปได้ เจมขอน่ะมินอย่ายุ่งกับเขาอีก ได้ไหม 
แค่นี้เพียงเท่านี้ มันก็ปวดใจมากเกินพอแล้ว..... 
มินเงียบ............................ 
เจมสิ่งที่เจมขอมันเกินไปมินคงให้ไม่ได้หรอกน่ะ 
หา? มากไปยังไงมิน อย่าบอกน่ะว่ามินรักเขา...... 
มินจะคบสองคนไม่ได้หรอกน่ะ..... 
แต่เจมก็คงไม่ยอมให้เขาได้มินไปแน่ๆอยู่แล้ว... 
เจมก็สู้สิ มินบอก....... 
สู้น่ะสู้ แต่เจมถามจริงเถอะ แค่นี้มินทำเพื่อเจมไม่ได้เหรอ....... 
ไม่รู้สิเจม มันพูดยากน่ะ..... 
มินรักเจมใช่ไหม? ผมถาม 
อืม รักดิ มินตอบมองผม 
แล้วมินรักเขาหรือเปล่า? 
อืมก็รักเหมือนกัน................................................ 
มินเล่นเอาผมมึน มินจะรักคนสองคน? มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะ... 
ผมบอก เจ็บในอก แปล็บๆ 
ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ก็มันรักไม่เหมือนกันนิ..... 
มานี่ก่อนเถอะเจมมานี่มินจะแนะนำให้รู้จัก 
แล้วมินก็ลากผมไปหาคนคนนั้น 
กึ่งลากกึ่งจูง 
บอกตรงๆไม่พอใจ ต่อให้มันเป็นเทพบุตรก็เถอะ 
มันไม่มีทางหรอกที่ผมจะดีกับมัน 
แต่เพราะเพิ่งคืนดี ผมคงไม่อยากทำอะไรที่คะแนนตัวเองจะลด ผมจึงเดินตามมินไป 
เอ้าเจม.................นี่ “กิ้ก”น่ะมินแนะนำผม 
ผมได้แต่มองหน้า 
กิ้ก เป็นคนหล่อน่าตาดี หุ่นพอๆกับผมแต่ขาวกว่า 
ใช่ผมยอมรับว่ามันดีกว่าผม ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ 
แต่ผมก็แสดงออกอะไรไม่ได้เลย....... 
กิ้กส่วนนี่เจมค่ะ แฟนมินเองโกรธกันไปเป็นเดือน คนที่เล่าให้ฟังไง มินพูดเสียงร่าเริง 
ผมแอบอมยิ้มเล็กๆ สะใจ 
เป็นไงล่ะเจ็บใจล่ะสิ......................... 
ต้าย หล่อน่ะแก หาบึ้กๆงี้ให้สักคนสิย่ะ 
แล้วนี่หล่อน พอคืนดีกับแฟนแล้วจะมาหาฉันอีกไหมเนี่ย 
อย่าลืมเพื่อนคนนี้น่ะแก.......เอ้อ งี้ฉันก็ไม่ต้องเล่นล่ะครแล้วใช่ไหมย่ะยายมิน 
0_o…….. 
O_0……. 
0_O……งง!!!!! 
ผมหันไปมองมินเห็นเธอยิ้มเยาะให้ เธอทำหน้าเหมือน 
รู้น่ะว่าคิดอะไรอยู่ 
ผมรู้น่ะว่าโดนมุขยายมินเสียแล้ว รู้ครับว่าพลาด 
แต่หน้าก็อดที่จะแอบยิ้มไม่ได้..... 
ยายมินเอาผมซ่ะแล้ว................. 
เป็นไงยังต้องอธิบายอะไรอีกไหม มีคำถามอีกหรือเปล่า เธอยักคิ้ว 
นี่ยายกิ้ก เพื่อนมิน ชื่อเต็ม คือ กุ้กกิ้ก 
เป็นชายแต่ใจเป็นหญิงรู้จักกับมินมาตั้งแต่โรงเรียนเก่า.... 
พอดีเจอ เลยชวนมาดัดนิสัยของผู้ชายบางคน.....เธอพูดชายตามาที่ผม 
ไม่รู้ว่าจะเข็ดหรือเป่า มินถามสายตาคมกริบ 
ได้แต่ก้มหน้า 
เข็ดจ้าไม่กล้าอีกแล้ว..... 
นึกขำตัวเองที่ตีโพยตีพาย.......................... 
รักมินน่ะ ผมบอกคำที่ไม่ได้บอกมานาน.... 
อืม บอกอะไรบ่อยๆ...แต่ก็ได้เอ้า รักเจมเหมือนกันน่ะ.... 
ผมยิ้มสิครับยิ้ม กะเดินเข้าไปกอด 
