การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์

    ในปัจจุบันนี้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องพีซีได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บบันทึกข้อมูล การออกแบบ การค้นคว้าหาความรู้ การทำรายงานและเอกสารต่างๆ เป็นต้น ทำให้ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องเรียนรู้และติดตามความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้านนี้อยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้กับการทำงานของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

การดูสเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์

การเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์

สิ่งที่ควรทำก่อนการเลือกซื้อ

ข้อคิดในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์

ถ้าพูดถึงลักษณะการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้คงจะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ

กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่เลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบมียี่ห้อ หรือเรียกว่า เครื่องแบรนด์เนม [Brand name] ทั้งแบรนด์เนมของไทยและของต่างประเทศ เช่น Laser, Powell, IBM, Acer, Atec เป็นต้น

กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่ผู้ซื้อเครื่องสั่งประกอบตามร้านคอมพิวเตอร์ เช่น พันธ์ทิพย์พลาซ่า , เสรีเซ็นเตอร์ เป็นต้น

กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มผู้ที่ซื้ออุปกรณ์มาเป็นชิ้นๆ แล้วมาประกอบเองที่บ้าน

 

การเลือกซื้อในแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ที่เห็นได้ชัดก็มีดังนี้

ชนิดของการเลือกซื้อ

ข้อดี

ข้อเสีย

เครื่องมียี่ห้อ

- มีคุณภาพได้มาตรฐาน

- การบริการดี

- มีการรับประกันดี

- ในบางที่จะมีการฝึกอบรมโปรแกรมสำหรับผู้ซื้อเครื่อง

- มีบริการส่งเครื่องให้ถึงบ้าน และเมื่อเครื่องมีปัญหา บริษัทจะมีบริการส่งช่างไปซ่อมที่บ้าน

- เครื่องมีราคาสูง

-ไม่สามารถเลือกสเป็ค และยี่ห้อของอุปกรณ์ที่ต้องการได้

- เวลาสั่งซื้อเครื่อง ต้องรอเครื่องเป็นเวลานานหลายวัน

 

เครื่องสั่งประกอบ

- เลือกซื้ออุปกรณ์ หรือปรับเปลี่ยนสเป็คและยี่ห้อได้ตามต้องการ

- ราคาถูก [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- การรับประกัน [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- การบริการ [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- การประกอบเครื่องบางครั้งไม่เรียบร้อย

- การลงโปรแกรมใช้วิธีที่เรียกว่า โคลนนิ่ง มักจะเกิดปัญหาเวลาใช้งาน

- ถ้าความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ไม่ดีพอ อาจจะได้ของที่ไม่มีคุณภาพ

- เวลาเครื่องเสีย หรือมีปัญหาต้องยก เครื่องไปให้ช่างที่ร้านซ่อม

- อาจได้สินค้าของปลอม

เครื่องประกอบเอง

- เลือกซื้ออุปกรณ์หรือปรับเปลี่ยนสเป็ค และยี่ห้อได้ตามต้องการ

- ไม่เสียค่าประกอบ

- ราคาถูก [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- การรับประกัน  [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- การบริการ [ ขึ้นอยู่กับทางร้าน ]

- ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ทางด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพราะต้องประกอบ เครื่องและลงโปรแกรมเอง

- ถ้าความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ไม่ดีพอ อาจจะได้ของที่ไม่มีคุณภาพ

- เวลาเครื่องเสียหรือมีปัญหา ต้องยกเครื่องไปให้ช่างที่ร้านซ่อม

- อาจได้สินค้าปลอม

 

การดูสเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์

    โดยปกติแล้วในใบเสนอราคาจะมีรายละเอียดของชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องบอกมาอย่างละเอียด ได้แก่ ซีพียู เมนบอร์ด ชิปเซ็ต แรม ฮาร์ดดิสก์ ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ ซีดีรอมไดรว์ การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง จอภาพ เคส ลำโพง คีย์บอร์ด เมาส์ และของแถมเป็นต้น นอกจากนี้ในใบเสนอราคาอาจจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันเครื่อง หรือการรับประกันอุปกรณ์บางชิ้น เช่น การรับประกันเครื่องส่วนมากจะมีระยะเวลาประมาณ 1 ปี ส่วนการรับประกันฮาร์ดดิสก์จะมีระยะเวลาประมาณ 3 ปี

รายละเอียดของเครื่อง (สเป็ค)