.............................................. 
เจม.....................เสียงมาแต่ไกล 
พร้อมกับจูลที่เดินมา จูลมาสายตาเย็นเฉียบ 
มองมินปราดๆ........................ 
เจมทำงี้หมายความว่าไงค่ะ? 
เจมมากะจูลไม่ใช่เหรอ? 
ไหนบอกจะไปแป็บเดียว? 
ทำงี้กับจูลจูลเสียใจน่ะ หรือเจมไม่รักจูล? 
อธิบายมาสิเจม ทำงี้กับจูลมันยุติธรรมเหรอเห็นใจจูลมั่งหรือเปล่า 
รักเจมน่ะค่ะ จูลบอก......... 
ว่าไปตกลงกับจูลเป็นแฟนตอนไหน 
ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าขอเป็นแฟน 
เอ....................หรือท่าทางมันจะออกครับ... 
จูลมองมาที่ผม สายตาเธอตอนนี้ดูลำบากมาก 
มันมีทั้งความรัก ทั้งความแค้น..... 
ผมรู้จูลโกรธ โกรธมินด้วย 
ผมไม่น่าทำแบบนี้ ถ้าผมไม่ได้รักเธอ ผมก็ไม่น่าจะทำให้เธอรัก.... 
มันเหมือนเป็นการเล่นตลกกับความรู้สึกใบ้........มองจูล มาทำอะไรตอนนี้ว้า 
ผมเพิ่งคืนดีกับมิน สถานะการณ์ยิ่งไม่ค่อยปรกติอยู่ นี่จูลยิ่งมาทำหยั่งงี้ 
จบสิครับ จบแน่ๆ..................... 
จูลเดินประชิดตัวมิน มองหน้า 
รู้ไหมกำลังยุ่งอยู่กับแฟนชาวบ้านเขาอยู่ รู้ไหมว่าเจมเป็นแฟนเรา จูลถามมิน 
ผมจำไม่ได้หรอกน่ะครับ 
มันเจ็บปวด..... 
เหมือนตัวเองเป็นนายโง่ ผมเข้าใจจูลดี เพราะผมก็เคยเป็น 
จูล เจมขอโทษแต่เจมรักจูลไม่ได้หรอกน่ะ.....ผมบอก 
ทำไมล่ะเจมทำไมจะรักไม่ได้ จูลมีอะไรที่ดีไม่พอหรือไงค่ะ จูลถามเสียงเธอเริ่มสั่น 
ไม่.............ไม่ใช่จูลดีไม่พอ เชื่อสิจูลมีผู้ชายรอเอาจูลอีกเยอะ 
จูลทั้งสวย ทั้งน่ารัก นิสัยก็ดี.... 
แล้วทำไมเจมไม่เอาล่ะหยั่งงั้น จูลถาม เสียงอ่อยๆเศร้าๆ 
ทำไมเจมถึงไม่รัก ในเมื่อจูลดีจริง เจมจะบอกว่าตลอดเวลา..... 
โกหก!!!! 
ใช่ไหม ไม่เคยรักจูลเลยใช่ป่ะ....... 
ไม่ใช่ไม่รักหรอกจูล(เอาตรงๆผมก็ไม่รักจริงๆนั่นแหละ) 
แต่เจมมีคนที่สำคัญกว่าไง มีคนที่เจมผูกพันกับเขามากกว่า... 
ผมบอกจูงมือมินให้จูลดู...... 
ก็ใช่จูลมันก็แค่ตัวปลอม เอาเหอะอยู่กันให้มีความสุขน่ะ 
ทั้งคู่นั่นแหละ......... 
จูลผู้หญิงพอ.........จูลไม่โง่ขนาดที่รักคนที่หลอกตัวเองมาตลอดหรอก 
........................................... 
............................ 
จูลหันหน้าเดินออกไปจากงาน 
ทิ้งผมกับมินยืนอึ้ง ผู้หญิงอย่างนี้พึ่งเคยเจอครับ 
ทั้งๆที่รู้ว่าโดนหลอก แต่ยืนยิ้มให้ 
กล้าที่จะบอกว่าให้ผมกับมินมีความสุข 
ผมว่าผู้ชายบางคนยังทำไม่ได้เลยครับ....... 
ผู้ชายอย่างผมนี่แหละที่ทำไม่ได้....... 
............................................... 
........................................ 
ขอโทษ ผู้ชายไม่พอ.......................... 


จบภาค11
....
...
..
.

 

    Source: geocities.com/thegto_2001