อธิบาย

Intel Pentium III 650 MHz

ซีพียู Intel รุ่น Pentium III ความเร็ว 650 MHz

Mainboard Asus P3B-F

เมนบอร์ด Asus รุ่น P3B-F

Intel Chipset Support

PII 233 - PIII 700 Mhz

ชิปเซ็ตของ Intel สนับสนุนความเร็วของซีพียู

ตั้งแต่ PII 233 - PIII 700 MHz

SDRAM 64 MB PC 100 MHz แรมขนาด 64 MB ทำงานที่ความเร็ว 100 MHz
Monitor 15" Digital จอภาพขนาด 15 นิ้ว ระบบดิจิตอล

HDD 8.4 GB Ultra DMA

( 3 Year Wrranty)

ฮาร์ดดิสก์ขนาด 8.4 GB ชนิด Ultra DMA/66 ที่มีความเร็วในการถ่ายเทข้อมูล 66 MB/s

ATX Medium Tower Case เคสขนาดกลาง แบบ ATX
1.44 Floppy Drive ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ขนาด 3.5 นิ้ว ที่ใช้งานกับแผ่นดิสก์เก็ตท์
S3 Savage 8 MB/TV Out การ์ดแสดงผลที่มีขนาดของแรมบนการ์ด 8 MB และสามารถต่อเข้ากับ TV ได้
CD-ROM Drive 50X เครื่องอ่านซีดีรอม ความเร็ว 50 เท่า
Creative Vibra PCI 128 การ์ดเสียง ยี่ห้อ Creative รุ่น Vibra PCI 128
120 Watt Speaker ลำโพงขนาด 120 วัตต์
PS/2 Mouse / Keyboard Win 98 พอร์ตแบบ PS/2 ที่ใช้ต่อกับเมาส์ และคีย์บอร์ด
การเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์

ก่อนถึงรายละเอียดของชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ควรพิจารณาเลือกซื้อในปัจจุบัน เราจะต้องแบ่งระดับของผู้ใช้ก่อน โดยจะแบ่งตามชนิดของการใช้งานเป็นหลัก ดังนี้

     1. Basic User คือ ผู้ที่ใช้โปรแกรมประเภท Windows 98 , Ms Office , Utility ต่างๆ และดูหนัง ฟังเพลง

     2. Power User คือ ผู้ที่ใช้งานโปรแกรมด้านกราฟิก และเล่นเกมส์บ้าง เช่น โปรแกรม Photoshop , AutoCAD

     3. Graphic User คือ ผู้ที่ใช้เครื่องทำงานด้านกราฟิกเป็นหลัก เช่น โปรแกรม Photoshop , AutoCAD , 3D MAX

ซีพียู == เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรก และชิ้นสำคัญที่จะต้องพิจารณา ซีพียูที่น่าสนใจมีอยู่ 3 ยี่ห้อ คือ Intel , AMD และ Cyrix โดยรุ่นที่น่าสนใจของซีพียูแต่ละยี่ห้อสำหรับผู้ใช้ในระดับต่างๆ มีดังนี้

ระดับ User

ยี่ห้อ

รุ่น

Basic User

Intel

AMD

Cyrix

Celeron 400 - 500 MHz

K6-2 350 - 500 MHz

M II 350 MHz ขึ้นไป

Power User

Intel

AMD

Cyrix

Pentium 400 MHz ขึ้นไป

K6-III 400 MHz ขึ้นไป

M II+ 450 MHz หรือ M III

Graphic User

Intel

AMD

Cyrix

Pentium III 600 MHz

K7 600

--

เมนบอร์ด == ควรเลือกแบบ ATX เพราะเป็นเมนบอร์ดที่มีการทำงานเร็วกว่า AT และมีการจัดวางอุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีการระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมนบอร์ดที่มีคุณภาพดีมีอยู่หลายยี่ห้อ เช่น Abit , Aopen , Asus , Gigabyte , Intel เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจในตอนนี้ก็คือ เมนบอร์ดของ Aopen และ Abit เพราะเป็นรุ่นที่มีระบบ Soft Menu ทำให้เราสามารถอัพเกรดซีพียูได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องตั้งค่า Jumper หรือ DIP Switch แต่อย่างใด แต่ถ้าเลือกเมนบอร์ดที่ใช้กับ Athlon  ก็มีเมนบอร์ดให้เลือกอยู่ 5 ยี่ห้อ คือ Asus, K7M, Gigabyte, GA-71X, FIC SD11, FreeTech P7F200A, MSI 6167 แต่ถ้าเลือกเมนบอร์ดสำหรับ Pentium ก็จะมีเมนบอร์ดให้เลือกมากมาย

Mainboard  Asus CUBX

แรม == การเลือกแรมควรเลือกขนาดความจุอย่างน้อย 64 MB และมีความเร็ว 100 MHz ขึ้นไป เพราะโปรแกรมจะทำงานได้เร็วเมื่อมีหน่วยความจำมากเพียงพอ สำหรับยี่ห้อของแรมก็ควรจะเลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้ เช่น ฮิตาชิ ฮุนได แอลจี เอ็นอีซี ไมครอน เป็นต้น ถ้าซื้อแรมประเภทโนเนมก็จะได้แรมคุณภาพไม่ดี เสียง่าย ทำงานช้า และอาจทำให้เครื่องแฮงค์บ่อย

ฮาร์ดดิสก์ == ที่ควรเลือกใช้ในปัจจุบันคือ ฮาร์ดดิสก์แบบ UltraDMA/66 ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล (Transfer Rate) 66 MB/s ขนาดความจุที่เป็นมาตรฐานอยู่ในขณะนี้คือ 4.3 GB ในการเลือกขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์จะขึ้นอยู่กับปริมาณของข้อมูลของแต่ละคนว่า ต้องการเนื้อที่ในการจัดเก็บเท่าไร ฮาร์ดดิสก์ส่วนมากจะมีการรับประกันประมาณ 3 ปี

ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ == เป็นไดรว์ที่ยังคงนิยมใช้อยู่ในคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูกและไม่มีฟังก์ชันการทำงานอะไร เลือกซื้อได้ง่าย เพราะทุกยี่ห้อมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น TEAC , Samsung , Mitsu , Techmedia เป็นต้น

ซีดีรอมไดรว์ == ความเร็วของซีดีรอมที่เป็นมาตรฐานอยู่ในขณะนี้คือ 48 - 50X มีหน่วยความจำ 128 - 256 KB มาตรฐานของแต่ละยี่ห้อก็ไม่ต่างกันมากนัก ซีดีรอมที่นิยมใช้ได้แก่ AOpen , Asus , CTX , LG , Philips , Pioneer , Sony เป็นต้น

การ์ดเสียง == มีเมนบอร์ดจำนวนมากที่มีการ์ดเสียงรวมอยู่ในตัวที่เรียกว่า Sound on Board ซึ่งก็มีระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเมนบอร์ดที่ใช้ชิปอย่าง Creative Sound Blaster, Yamaha XG นั้นมีเสียงที่ดีมาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้การ์ดในระดับเสียงคุณภาพสูงก็ควรเลือก Sound Blaster Live! Platinium ที่ขายอยู่ตามร้านจะเป็นการ์ดที่มีราคาประมาณ 800 -900 บาท ซึ่งก็มีเสียงที่ดี

การ์ดแสดงผล == การที่จะเลือกว่าจะใช้การ์ดแสดงผลแบบ PCI หรือแบบ AGP นั้นให้พิจารณาโปรแกรมที่ต้องใช้ในการทำงาน ถ้าเป็นโปรแกรมทางด้าน 2 มิติธรรมดา เช่น Windows 98 , Ms Office ฯลฯ ก็ให้เลือกการ์ดแสดงผลแบบ PCI แต่ถ้าเป็นโปรแกรมทางด้านกราฟิก 2/3 มิติ เช่ย 3D MAX, Photoshop , AutoCAD ฯลฯ ก็ควรเลือกการ์ดแสดงผลแบบ AGP หรืออาจจะเลือกซื้อการ์ดแสดงผลแบบที่สามารถเร่งความเร็วได้ทั้งภาพ 2 มิติ และ 3 มิติก็ได้ ถ้าต้องการการ์ดแสดงผลคุณภาพสูงก็ให้เลือกการ์ดแสดงผลแบบ AGP2X ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ตอบสนองเทคโนโลยีของเกมส์ 3 มิติ โดยเฉพาะ มีแบนด์วิธในการถ่ายโอนข้อมูลได้มากกว่าระบบบัสแบบ PCI ถึง 4 เท่าและในปัจจุบันได้มีการผลิตการ์ด AGP4X ออกมาแล้ว โดยได้เพิ่มความสามารถ และเพิ่มความเร็วในการแสดงผลที่ความละเอียดสูง การ์ดแสดงผลที่นิยมใช้ได้แก่ Addonics , SIS6326 , Colormax S3 Savage4 , Millennium G400 , WinFast S320V , PixelView TNT2 , STB&3DFX Voodoo3 , Creative Banshee , Asus Geforce เป็นต้น

จอภาพ == ควรเลือกให้สอดคล้องกับการ์ดจอ เพื่อจะได้ภาพออกมามีคุณภา สำหรับขนาดของจอภาพที่นิยมใช้จะเป็นขนาด 15 นิ้ว ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกับจอภาพขนาด 14 นิ้ว และควรเลือกแบบจอแบน ซึ่งทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนจริงมาก และยังช่วยลดแสงสะท้อนได้อีกด้วย หรืออาจจะเลือกจอ Trinitron อย่าง MAG หรือ Sony ที่นิยมมากอยู่ในตอนนี้ ถ้าต้องทำงานด้านกราฟิกก็ควรเลือกขนาด 17 นิ้ว ขึ้นไป การรับประกันจอภาพจะประมาณ 1-2 ปี

คีย์บอร์ด == ราคาประมาณ 200 บาทขึ้นไป ถ้าต้องการคีย์บอร์ดที่มีคุณภาพและมีปุ่มฟังก์ชันการทำงานมากๆ  ก็คงจะต้องจ่ายในราคาสูง บางยี่ห้ออาจจะมีราคา 1,000 บาทขึ้นไป

เมาส์ == มีตั้งแต่ราคา 100 บาทขึ้นไป ควรเลือกเมาส์ที่มีล้อสำหรับเลื่อนหน้าจอ (Wheel Mouse) เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น

ลำโพง == การเลือกซื้อลำโพงควรเลือกให้สอดคล้องกับการ์ดเสียง ก็จะทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพ ราคาของลำโพงมีให้เลือกหลายราคา แต่สำหรับการใช้งานที่มีต้องการเสียงที่มีคุณภาพสูงนัก ก็ควรเลือกลำโพงราคาประมาณ 500 - 800 บาท ก็ให้เสียงที่ดีพอสมควร และควรเลือกลำโพง 120 วัตต์ขึ้นไป

สิ่งที่ควรทำก่อนการเลือกซื้อ

ในการเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชิ้นเพื่อนำมาประกอบเองนั้น คงจะต้องมีการหาข้อมูลเพื่อที่จะได้รู้ว่าต้องซื้ออุปกรณ์อะไรบ้าง ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ และราคารวมโดยประมาณ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลเบื้องต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ซื้ออุปกรณ์ได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ และเมื่อไปถึงร้านขายคอมพิวเตอร์ ก็ให้เดินสำรวจตามร้านค้าต่างๆ พร้อมทั้งหยิบโบชัวมาหลายๆ ใบ เพื่อนำมาเปรียบเทียบราคาและสเป็คของเครื่องกับร้านอื่นๆ พร้อมทั้งสอบถามในรายละเอียดที่น่าสนใจกับทางร้าน สิ่งสำคัญที่ควรใช้ในการประกอบการตัดสินใจคือ การรับประกันและการบริการหลังการขาย

ข้อคิดในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์

ในการพิจารณาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้น ควรเลือกเครื่องที่มีสเป็คที่จะสามารถรองรับการทำงานของคุณได้เป็นหลัก ดังนั้นก่อนที่จะไปซื้อคอมพิวเตอร์ ควรจะต้องถามตัวเองก่อนว่าต้องการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ทำงานอะไร เช่น งานเอกสาร งานด้านกราฟิก หรือซื้อมาเพื่อ ดูหนัง ฟังเพลงและเล่เกมส์ เป็นต้น เมื่อรู้สิ่งเหล่านี้แล้ว ก็จะสามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง ถ้าซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีสเป็คและประสิทธิภาพสูง แต่นำมาใช้งานเพียงแค่พิมพ์เอกสาร ดูหนัง ฟังเพลงบ้าง ก็คงจะไม่เหมาะสมนัก หรือซื้อเครื่องสเป็คต่ำ แต่กลับนำไปใช้ทำงานด้านกราฟิกก็คงจะไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องเช่นกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ควรจะต้องศึกษาและพยายามดูรายละเอียดในโบชัวให้เป็นเพื่อที่จะได้พิจารณาเลือกซื้อพีซีได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

BACK TO HOME TOP